“เต้ อาชีวะ” ยื่นสภา เอาผิดสอบจริยธรรม “รังสิมันต์ โรม” ละเมิดข้อบังคับประชุมสภา หรือไม่ ซัด คนอยู่เบื้องหลังเด็ก กล้าเปิดหน้าสู้ อย่ามุดใต้กระโปรง ยัน “ชาดา” ไม่ได้อยู่เบื้องหลังกลุ่มตน ขณะ “โรม” โต้ ภาพไม่ได้ตัดต่อ ได้รับอนุมัติจากสภา ท้า “ชาดา” เปิดผู้อยู่เบื้องหลัง วันที่ ๑๖ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคีกลุ่มราชภักดี นำโดย นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี พร้อมสมาชิกกว่า ๑๐ คน ยื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนรับเรื่อง เพื่อเรียกร้องให้เอาผิดและสอบจริยธรรม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กรณีละเมิดข้อบังคับการประชุมสภาหรือไม่ ในการนำภาพของกลุ่มตนขึ้นอภิปรายญัตติด่วน มาตรการอารักขาขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. ที่ผ่านมาโดย นายอัครวุธ กล่าวว่า ขอบคุณมากที่เอารูปของตนและกิจกรรมของตนมาพูดในสภา แต่งานของคนรักสถาบันไม่ควรไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง กิจกรรมที่ตนทำ แล้วภาพที่มี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นั้น นายชาดาก็ไม่ได้ไปในฐานะรัฐมนตรี หรือ สส. เขาไปในนามนายชาดา ไปร่วมปั่นจักรยานนายอัครวุธ กล่าวต่อว่า คนที่บอกว่าตนชอบใช้ความรุนแรง รู้หรือไม่ว่ามีใครเป็นไอดอล จากนั้น นายอัครวุธ ได้เปิดภาพ นายรังสิมันต์ สมัยเป็นนักศึกษาที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงภาพ สส.พรรคก้าวไกล ที่ไปอยู่กับกลุ่มนักเคลื่อนไหว รวมถึงภาพของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถ่ายคู่กับ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และกลุ่มทะลุวัง พร้อมกล่าวว่า ผมมีไอดอลเป็นนายรังสิมันต์ เพราะเขาเคยต่อยตำรวจต่อหน้าสาธารณชน ต่อหน้าสื่อมวลชน เขาทำมาก่อน“สิ่งที่คุณทำมาก่อน แต่คุณจะมาสอนให้ผมเป็นคนที่รักสงบ คนที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ขบวนการทั้งหลายแหล่ เขาบอกว่าไม่มีขบวนการ คุณไปนั่งอยู่ในนี้ได้อย่างไร เปิดดูได้ใน Google เจอหมด ยืนยันว่าไม่ได้เฟกนิวส์ พฤติกรรมของกลุ่มนายรังสิมันต์อยู่หน้าม็อบ” นายอัครวุธ กล่าว นายอัครวุธ กล่าวต่อว่า ข้อความที่ตนโพสต์เมื่อวันที่ ๘ ก.พ. ระบุว่า จะไปกระทืบกลุ่มทะลุวัง หรือปะทะกับกลุ่มทะลุวัง ตนยอมรับว่าเป็นภาพจริง ยอมรับว่าผิด แต่ถ้าดูคลิปดีๆ ตนเป็นคนไปห้าม แต่นายรังสิมันต์ กลับเอาภาพของตนมาแขวนในสภา แล้วบอกว่าชอบใช้ความรุนแรง ยืนยันว่า นายชาดาไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ถ้านายชาดาอยู่เบื้องหลัง แล้วภาพที่ตนนำมาวันนี้คืออะไร นั่งคุยกับใคร ไปให้รางวัลใคร ตนไม่ได้ว่าเขา ไปหาข้อมูลมาจาก Google ได้ ยืนยันว่าไม่ได้ตัดแปะข้อความ“กลุ่มของตะวันคุกคามขบวนเสด็จ ญัตติที่ผ่านมา คือทำอย่างไรก็ได้ให้แก้ไขปัญหาการคุกคามขบวนเสด็จ แต่นายรังสิมันต์กลับไปเอาบุคคลที่สามขึ้นมาแขวนอยู่บนสภา คุณคาดหน้าผม แต่คนเขารู้กันหมดว่าเป็นใคร คนเขารู้กันหมดว่าเป็น เต้ อาชีวะ แต่ไม่ยอมคาดหน้าพี่ชาดา บอกว่าเป็นนักการเมืองหนุนหลังผม เดี๋ยวผมจะไปถ่ายรูปกับรังสิมันต์ ผมเป็นเอฟซีเขา ดูซิว่าจะสนับสนุนผมหรือไม่ ผมผิดตรงไหนที่จะถ่ายรูปกับคนมีชื่อเสียง ผมถามคำเดียวว่า ถ้าคนพูดบอกว่าผมไปบ้านเขา ผมจะบอกให้นะ กิจกรรมทำความดีของผม ผมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติ ผมต้องปรึกษาใครบ้าง สมองอย่างผม สมองอาชีวะอย่างผม มีแต่แรง แต่แนวทางปฏิบัติผมต้องปรึกษาผู้ใหญ่ มันต้องปรึกษาหลายคน ทำให้เกิดภาพแห่งความจงรักภักดี ที่เป็นภาพออกมาและสวยงาม เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคมที่ผ่านมา แต่คุณกลับเอารูปไปตัดแปะข้อความทำให้ผมเสียหาย” นายอัครวุธ กล่าว“พวกผมเปิดหน้าสู้ แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเด็กเหล่านั้น กล้าเปิดหน้าหรือไม่ วันนี้ผมเห็นแวบๆ ไม่แน่ใจว่าใส่กางเกงหรือกระโปรง อย่ามุดใต้กระโปรงเด็ก อย่าทำเลย คุณกำลังเป็นฆาตกรที่ฆ่าเด็กๆ เหล่านั้น คุณกำลังทำให้อนาคตเขาเสื่อมเสียไป ดังนั้นวันนี้ผมวิงวอน ขอร้องอย่าเล่นประเด็นที่เกี่ยวกับคนอื่น ถ้าอยากเล่น เล่นผมคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว นักการเมืองก็ไม่เกี่ยว ผมไม่เคยเดินตามใคร และผมไม่ได้เป็นผีของนักการเมือง ถ้าผมเป็นผี ไอ้เด็กพวกนี้ทั้งหลายก็เป็นเปรตแหละครับ ถ้าผมเป็นผี พวกคุณก็เลี้ยงเปรตไว้เหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น