นายกฯสั่งกลาง คณะรัฐมนตรีใส่เสื้อเหลืองทุกวันจันทร์ ประดับธงตราสัญลักษณ์ ๗๒ พรรษา “ภูมิธรรม” ขอไม่นำการเมืองโยงราชวงศ์“อิ๊งค์” ย้ำจุดยืน พท.ถวายความปลอดภัย สว.ตบเท้าแสดงพลังจงรักภักดี “ศานิตย์” บ่นอึดอัด ก.ม.มีช่องโหว่ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” สั่ง น.๑ จัดทุกข้อหาให้ “ตะวัน” ส่อเจตนาชัด องค์กรสื่อแถลงการณ์กังวล จับนักข่าวประชาไท-ช่างภาพอิสระ “ไอติม” ห่วงรัฐบั่นทอนเสรีภาพสื่อ นิสิตนิเทศฯจุฬาฯแต่งดำยืนหยุดขัง ๑๑ นาที ๒ วินาที ศาลให้ประกันนักข่าวประชาไท-ช่างภาพ “ตะวัน” โผล่ให้กำลังใจ“สายน้ำ” ตะโกนท้าทาย ก่อน ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลดินแดงนำหมายจับ “ตะวัน-แฟรงค์” หน้าศาลอาญา แจ้ง ๒ ข้อหา ม.๑๑๖-พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ปลุกปั่นก่อความไม่สงบ คณะรัฐมนตรีคึกคักเบิร์ธเดย์ ๖๒ ปี “เศรษฐา” นายกฯแจงพักโทษ “ทักษิณ” ตามระเบียบ แบะท่าจะไปขอคำปรึกษา“ทวี” คอนเฟิร์มพักโทษ “นายใหญ่” “อิ๊งค์” ปลื้มกับข่าวดีตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ขอศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ จากเหตุขับรถขัดขวางขบวนเสด็จ หลังไปร่วมให้กำลังใจนายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวประชาไท และนายณัฐพล พันธ์ พงส์สานนท์ นักข่าวและช่างภาพอิสระ ที่ศาลอาญา นายกฯสั่งใส่เสื้อเหลือง–ประดับธงเมื่อเวลา ๑๑.๒๘ น. วันที่ ๑๓ ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องในปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ในวันที่ ๒๘ ก.ค. ตามที่รัฐบาลได้ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม วันนี้ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. ให้ทุกหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ที่มีตราสัญลักษณ์ทุกวันจันทร์ หรือในโอกาสที่เหมาะสม สามารถใช้การแต่งกายเสื้อสีเหลืองแทนแบบฟอร์มได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ประดับธงสัญลักษณ์หน้าหน่วยงาน ขอความร่วมมือไปยังประชาชน ภาคเอกชนองค์กรต่างๆ รัฐสภา และหน่วยงานความมั่นคง รณรงค์ใส่เสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์โดยพร้อมเพรียงกันยันให้เกียรติสื่อไม่มีกลั่นแกล้งนายเศรษฐายังกล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวประชาไท ถูกตำรวจชุดนอกเครื่องแบบแสดงหมายจับและควบคุมตัวว่า รัฐบาลนี้แฟร์กับเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อพอสมควร สื่อก็เห็น เชื่อว่ารัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคนให้ความสำคัญ และให้เกียรติกันมาตลอด ส่วนเรื่องนักข่าวคนนี้จะไปทำอะไรผิดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไปดูแลให้เหมาะสม ถ้าจะให้ตนสั่งการก็สั่งการไม่มีการกลั่นแกล้งแน่นอน ทุกอย่างว่าไปตามตัวบทกฎหมายขอไม่นำการเมืองโยงราชวงศ์นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ กล่าวว่า ประเทศไทยปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรื่องเกี่ยวกับสถาบันในอดีต เราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว ประชาชนคนไทยให้ความเคารพนับถือเป็นสิ่งยึดโยงจิตใจคนไทยด้วยกัน กรณีที่เกิดขึ้นต้องดูตามความเป็นจริง จะบอกว่าใช้สิทธิเสรีภาพก็พูดได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสถาบันยิ่งต้องใช้ความระมัดระวัง เรื่องที่เกิดขึ้นประเด็นไหนที่ไปละเมิดกฎหมายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตัดสิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง การใช้สิทธิเสรีภาพของแต่ละประเทศมีขอบเขต เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวมีการเมืองหนุนหลัง นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่อยากให้นำการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ จะมีคนเกี่ยวหรือไม่ไม่รู้ เพราะเราไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่หลักการคือไม่ควรเข้าไปเกี่ยว ไม่ควรทำอะไรที่เหมือนเป็นการหนุนหลังให้มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นจุดยืน พท.ถวายความปลอดภัยที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จุดยืนของพรรค พท. ไม่สนับสนุนความรุนแรง เราสนับสนุนสิทธิเสรีภาพแน่นอน คนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย หากเราไม่เคารพกฎหมายจะอยู่ไม่ได้ อยู่ยาก เราต้องมีกฎหมายให้คนส่วนมากอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แต่บางกฎหมายที่เราไม่เห็นด้วย ไม่ถูกใจ ก็ต้องคุยกันอย่างเป็นระบบ เราต้องมีหลักเกณฑ์หลักการก่อนว่าหากจะแก้กฎหมาย เราต้องพูดคุยกันในสภาฯที่มีตัวแทนของประชาชนอยู่แล้ว เราไม่สนับสนุนความรุนแรง และแน่นอนว่าบุคคลสำคัญต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย ต้องมีคนดูแล ย้ำว่าเรื่องนี้จุดยืนของเราคือต้องมีคนดูแล สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอยากให้มีการคุยกันเป็นระบบ คุยกันในสภาฯแบบมีวุฒิภาวะ ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง“หนู” ฉะอยู่ที่ครอบครัวอบรมสั่งสอนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันเข้าชื่อเสนอญัตติด่วน ทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ รวมถึงแนวทางป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้ายสถาบัน คงมีการอภิปรายและเสนอแนะที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิด เหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนตัวคิดว่ากฎหมายที่มีอยู่ถ้าเราทำตามเคร่งครัด ก็เพียงพอจะดำเนินการกับคนจาบจ้วงละเมิดสถาบันได้ และการใช้เวทีสภาในการแสดงออกคือ การทำถูกต้องตามกฎหมาย คนไทยที่ถูกปลูกฝังมาดี มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีมีการ อบรมสั่งสอนดี จะมีความจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยสายเลือดโดยธรรมชาติ เราคงไปห้ามเขาแสดงความห่วงใยสถาบันอันเป็นที่เคารพรักของพวกเขาไม่ได้ ขอให้ทำด้วยความรักความศรัทธา แต่ไม่ใช่ไปท้าตีท้าต่อยกับใครสว.บ่นอึดอัด ก.ม.มีช่องโหว่เอาผิดเวลา ๐๙.๓๐ น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าวาระประชุม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สว. หารือถึงการป้องกันการป่วนขบวนเสด็จว่า เหตุการณ์ที่กระทำต่อขบวนเสด็จสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ กลุ่มบุคคลที่ทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีคนคอยหนุนหลัง รู้ข้อกฎหมายในการดำเนินการคนผู้นี้ได้รับการแนะนำให้อยู่ในบ้านไม่ต้องไปไหน ตำรวจต้องมีหมายค้น เมื่อตำรวจไปขอหมายค้นแต่คนผู้นี้มีหมายจับอยู่ จึงไม่ได้รับอนุมัติหมายค้นไปค้นบ้านเพื่อจับกุม ยังมีกระบวนการติดขัดอยู่พอสมควร ฝากถึงนายกฯและรัฐบาล จะมีมาตรการป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก ตำรวจจะทำงานได้ต้องมีเครื่องมือ แต่กฎหมายที่มีอยู่ทั้งประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติถวายความปลอดภัย มีช่องว่างหรือไม่ คนพวกนี้แสนรู้เลยเลี่ยง การเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้ครอบคลุมถึงพระบรมราชวงศ์ หรือผู้ปฏิบัติราชการแทนพระองค์ จึงอยากให้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย ตำรวจพยายามสอบว่าเข้าข่ายมาตรา ๑๑๒ หรือไม่ แต่นักกฎหมายหลายคนบอกว่าไม่เข้า ดังนั้นกฎหมายมีช่องโหว่ตรงไหนต้องไปแก้ไขสว.ตบเท้าแสดงพลังจงรักภักดีต่อมาเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่บริเวณหน้าห้องประชุมวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นำคณะ สว. ผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานเลขาธิการ วุฒิสภา แสดงพลังปกป้องและถวายกำลังใจแด่สมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายพรเพชรนำกล่าวถวาย พระพรชัยมงคลหน้าพระฉายาลักษณ์ ขอเจริญรอยตามเบื้องพระบาท ตั้งใจมั่นสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน ขอน้อมจิตตั้งสัตยาธิษฐาน บำเพ็ญคุณความดีในทุกด้านเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน จะสนองพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป “ไอติม” ห่วงรัฐบั่นทอนเสรีภาพสื่อด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมผู้สื่อข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ กรณีเกี่ยวกับการรายงานเหตุการณ์พ่นสีกำแพงวัดพระแก้วเมื่อปี ๒๕๖๖ ว่า ต้องพิจารณาดูข้อเท็จจริงว่าทั้ง ๒ คนถูกจับกุมเพียงเพราะแค่ไปรายงานข่าวจริงหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เมื่อไหร่ที่สื่อต้องหวาดระแวงในการทำหน้าที่รายงานข้อเท็จจริง ถือเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงมากต่อประชาธิปไตยไทย หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ขอให้รัฐบาลรีบสืบค้นข้อเท็จจริงหาทางแก้ไขโดยด่วน ส่วนกรณีพรรค รทสช.เตรียมเสนอญัตติด่วนเกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของขบวนเสด็จวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์นั้น เบื้องต้นเห็นว่าเป็นประเด็นที่มีความแตกต่างกันทั้งในและนอกสภาฯ และเป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องดีที่ถูกนำมาพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา มีเหตุมีผล จากตัวแทนที่มีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลาย ในพื้นที่ของสภาฯนิสิตนิเทศฯจุฬาแต่งดำยืนหยุดขังช่วงเที่ยงที่ลานโลมา คณะนิเทศศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศ ศาสตร์ จุฬาฯ นำโดยนายอภิสิทธิ์ ฉวานนท์ นัดหมายนิสิตจุฬาฯ และคณาจารย์ทุกคณะ สวมเสื้อสีดำ รวมตัวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง ๑๑ นาที ๒ วินาที” เพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยที่ตำรวจจับกุมนักข่าวสำนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ที่ไปทำข่าวพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง โดยกิจกรรมมีการผูกริบบิ้นขาวที่ข้อมือ ชูป้ายข้อความเรียกร้องและร่วมตะโกนคำว่า “เสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน” ก่อนยืนสงบนิ่ง ๑๑ นาที ๒ วินาที นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอให้นำเรื่องที่เกิดไปบอกต่อๆกันว่า เราอยู่ในประเทศที่มีรัฐบาลจับกุมสื่อมวลชนเพียงแค่ไปทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวตามหลักวิชาชีพ อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย เรารู้สึกกลัวเพราะจบไปก็อาจต้องไปเป็นสื่อ แต่ไม่รู้อนาคตใครจะโดนจับบ้าง ทำให้ไม่มั่นคงในอนาคตวิชาชีพของตัวเอง จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมาร่วมแสดงพลัง ไม่อยากจบไปแล้วทำแค่ข่าวประชาสัมพันธ์รัฐบาลเท่านั้นองค์กรสื่อกังวลไม่ได้รับเป็นธรรมขณะเดียวกัน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่า สมาคมแสดงความกังวลถึงการตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมสนับสนุนการกระทำผิดในคดีอาญา” จะเป็นการบั่นทอนต่อสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าว ทั้งในเหตุการณ์ที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบต่อสังคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการยุติธรรมจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีท่าทีหลบหนี ขอความเป็นธรรมในชั้นศาลพิจารณารับการประกันตัวชั่วคราวออกมาสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากการทำหน้าที่สื่อมวลชนภายใต้กรอบจริยธรรม หรือเป็นพฤติการณ์อื่นๆต่อไป หากไม่ได้รับความเป็นธรรม สมาคมมีช่องทางช่วยเหลือด้านกฎหมายต่อสู้คดีตามข้อตกลงที่ร่วมกับสภาทนายความ“โจ๊ก” สั่ง น.๑ จัดทุกข้อหาให้ “ตะวัน”ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กำกับงานมั่นคงและจราจร มีหนังสือสั่งการไปที่ ผบช.น.ให้ดำเนินการ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวันทะลุวัง” กับพวก ระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความไม่สงบสุขเป็นภัยต่อความมั่นคง ที่สามารถขยายตัวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ให้ดำเนินการ กำกับติดตามและเร่งรัดดำเนินการ ในทุกข้อหาความผิดรวมทั้งพิจารณาพฤติการณ์ทั้งก่อนและหลังการกระทำผิด ว่ามีการยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน และให้ล่วงละเมิดกฎหมายที่จะเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ ด้วยหรือไม่ ให้กำหนดแนวทางป้องกัน ปราบปราม ระงับยับยั้งและแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร และความสงบของสังคม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกส่อเจตนาให้มีการเลียนแบบชัดๆพล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า พฤติการณ์ที่ น.ส. ทานตะวันบีบแตรไล่รถขบวนเสด็จฯ และนำไปโพสต์เป็นการกระทำที่ต้องการให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน และเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ อันมีพฤติการณ์ส่อเจตนาให้ผู้อื่นกระทำตาม หรือเกิดพฤติการณ์เลียนแบบ อาจถือเป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา ๑๑๖ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปีศาลให้ประกันนักข่าวประชาไทที่ศาลอาญาเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง นำตัวนายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวประชาไท อายุ ๓๔ ปี และนายณัฐพล พันธ์พงส์สานนท์ อายุ ๓๕ ปี นักข่าวและช่างภาพอิสระ ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด พระราชบัญญัติโบราณสถาน พระราชบัญญัติโบราณวัตถุ และ ป.อาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาอื่น กรณีมีคนร้ายพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว โดยพนักงานสอบสวนอ้างว่ายังต้องสอบพยานอีก ๕ ปาก ผู้ต้องหาคัดค้านการฝากขัง ศาลตรวจคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขัง ๑๒ วัน ผู้ต้องหาขอปล่อยชั่วคราววงเงินหลักทรัพย์คนละ ๓๕,๐๐๐ บาท ศาลพิจารณาแล้วสั่งอนุญาต “ตะวัน–ณัฐชนน” โผล่ให้กำลังใจผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลอาญา น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผูุ้ต้องหาในหลายคดี เดินทางมาศาลเพื่อให้กำลังใจ ๒ ผู้ต้องหา โดยมีนักเคลื่อนไหวคนอื่นตามมาสมทบคึกคัก อาทิ นายณัฐชนน ไพโรจน์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าตำรวจอยู่ระหว่างการขอศาลออกหมายจับ (คดีขบวนเสด็จ) ในความผิด ๓ ข้อหา คือ ๑.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ ๒.ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ๓.