Sunday, 22 December 2024

"ณัฐพงษ์" เผย หลังเรียก ๒ อธิบดี แจง พบช่องโหว่ จ่อยื่น ป.ป.ช.พิจารณา

“ณัฐพงษ์” ประธาน กมธ.ติดตามงบฯ สภาฯ แจง หลังเรียก ๒ อธิบดี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “กรมการข้าว” กับ “กรมฝนหลวงและการเกษตร” เข้าชี้แจง เผย พบช่องโหว่ เตรียมยื่น ป.ป.ช.พิจารณา ยัน ไร้พูดคุยกรณี “ตบทรัพย์”วันที่ ๑๕ ก.พ. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร แถลงผลหลังเรียกอธิบดีกรมการข้าว และอธิบดีกรมฝนหลวง เข้ามาชี้แจงเรื่องการใช้งบประมาณ ว่า ในส่วนของอธิบดีกรมการข้าว เป็นการชี้แจงการใช้งบประมาณ เงินอุดหนุนซื้อพันธุ์ข้าวในโครงการ BCG ๑,๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบประมาณนี้มีช่องโหว่ของระเบียบที่ใช้เงินอุดหนุน ไม่มีการทำการจัดซื้อจัดจ้างของศูนย์ข้าวชุมชน โดยงบประมาณดังกล่าวนำไปซื้อปุ๋ย โดยทางคณะกรรมาธิการได้มีการส่งข้อสังเกตนี้ให้กับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ทั้งนี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ ๑๔ มีนาคม กรรมาธิการจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการชี้แจงอีกครั้ง ส่วนโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการเกษตร จำนวน ๒ ลำ มูลค่า ๑,๑๘๘ ล้านบาท ทางอธิบดีกรมฝนหลวง ชี้แจงว่า เดิมตามขั้นตอนได้มีการประกาศให้มีผู้เข้าร่วมประมูลถึง ๓ ครั้งแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นซอง ทางอธิบดีจึงปรับ TOR ในเงื่อนไขบางรายละเอียด เพื่อให้มีบริษัทเอกชนมาร่วมประมูล ไม่ใช่กันการปรับลดสเปกเครื่องแต่อย่างใด โดยในที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตบริษัทที่ชนะการประมูลครั้งนี้เคยพาผู้บริหารของกรมฝนหลวงฯ ไปดูงานที่สาธารณรัฐเช็ก โดยทางเอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและข้าราชการที่ไปเป็นการใช้สิทธิ์ลา ซึ่งทางกรรมาธิการได้รับฟังเหตุผลจากอธิบดีกรมฝนหลวงฯ ระบุถึงสาเหตุที่ไปดูงาน เพื่อไปดูว่าเครื่องบินนั้นสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยคณะกรรมาธิการมองว่าเป็นเหตุผลที่รับฟังได้ แต่มีข้อสังเกตว่าลักษณะดังกล่าวนี้เข้าข่ายเอื้อผลประโยชน์หรือไม่ โดยได้นำข้อสังเกตนี้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปเช่นกัน เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในชั้นกรรมาธิการมีการหารือถึงประเด็นการตบทรัพย์หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในการเรียกอธิบดีมาชี้แจงครั้งนี้ เป็นการศึกษาใช้งบประมาณเป็นหลัก ส่วนการตบทรัพย์นั้นทางอธิบดีมีการใช้พื้นที่ของสื่อชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว จึงไม่ได้เป็นสาระหลักในการพิจารณาในการประชุมในครั้งนี้