รัฐบาลทหารพม่าถูกจับตา ประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๔ ปี ท่ามกลางสถานการณ์ถูกกองกำลังกบฏกลุ่มชาติพันธุ์ ๓ กลุ่ม จับมือกันบุกโจมตีและสามารถยึดพื้นที่ทหารในหลายแห่งทั่วประเทศตั้งแต่ปลายปี ๒๕๖๖นักวิเคราะห์หลายคนมีความเห็นตรงกัน การประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารของรัฐบาลทหารพม่า แสดงให้เห็นว่ากองทัพภายใต้การนำของมิน อ่อง หล่าย กำลังเผชิญกับความพ่ายแพ้แก่กลุ่มกบฏ หลังสูญเสียกำลังทหารอย่างต่อเนื่องหนุ่มสาวชาวพม่าต้องได้ยินข่าวร้ายซ้ำอีก โฆษก รบ.ทหารพม่าแย้มแล้วเตรียมเรียกตัวชายหญิงมาเกณฑ์ทหารหลังสงกรานต์ ปีนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจรายงานไปทั่วโลก รัฐบาลทหารเมียนมา หรือพม่า ภายใต้การนำของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประกาศ ‘ฟ้าผ่า’ บังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารในเมียนมาครั้งแรกในรอบ ๑๔ ปี มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์กองทัพพม่า หรือ ‘ทัตมาดอว์’ กำลังสู้รบอย่างหนักกับกลุ่มกบฏ กองกำลังพันธมิตรกลุ่มชาติพันธ์ุ ที่ร่วมมือกันบุกโจมตีพื้นที่ทางทหารของกองทัพพม่าในหลายพื้นที่ของประเทศตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ โดยใช้ชื่อ ‘ปฏิบัติการ ๑๐๒๗’ขณะนี้กองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยสามารถยึดพื้นที่ทางทหารและหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ที่รัฐฉาน และเขตปกครองตนเองโกก้าง รวมทั้งเมืองเล่าก์ก่าย อดีต ‘เมืองหลวง’ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้กองทัพพม่าต้องได้รับรายงานข่าวความพ่ายแพ้ ทหารพม่ายอมวางอาวุธและหนีทหารข้ามชายแดนไปอินเดีย อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดรัฐบาลทหารต้องประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร รบ.ทหารพม่าบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารรัฐบาลทหารพม่าได้ประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร เมื่อวันที่ ๑๐ ก.พ. ๒๕๖๗ และมีผลบังคับใช้ทันทีในวันเดียวกัน ถือเป็นการประกาศบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นครั้งแรกในรอบ ๑๔ ปี หลังจากได้ออกกฎหมายเกณฑ์ทหารมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ กฎหมายเกณฑ์ทหารของเมียนมา กำหนดไว้ว่า ชายชาวพม่าทุกคน อายุตั้งแต่ ๑๘-๓๕ ปี และผู้หญิง อายุตั้งแต่ ๑๘-๒๗ ปี ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร เพื่อทำหน้าที่เป็นทหารรับใช้ชาติเป็นเวลา ๒ ปีส่วนผู้ที่มีมีความชำนาญการเป็นพิเศษอย่างเช่น แพทย์ ได้ถูกกำหนดอายุไว้สูงถึง ๔๕ ปี ว่าจะต้องถูกเกณฑ์มารับใช้ชาติ เป็นเวลา ๓ ปี อีกทั้งอาจมีการขยายเวลาออกไปเป็น ๕ ปี ในขณะที่แถลงการณ์ของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ออกมาเมื่อ ๑๐ ก.พ. ๒๕๖๗ ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย’มิน อ่อง หล่าย’ ประกาศยืดเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนหน้านี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ออกมาประกาศเมื่อ ๑ ก.พ. ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันครบรอบ ๓ ปีของการก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ว่ารัฐบาลทหารพม่าจำเป็นต้องขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก ๖ เดือน เพื่อทำให้ประเทศชาติกลับเข้าสู่ภาวะสันติและมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งยังเตือนว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้ามที่ละเมิดกฎของรัฐบาลทหาร สมาชิกกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์กองทัพพม่ากำลังแพ้กบฏหรือ?๓ ปีหลังจากมิน อ่อง หล่าย เป็นหัวหน้าคณะทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและจับกุมดำเนินคดีอองซาน ซูจี ตั้งแต่ ๑ ก.พ. ๒๕๖๔ และใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงจนเลือดนองแผ่นดิน มีประชาชนถูกสังหารกว่า ๔,๕๐๐ ศพนั้น กองทัพเมียนมาต้องเผชิญกับสถานการณ์ระส่ำระสายจนน่าวิตก เพราะกำลังสูญเสียทหารจากการต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์สามกลุ่ม ประกอบด้วย กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) หรือกองทัพโกก้าง, กองทัพปลดปล่อยตะอาง (TNLA) หรือปะหล่อง และกองทัพอาระกัน จับมือกันโจมตีค่ายทหารทั่วประเทศแหล่งข่าวในกองทัพเมียนมาหลายคน ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อบอกว่า ความสำเร็จของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ และความพ่ายแพ้ของกองทัพเมียนมาที่ไม่สามารถโต้กลับกลุ่มกบฏได้นั้น ได้บั่นทอนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ระดับล่างและระดับกลางในกองทัพอย่างหนัก โดยหลายสัปดาห์แรกของปีนี้ ทหารพม่ายังคงล่าถอยอย่างต่อเนื่อง ถูกกองกำลังกบฏดักซุ่มโจมตีบนถนน ในขณะที่กองทัพมีเฮลิคอปเตอร์จำนวนจำกัดในการส่งกำลังเสริมสนับสนุนรอบค่ายทหาร หนุ่มสาวชาวพม่าต้องเผชิญกับการถูกเรียกตัวไปเกณฑ์เป็นทหาร หลังรัฐบาลมิน อ่อง หล่าย ประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารครั้งแรกในรอบ ๑๔ ปี มีผลบังคับตั้งแต่ ๑๐ กุมภาพันธ์๒๕๖๗เตรียมเรียกเกณฑ์ทหารหลังสงกรานต์โฆษกรัฐบาลทหารพม่า ‘ซอว์ มิน ตุน’ กล่าวกับ BBC Burmese เผยว่า กองทัพมีแผนจะเรียกชายหญิงมารับการเกณฑ์ ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเมษายนนี้ หลังจากรัฐบาลได้ประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารเมื่อ ๑๐ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาการที่รัฐบาลทหารพม่าไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความเข้มแข็งของกองทัพนั้น ทำให้บรรดานักวิเคราะห์และนักการทูตคนหนึ่งมีความเห็นว่า กองทัพพม่ากำลังเผชิญกับความท้าทายหลายเรื่องในการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร รวมทั้งการส่งผู้ที่ไม่ได้ผ่านการฝึกทักษะในการสู้รบไปสู้กับกบฏในแนวหน้านอกเหนือจากนั้น นักวิเคราะห์หลายคนยังชี้ว่าการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๔ ปีของรัฐบาลทหารพม่า จะทำให้มีหนุ่มสาวชาวพม่าที่ต่อต้านรัฐบาลมินอ่องหล่าย หนีออกจากประเทศกันมากขึ้นผู้เขียน: อรัญญา ศรีจันทรนิตย์ที่มา : The Guardian , Reuters