ป.อาญามาตรา ๑๑๖ ฐานยุยง ปลุกปั่น น.ส.ทานตะวันกล่าวว่า มาให้กำลังใจนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ที่พนักงานสอบสวนคุมตัวมาฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาสนับสนุนการทำให้โบราณสถานเสียหาย ระหว่างนั้นนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมการเมือง ผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีทำให้โบราณสถานเสียหาย ของ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ก็มานั่งรวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน โดยนายนภสินธุ์ได้ตะโกนขึ้นว่า “จะจับก็มาเลยพี่ พวกผมไม่ได้หนี และมาแสดงตัวให้เห็นแล้วที่ศาล” นายนภสินธุ์เผยว่า ตั้งใจมาแสดงตัวตามหมายจับ ไม่กังวลอะไร ไม่ได้หนีไปไหน เพิ่งได้รับแจ้งจากทนายความว่า ตำรวจเข้าไปตรวจค้นที่บ้านของตนและบ้านญาติด้วยยังไม่รู้จะโดนยัดข้อหาอะไรอีกน.ส.ทานตะวันกล่าวว่า มาด้วยใจไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ตั้งใจมาให้กำลังใจเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับกุม และเพิ่งมาทราบว่ากำลังจะมีหมายจับตน จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญารัชดาได้เลย จะรออยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษจ่ายค่าปรับก็จบ แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้บ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ ๓ สถานีตำรวจนครบาลนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันยังไม่ทันตั้งตัว แต่ยืนยันว่าจะสู้ต่อไปแน่นอนไม่มีพรรคหรือใครอยู่เบื้องหลังน.ส.ทานตะวันกล่าวอีกว่า กรณีที่มีความพยายามจะปลุกปั่นว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ปลุกเยาวชน ยืนยันว่าไม่มีใครและกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น เพราะพวกตนมีแต่อุดมการณ์ และออกมาด้วยใจล้วนๆ เพื่อเป็นการตั้งคำถามในการยืนยันสิทธิและเสรีภาพ มองว่าปัจจุบันคนไทยกำลังตกเป็นเหยื่อไอโอจากภาครัฐ ที่มีความพยายามโยงพรรคการเมืองมาถึงกลุ่มพวกตนนั้น ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดๆเช่นเดียวกัน และไม่กังวลกับการพยายามปลุกปั่นฝั่งขวาขึ้นมาหรือไม่ ไม่ได้กลัวอะไร ยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ขออย่าถอยหลังกลับไปในปี ๒๕๑๙ และขออย่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการไอโอตำรวจศาล–รปภ.คุมเชิงยังไร้ป่วนสำหรับบรรยากาศที่บริเวณหน้าศาลอาญา มีตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาล กระจายกำลัง คอยสังเกตการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นไว้บริเวณทางขึ้นบันไดศาล มีมวลชนมาให้กำลังใจประมาณร้อยคน เหตุการณ์ยังคงสงบนำหมายจับ “ตะวัน” หน้าศาลอาญาต่อมา พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.๑ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ได้ขออนุมัติหมายจับ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ๒ ข้อหาคือ ตามมาตรา ๑๑๖ และ พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มีการรวบรวมพยานหลักฐานเอกสาร ๑๐๐ แผ่น รวมถึงมีการสอบปากคำพยานครบถ้วน เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาโดยมิชอบแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอให้รอความชัดเจนในการจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีข้อหาดังกล่าว กระทั่งเวลา ๑๗.๐๐ น. ตำรวจนครบาลนำหมายจับ น.ส.ทานตะวันมาแสดง ขณะ น.ส.ทานตะวันจะเดินทางกลับที่หน้าป้ายศาลอาญา มีมวลชนผู้สนับสนุนรายล้อมจำนวนมาก ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัว น.ส.ทานตะวัน และนายณัฐนนท์ไปสอบสวนที่ สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ก่อนนำตัวไปขังที่ สถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุง ขณะที่นายนภสินธุ์ ถูกควบคุมตัวไปที่ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง แจ้งข้อหาปลุกปั่นก่อความไม่สงบผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ขอศาลอาญาออกหมายจับที่ ๖๑๐/๒๕๖๗ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และหมายจับที่ ๖๑๑/๒๕๖๗ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดง ความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะครม.คึกคักเบิร์ธเดย์ “เศรษฐา” ๖๒ ปีวันเดียวกัน เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรีว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ เป็นตัวแทน ครม. มอบแจกันดอกไม้อวยพรในโอกาสวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า วันเกิดตนตรงกับวันที่ ๑๕ ก.