เมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๐-๑๑ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจัดสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ตนรับทราบข้อมูลว่าการสอบโอเน็ต ป.๖ ม.๓ และม.๖ นั้นไม่ได้มีการนำผลโอเน็ตไปใช้กับการศึกษาต่อ เหมือนเป็นการสอบซ้ำซ้อนเพิ่มภาระนักเรียน นโยบายตนต้องการให้เด็กเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เด็กเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งตนจะฟื้นเรื่องการสอบเทียบ จึงต้องมีมาตรฐานการวัดความรู้และทักษะของผู้เรียนด้วย ซึ่งโอเน็ตจะตอบโจทย์นโยบายการฟื้นสอบเทียบของตนได้ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างวางแนวทางว่าการสอบโอเน็ตจะให้เป็นการสอบรูปแบบไหนอย่างไร โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (กรกฎาคมศ.) และ สทศ.ไปร่วมคิดวิเคราะห์วางแนวทาง“หากการสอบโอเน็ตไม่ได้นำผลมาใช้ประโยชน์ก็อาจไม่ถูกต้อง ผมอยากให้การศึกษาของเด็กแต่ละช่วงชั้นมีข้อสอบวัดและประเมินผลว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนจุดด้อยวิชาไหน เพื่อนำผลสอบมาใช้ประโยชน์ทางการศึกษาได้ เพราะหากเราไม่มีระบบข้อสอบวัดประเมินผลผู้เรียนและปล่อยตามธรรมชาติก็ไม่สามารถพัฒนาผู้เรียนได้ว่าเด็กอ่อนวิชาอะไร หรือต้องปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนหรือไม่ ในส่วนนี้ก็อาจจะนำเกณฑ์มาประเมินครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ด้วย หากเราใช้ข้อสอบวัดได้จะรู้ว่าเด็กมีจุดอ่อนจุดด้อยตรงไหน เช่น ถ้าเด็กอ่อนคณิตศาสตร์ก็เท่ากับว่าครูคณิตศาสตร์ไม่แข็งพอ เป็นต้น จะทำให้ได้ข้อมูลมาปรับหลักสูตรหรือกระบวนการผลิตและพัฒนาครูได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อข้อถามถึงการวิเคราะห์การสอบโอเน็ตครั้งนี้ เท่ากับว่าในอนาคตจะฟื้นการสอบโอเน็ตมาใช้กับระบบการสอบเทียบใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ตนคิดว่าในอนาคตอาจเป็นการสอบโอเน็ตรูปแบบใหม่หรือโอเน็ตพลัส เพราะการสอบโอเน็ตรูปแบบเดิมเป็นการจัดสอบที่ไม่ครบ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้หลักหรือสอบไม่ครบทุกวิชา แต่ต่อไปหากวิชาไหนที่ผู้เรียนเรียนผ่านอยู่แล้วและมีวิชาไหนที่ยังไม่ได้สอบก็มาสอบเพิ่มจากการสอบโอเน็ตพลัสได้ เหมือนสะสมหน่วยกิต ส่วนตัวอยากให้เริ่มใช้การสอบโอเน็ตพลัสในปีนี้ทันที ขอย้ำว่าอยากให้เป็นการสอบด้วยความสมัครใจ และนำการสอบโอเน็ตนี้ไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษาได้.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
