ไม่มีเหา อย่าหาเหาใส่หัว ไม่มีหนี้ อย่าหาหนี้ใส่ตัวแต่คนไทยยุคนี้ต้องแบกหนี้ติดตัวตั้งแต่เกิดจนตายการแก้ไขวิกฤติหนี้นอกระบบจึงเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลล่าสุดมีลูกหนี้นอกระบบไปลงทะเบียนขอให้รัฐบาลช่วยไกล่เกลี่ยหนี้กว่า ๑.๔ แสนรายเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๒.๑ หมื่นรายไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว ๑.๒ หมื่นรายหรือ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ของลูกหนี้นอกระบบที่ไปลงทะเบียนยังเหลือลูกหนี้นอกระบบที่รอไกล่เกลี่ยอีก ๑.๒ แสนรายกว่าจะไกล่เกลี่ยครบ ๑.๔ แสนราย คงต้องรอกันหนวดหงอกละพระเดชพระคุณ“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าวงเงิน “หนี้นอกระบบ” ยังจิ๊บๆเมื่อเทียบกับยอด “หนี้ในระบบ” ของประชาชนที่กำลังส่งสัญญาณอันตราย!!นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ (เครดิตบูโร) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเมื่อสิ้นปี ๒๕๖๖ยอดหนี้เสียทั้งระบบบานอะหลึ่งฉึ่งไปถึง ๑ ล้านล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นอีก ๗ เปอร์เซ็นต์แต่ข้อมูลเครดิตบูโรที่ต้องสยองขวัญคือ…หนี้เสียจากสินเชื่อผ่อนซื้อรถยนต์พุ่งพรวดไปถึง ๒๘ เปอร์เซ็นต์!!หนี้เสียบัตรเครดิตก็กระเด้งขึ้นอีก ๑๒ เปอร์เซ็นต์หนี้สินเชื่อซื้อบ้านซึ่งเป็นหนี้สำคัญที่สุดของชีวิตคนไทยกลายเป็นหนี้เสียไปแล้วถึง ๑.๘ แสนล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นอีก ๗ เปอร์เซ็นต์ยังไม่รวมหนี้สินเชื่อบ้านค้างชำระ (ซึ่งใกล้จะกลายเป็นหนี้เน่า) อีกประมาณ ๑.๗๘ แสนล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นกว่า ๓๑ เปอร์เซ็นต์!!ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เฉพาะหนี้สินเชื่อบ้านอย่างเดียวกลายเป็น “หนี้เสีย” และ “หนี้กำลังจะเสีย” ไปถึง ๓.๕ แสนล้านบาท“แม่ลูกจันทร์” มองว่าสาเหตุหนี้เน่าหนี้เสียเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจเพราะ…๑, ความสามารถใช้หนี้ของคนไทยลดลงอย่างชัดเจน๒, รายได้ประชาชนไม่สมดุลกับรายจ่ายที่จำเป็นสรุปว่าข้อมูลจากเครดิตบูโรเป็นใบเสร็จยืนยันว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้วเป็น “ภาพลวงตา”แต่ที่จริงแล้ว…เศรษฐกิจไทยยังสะลึมสะลือผลที่จะตามมาจากปริมาณหนี้เสียสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างโครมครามแสดงว่าจะมีลูกหนี้ถูกยึดบ้านยึดรถกันอีกบานตะไท!!ล่าสุด มีหนี้เสียที่รอบังคับคดีอีก ๖.๙ แสนรายปริมาณหนี้ใกล้เน่าอีกราว ๓.๖๗ แสนล้านบาทนี่แหละคือสภาพเศรษฐกิจของจริง!!“แม่ลูกจันทร์” สรุปตามความจริง ปัญหาหนี้สินประชาชนกับปัญหาหนี้รัฐบาลก็ริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟพอกันแต่หนี้รัฐบาลไม่เสียไม่เน่าเพราะฉีดยากันบูดไว้อย่างดีแต่จะใช้หนี้หมดเมื่อไหร่?? อย่าถามให้ปวดใจเลยโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
Related posts