พ. เมื่อถามว่าวันเกิดปีนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ นายเศรษฐาตอบว่าไม่มี แต่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข และอยากปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับความตั้งใจของพี่น้องประชาชนที่เลือกเข้ามา เชื่อว่าเราตั้งใจกันทุกคน อยากได้การสนับสนุนตรงนี้ เมื่อถามว่าวันเกิดปีนี้นายกฯอายุเท่าไหร่ นายเศรษฐาตอบว่า ๖๒ ปีครับ เมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าหน้าเด็กกว่าอายุ นายเศรษฐาถึงกับยิ้มย้ำความตั้งใจนั่งนายกฯครบ ๔ ปีนายกฯกล่าวว่า ส่วนงานเลี้ยง สส.พรรคร่วมรัฐบาลช่วงเย็น คงเป็นแบบสบายๆเป็นกันเอง ไม่มีอะไร เรื่องของความขัดแย้งไม่มี แต่เรื่องเห็นต่างนั้นมีแน่นอน ในพรรคเดียวกันยังมี แต่เราอยู่ในสังคมที่ศิวิไลซ์ เมื่อมีความขัดแย้งก็ต้องพูดคุยกัน ส่วนตัวเพิ่งเข้ามาในการเมืองไม่มีความคุ้นเคย ถือเป็นโอกาสดีจะได้พูดคุยกับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ถือโอกาสนี้พูดคุยและรับฟังข้อติชม และอาจถือโอกาสขอบคุณที่ช่วยเป็นกำลังสำคัญในสภาด้วย หากมีอะไรที่ทำให้หลายท่านไม่สบายใจ ถือโอกาสขอโทษ เมื่อถามว่าจากบรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม นายกฯตอบว่า ตั้งใจจะเป็นนายกฯให้ครบ ๔ ปี และมั่นใจว่าภายใน ๔ ปีนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนจะดีขึ้นแจงพักโทษ “ทักษิณ” ตามระเบียบนายเศรษฐายังกล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีชื่อได้รับการพักโทษว่า นายทักษิณมีชื่อเข้าข่ายได้รับการพักโทษ ถือว่าเป็นทางการแล้วว่าอดีตนายกฯได้รับการพักโทษ เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เมื่อถามว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน นายเศรษฐาตอบว่า ว่าไปตามกฎหมาย นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯมาหลายปี เป็นคนที่มีประโยชน์กับประเทศชาติ ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมายาวนาน เป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงที่สุดท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อท่านออกมาแล้วก็เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง เรื่องในอดีตก็ถือเป็นเรื่องในอดีตไป ได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว นายทักษิณเองก็มีลูกมีหลาน ลูกสาวคนเล็กเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าท่านจะมีคำแนะนำดีๆ ที่จะให้เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ และเชื่อว่าลูกก็จะนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศได้ ปัจจุบันท่านมีหลาน ๗ คน ในฐานะที่เป็นพ่อคนตนเข้าใจ ความรักที่คุณปู่ หรือคุณตามีให้กับลูกหลาน ถือเป็นสิทธิ์ของท่าน ยืนยันว่าทำตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ทุกอย่างอนาคตพร้อมไปขอคำปรึกษานายเศรษฐากล่าวต่อว่า อย่าลืมว่านายทักษิณกลับมารับโทษชัดเจน ทุกอย่างเข้าเกณฑ์หมด ว่าไปตามกฎหมาย เราอยู่ด้วยกฎของการอยู่ร่วมกันคือการมีกฎหมาย เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ว่านายทักษิณจะได้รับการปล่อยตัววันใด นายกฯตอบว่า ไม่ทราบ อ่านแค่พาดหัวข่าว ยังไม่ได้ดูว่าเป็นเมื่อไหร่อย่างไร เมื่อถามว่าในอนาคตถ้ามีโอกาสขอคำปรึกษาจากนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า พร้อมจะพูดคุยกับคนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติทุกคน ทั้งพรรคตรงข้าม ฝ่ายตรงข้าม อดีตนายกฯ ทหาร ตำรวจ ในอดีตก็พูดคุยตลอดเวลา เพราะเข้ามาในรัฐบาลที่มีพรรคร่วมรัฐบาลเยอะ ปัญหาบ้านเมืองก็เยอะ ความชำนาญในการบริหารจัดการประเทศของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางเรื่องเรามีความรู้มาก บางเรื่องเรามีความรู้น้อย พร้อมจะพูดคุยกับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ หรือผู้ที่เคยบริหารจัดการประเทศมา ต้องดูเรื่องกฎหมายและอะไรหลายเรื่องควบคู่ไปด้วย“ทวี” คอนเฟิร์มพักโทษ “นายใหญ่” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม กล่าวว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้เสนอเรื่องการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร มาที่กระทรวงยุติธรรมแล้ว และมีคณะร่วมกันพิจารณา การพักโทษครั้งนี้มีรายชื่อทั้งหมด ๙๔๕ คน คณะอนุกรรมการพักโทษอนุมัติไปทั้งสิ้น ๙๓๐ คน เป็นไปตามกฎหมายราชทัณฑ์มาตรา ๕๒ การพิจารณาบุคคลที่จะได้รับการพักโทษคือ ต้องเข้าเงื่อนไขติดคุกมาแล้ว ๖ เดือน หรือ ๑ ใน ๓ หากอันไหนมากกว่ากันให้ใช้เกณฑ์อันนั้น แต่โทษต้องเหลือไม่เกิน ๑๐ ปี การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่ามีชื่อนายทักษิณด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ในรายงานการประชุมมีชื่อของนายทักษิณด้วย โดยคณะอนุกรรมการพักโทษเห็นชอบตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์เสนอ เนื่องจากเกณฑ์ของนายทักษิณ อยู่ในกลุ่มเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรืออายุ ๗๐ ปีขึ้นไป เมื่อถามว่า นายทักษิณจะได้พักโทษวันไหน พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ท่านต้องโทษ ๑ ปี ถ้า ๑ ใน ๓ คือ ๔ เดือน แต่กรณีของนายทักษิณ พอครบ ๖ เดือนก็เป็นอัตโนมัติที่จะได้รับการพักโทษ อยากเรียนว่าเป็นเรื่องปกติ ตรวจสอบตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ จนถึงปัจจุบัน มีผู้ได้รับการพักโทษ ๒,๒๔๐ คน และมีการยกเลิกการพักโทษก็มี “อิ๊งค์” ดีใจได้รับการยืนยันข่าวดีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพิ่งทราบจากข่าวออนไลน์ว่ามีรายชื่อ จริงๆ แล้วครอบครัวทราบในหลักการอยู่แล้วว่าเมื่อครบ ๖ เดือนจะได้รับการพักโทษ แต่ยังไม่เคยได้รับการคอนเฟิร์ม นับว่าเป็นข่าวดีของเช้านี้ เมื่อถามว่าจะได้เห็นนายทักษิณปรากฏตัวหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่แน่ใจว่าวันที่ออกจะเป็นอย่างไร แต่จะคุยกันในวันสองวันนี้ แน่นอนเมื่อนายทักษิณกลับบ้านแล้วได้พัก และคุณหมอคิดว่าโอเคเมื่อไหร่ คิดว่านายทักษิณคงออกมาด้านนอกแน่นอน เพราะอยู่ในห้องมาเป็นเวลา ๖ เดือน ตอนนี้อยากให้ท่านพักผ่อนให้สบายใจ ก่อนหน้านี้ที่เคยได้คุยกันว่าหากได้รับการพักโทษ จะนัดให้คุณหมอไปหาที่บ้านเพื่อเช็กอาการและคอนเฟิร์มเรื่องต่างๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการบอกว่าจะต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อถามว่าบ้านที่พักจะเป็นบ้านจันทร์ส่องหล้าใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ใช่ มีการเตรียมบ้านและทำความสะอาดบ้านไว้แล้วเตรียมขนลูกๆไปดูแลคุณตาเมื่อถามว่าหากนับตามกรอบเวลา ๖ เดือน จะครบในวันที่ ๑๘ ก.พ. น.ส.แพทองธารตอบว่า ต้องถามกรมราชทัณฑ์ ไม่ทราบว่านับแบบไหน คนที่ได้รับสิทธิ์พักโทษไม่ใช่แค่นายทักษิณคนเดียว ถือว่านายทักษิณผ่านกระบวนการเหมือนหลายคนเช่นกัน เมื่อถามว่ามีหลายกลุ่มออกมาคัดค้านกังวลว่าจะมีเรื่องความขัดแย้งตามมาหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า นายทักษิณเคยเป็นนายกฯ ทำเพื่อประเทศชาติมามากมาย ออกไปนอกประเทศ ๑๗ ปี ได้รับความยุติธรรมและไม่ยุติธรรมปะปนกันไป สำหรับครอบครัวก็ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ได้มาใช้ชีวิตในเมืองไทยหลังจากไปเกือบ ๒๐ ปี คิดว่าเป็นสิ่งที่คุณพ่อควรจะได้ และได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขจากประโยชน์ที่ท่านได้ทำไว้ หวังว่าท่านไปที่ไหนจะมีแต่คนรอรับ เมื่อถามว่าจะไปดูแลนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่ น.ส.แพทองธารหันมาหยอกล้อผู้สื่อข่าวก่อนจะตอบว่า “ว่าจะขนลูกไปให้หมด”รอ “ทักษิณ” พักโทษค่อยประเมินที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร จะได้รับการพักโทษ จะทำให้สถาน การณ์การเมืองเปลี่ยนไปหรือไม่ว่า จะไปทราบได้อย่างไร ต้องให้พักออกมาก่อน ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าจะยินดีกับนายทักษิณด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบรบ.อุบไต๋ข่าวดีดิจิทัลวอลเล็ตอีกเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายก และ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวถึงกรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ระบุว่า ยกร่าง พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาทเสร็จเรียบร้อยแล้วว่า ไม่ทราบวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการพูดคุยเรื่องทั้งหมด เมื่อถามว่าหลังประชุมพอจะบอกได้หรือไม่ว่าจะมีข่าวดีหรือมีความคืบหน้าอย่างไร นายกฯตอบว่า ไม่แน่ใจว่าข่าวดีคืออะไร แต่มีความคืบหน้าให้แน่นอน ต้องประชุมก่อน หากบอกไปว่าจะมีข่าวดีเกิดขึ้น คนที่เห็นต่างเขาก็อาจอยากพูดอะไรอีกใช่ไหม มีอะไรก็อยากให้พูดวันนั้น พูดตรงไปตรงมา เราฝ่ายจัดการคือรัฐบาล จะนำข้อคิดไปทำงานให้ถูกต้องยันประชาชนต้องมีส่วนกระตุ้นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.ที่อยากให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และใช้งบประมาณปกติว่า สิ่งที่เห็นต่างกันคือโครงการนี้ไม่ใช่โครงการแจกเงิน ไม่จำเป็นต้องเลือกว่าต้องเอาเฉพาะผู้เปราะบางหรือไม่ แต่เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม ความต้องการของเราคือการกระตุ้นครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดการพลิกเศรษฐกิจ แต่การยืดออกไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่จบ พรุ่งนี้ไม่จบ ปีนี้ไม่จบ ปีหน้าต่อๆไปก็ต้องดูว่าเป็นยาที่ใช้ได้กับสถานการณ์นั้นๆหรือไม่ โครงการนี้เริ่มคิดกันว่าจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้ยังมีวิกฤติอยู่ ถ้าเศรษฐกิจยังซึมแบบนี้ไม่มีอะไรกระตุ้น ก็เหมือนที่บอกมันจะลามไปเรื่องอื่น ตอนนี้ลามไปที่วิกฤติการเงินเริ่มก่อตัว ควรทำใจกว้างๆพิจารณาให้รอบคอบ ดูความเป็นจริงของประชาชนพท.ลุยแก้กฎหมายลูกสองฉบับช่วงสายที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ร่วมแถลงถึงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ ๑๖ ก.พ. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า มาในฐานะประชาชน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ผลักดันร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ๒ ฉบับของพรรคเพื่อไทย เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน ให้สิทธิผู้เสียหายเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมฟ้องร้องคดีต่อศาลได้โดยตรง กรณีที่ ป.ป.ช. อัยการสั่งยกคำร้องหรือสั่งไม่ฟ้อง โดยยกร่างกฎหมาย ๒ ฉบับเสร็จแล้ว ยืนยันการแก้ไขไม่กระทบขอบเขตอำนาจของ ป.ป.ช. อัยการ เพราะทุกเรื่องยังตั้งต้นที่ ป.ป.ช.จนกว่าจะมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกทั้งนักร้องทั้งหลายไม่สามารถหยิบเรื่องไปฟ้องร้องต่อศาลได้โดยตรง เพราะร่างกฎหมาย ๒ ฉบับ ให้สิทธิเฉพาะผู้เสียหายตามกฎหมาย ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีสิทธิ เตรียมนำเรื่องนี้หารือกับนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหัวหน้าพรรคก้าวไกลก้าวไกลเอาด้วยพร้อมวัดกับ สว.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีการหารือกับนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ อดีต ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ถึงการผลักดันร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมกันผลักดันให้ผ่านสภาฯ ส่วนกรณีที่ สว.เป็นห่วงว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้ง และเรื่องจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ อาจไม่สามารถเข้าสู่การประชุมร่วมรัฐสภาได้นั้น ต้องลองดู มีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรที่จะรวบรวมเสียงสนับสนุนได้ เพราะในหลักการเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ได้เป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่เฉพาะคดีของปี ๒๕๕๓ เพียงอย่างเดียว เมื่อถามว่าการพูดคุยมีการหยิบยกประเด็นสถานการณ์ปัจจุบันมาพูดคุยกันหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า คุยกันเกือบชั่วโมง เรารู้เนื้อหาอยู่แล้วไม่ได้คุยกันเยอะ เพียงแค่คุยกันว่ามีประเด็นอะไรที่พรรค ก.ก.จะเสนอเพิ่มเติมเข้าไปประกบด้วย และความเป็นไปได้ที่จะช่วยกันสนับสนุนให้ผ่านครม.เคาะหยุดสงกรานต์ ๕ วันเมื่อเวลา ๑๑.๓๐ น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้วันที่ ๑๒ เมษายน๒๕๖๗ เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ๑ วัน คือ ในวันที่ ๑๒-๑๖ เมษายน๒๕๖๗ รวมเป็นวันหยุดสงกรานต์ ๕ วัน เพื่อให้เวลา ๒ เดือนวางแผนใช้วันหยุดล่วงหน้า กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศในการท่องเที่ยวได้ โดยให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยว และกีฬา ประชาสัมพันธ์ให้มีการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มมากขึ้นมท.หัวคะมำชง คณะรัฐมนตรีย้ายนอกฤดูผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม คณะรัฐมนตรีวันเดียวกันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการเป็นการด่วน โดยจะโยกสลับตำแหน่ง ให้นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน (พช.) ไปเป็น ผวจ.นครราชสีมา และให้นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา มาเป็นอธิบดีพช.นอกจากนี้ยังเสนอแต่งตั้งนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมที่ดิน แทนบุคคลที่ลาออก จากนั้นเวลา ๑๑.๔๐ น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ไม่มีวาระแต่งตั้งดังกล่าว เนื่องจากนายกฯ มีข้อสั่งการให้ปรับหลักการ การนำวาระเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีจะเลี่ยงวาระจร เนื่องจากต้องการให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานพิจารณาให้เรียบร้อยก่อน “อนุทิน” อู้อี้นายกฯห้ามมีวาระจรเมื่อถามว่า มีการโยกย้ายอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ไปดำรงตำแหน่งเป็น ผวจ.นครราชสีมาหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า โยกย้ายปกติ ขอรอเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีพิจารณา เมื่อถามว่า ย้ายนอกฤดูกาลเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ใช่นอกฤดูกาล มีอธิบดีกรมที่ดินลาออก และอดีต ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต ต้องใส่ให้เต็ม เมื่อถามอีกว่าหลายฝ่ายมองว่าอธิบดี ไปเป็น ผวจ.ลดชั้นหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่าใครมอง เป็นเรื่องที่อยู่ในระดับบริหารเท่ากันหมด ทั้งนี้การโยกย้ายระดับ ๑๐ เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้เสนอ ส่วนรัฐมนตรี มีหน้าที่นำเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีแต่นำเข้าคงเข้าในวาระปกติ ไม่ใช่วาระจรตามนโยบายของนายกฯ และมีหลายตำแหน่ง“บิ๊กป๊อด” ลั่นไม่คิดทิ้งเก้าอี้ ทส.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวมีอาการป่วย อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ว่า ไม่มี ไม่เคยพูดที่ไหน ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาทอาจไม่ถนัดงานด้านการเมือง พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า งานในส่วนของพรรคจะเข้าไปยุ่งน้อยหน่อย เวลานี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรคอยู่ จึงไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไร เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวเตรียมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า “ไม่จริง และจะอยู่จนครบเทอมนั่นแหละ คนปล่อยข่าวมีจุดประสงค์อย่างไร ผมไม่ทราบ”“โจ๊ก” กล่อมม็อบรอบทำเนียบฯช่วงเที่ยงระหว่างที่ คณะรัฐมนตรีประชุมกันอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตำรวจไปพูดคุยกับกลุ่มมวลชนที่ปักหลักชุมนุมอยู่รอบทำเนียบฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่มาชุมนุมให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเรื่องปากท้องราว ๕๐๐ คน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า นายกฯใส่ใจปัญหาปากท้องของประชาชน ยืนยันพยายามแก้ไขปัญหาในทุกมิติ หากมีมติ คณะรัฐมนตรีออกมาตนในฐานะของผู้ที่ได้รับมอบหมายจะเดินหน้าเรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมาสะสางปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ยอมรับว่าการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ หลายหน่วยงานจำเป็นต้องบูรณาการให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจต้องใช้เวลาไม่ได้รวดเร็วทันใจแบบทันทีทันใด“ปานปรีย์” ฟุ้งคุยสหรัฐฯสำเร็จสุดๆเมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. วันที่ ๑๒ ก.พ. (ตามเวลาท้องถิ่น กรุงวอชิงตัน ช้ากว่าไทย ๑๒ ชม.) ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ หารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี เจ. บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศสหรัฐฯ ภายหลังการหารือ นายปานปรีย์ให้สัมภาษณ์ว่า การเยือนมีความสำเร็จอย่างมาก หารือกันรอบด้าน ทั้งความ มั่นคง เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน สหรัฐฯเริ่มให้ความสนใจในภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะไทยที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ นายบลิงเคนยังสนับสนุน ไทยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมาด้วย นอกจากนี้ตนได้พูดคุยกับ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ และนายอามอส โฮชสไตน์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีการสอบถามถึงรายละเอียดโครงการแลนด์บริดจ์เยอะมาก“แพทองธาร” เยือนบ้านทูตสหรัฐฯช่วงเที่ยงวันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าพบนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกาประจำประเทศไทย และคณะ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ รับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อสานสัมพันธ์และหารือส่งเสริมความร่วมมือทั้งระดับรัฐ เอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ น.ส.แพทองธารชวนทูตสหรัฐฯเข้าร่วมกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ตลอดเดือน เมษายนและโปรโมตการท่องเที่ยวสงกรานต์ไทยทั้ง ๗๗ จังหวัด พร้อมอธิบายถึงนโยบายที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการ เช่น โครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย การบรรจุมวยไทยในหลักสูตรการศึกษา ซึ่งคณะทูตสหรัฐฯแสดงความสนใจสส.พรรคร่วมคึกคักปาร์ตี้มื้อแรกต่อมาช่วงค่ำ ที่โรงแรม Eastin Grand Hotel Phayathai มีการจัดงาน “ร่วมมือร่วมใจ รัฐบาลประชาชน” มีพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ จัดให้นายกฯ คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารพรรคร่วมรัฐบาล สส.พรรคร่วมรัฐบาล และข้าราชการการเมือง พบปะสังสรรค์รวมกว่า ๕๐๐ คน มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากร ธรรมชาติฯ ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. นายพีระ พันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และแกนนำ พรรคร่วมเข้าร่วมกันพร้อมเพรียง นอกจากนี้ ยังมีนายพานทองแท้ ชินวัตร มาร่วมงานด้วย นายเศรษฐาเดินทางมาถึงพร้อม น.ส.แพทองธารได้แวะถ่ายโฟโต้บุ๊กร่วมกับนายอนุทินอย่างสนุกสนาน โดยนายกฯและนายอนุทินได้โพสต์ท่าชี้นิ้วไปที่ น.ส.แพทองธาร และนายกฯยังได้ถือป้ายข้อความ “เมษาอะน่าร้อน มีเธออ้อนอะน่าร้าก” และ “ได้หมดถ้ากดตังค์”อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
จับ "ตะวัน-แฟรงค์" ปลุกปั่นป่วนขบวนเสด็จ โพสต์ยุกระด้างกระเดื่อง
Related posts