อย่าเอาวาทกรรมมาพูดในสภา ควรทำให้มันมีเกียรติ การเมืองรุ่นใหม่ อย่าบูลลี่กัน อย่าใส่ร้าย อย่าเฟกนิวส์ อย่าเอาข้อความตัดแปะมา ไม่เอา มันไม่เฟี้ยว” นายอัครวุธ กล่าวขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มภาคีราชภักดี นำโดย เต้ อาชีวะ เรียกร้องให้สอบจริยธรรมว่าทำผิดข้อบังคับสภาหรือไม่ ภายหลังนำภาพของกลุ่มมาอภิปรายในญัตติมาตรการอารักขาขบวนเสด็จว่า ตนยินดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าผู้ร้องไม่ได้มีสิทธิแค่ร้องผู้อื่น แต่ต้องรับผิดชอบในคำร้องเช่นเดียวกัน และยืนยันว่าตนไม่ได้ตัดต่อภาพใดๆ และการนำภาพขึ้นที่ประชุมสภาก็ผ่านคณะกรรมการในการพิจารณาและอนุมัติ โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ ๒ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมอยู่แล้วนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าเราไปดูกฎหมาย PDPA ก็ไม่ได้บังคับมาถึงการทำหน้าที่ในสภา เพราะการทำหน้าที่ในสภาได้รับการยกเว้น ซึ่งตนไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องอะไร ถ้าจะร้องก็ร้องได้ ยินดี แต่อย่าลืมว่าผู้ร้องก็จะมีภาระหน้าที่ทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ยืนยันว่าตนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นปรากฏตามข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตัดต่อ หรือปลอมแปลงส่วนที่กลุ่มภาคีฯ นำภาพการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยเป็นนักศึกษาในช่วงการชุมนุมเมื่อปี ๒๕๕๗ และกล่าวว่าใช้ความรุนแรงเหมือนกัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาตกลงกันว่ามีการชุมนุมด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราตั้งใจว่าจะชุมนุมเพียงแค่ ๑๕ นาที โดยจะไม่พูดอะไรเลย และหลังจาก ๑๕ นาที จะพูดอะไรก็ได้ที่สะท้อนจิตใจของพวกเรา มั่นใจว่าการชุมนุมในตอนนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบ หรือขัดขวางการจราจร แต่ไม่มีใครเดือดร้อนทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีการเข้าสลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มผู้ที่ไปชุมนุมในเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษานายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า การกระทำครั้งนั้นไม่ได้นำไปสู่การตัดสินจำคุก ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนั้นจบไปแล้ว และพิสูจน์ได้ว่าประชาชนถูกรังแก ตนเป็นคนที่ปกป้องประชาธิปไตยเพื่อพวกเราทุกคน ดังนั้น คนที่ทำรัฐประหารต่างหากที่ทำผิดกฎหมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่นิรโทษกรรมตนเองเมื่อถามว่าที่ นายรังสิมันต์ และ สส.พรรคก้าวไกลถ่ายภาพรวมกับกลุ่มทะลุวังด้วย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนั้นตนอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ถ้ากรรมาธิการไม่ลงพื้นที่ คิดว่าจะทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร ซึ่งเป็นหมวกที่ตนต้องทำหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งก่อน สามารถลงพื้นที่และนำข้อมูลกลับมาได้นอกจากนี้ นายโรม ยังกล่าวว่า การที่ไปร่วมชุมนุมไม่ได้หมายความว่าตนเป็นท่อน้ำเลี้ยง ไม่ได้หมายความว่าม็อบนี้จะเกิดขึ้นได้เพราะตน และกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวก็ไม่ได้รับสิทธิใดๆ โดยน้องๆ นักศึกษาก็ยังต่อสู้คดีกันอยู่ แต่ในทางตรงข้ามตนก็ไม่แน่ใจว่า ศปปส.ที่ไปทำร้ายร่างกายประชาชนกลางเมืองหลวง จนถึงวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอะไรแล้วบ้างเมื่อถามย้ำว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง วันที่ตนชุมนุมทางการเมือง ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และในวันที่ตนเป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใคร ยืนยันว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ เขาไม่ยอมให้ใครไปอยู่เบื้องหลังเมื่อถามว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเปิดบัญชีผู้หนุนหลังม็อบเยาวชน ซึ่งอาจมีผู้ช่วย สส.เกี่ยวข้องด้วย นายรังสิมันต์ ระบุว่า เปิดเลยครับ ตอนที่นายชาดาเดินมาหาตนในห้องประชุมสภา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่าตนไม่แฟร์ พวกเราเอง สส.พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้เปิดบัญชีออกมาเลย พวกเราก็อยากรู้เหมือนกัน ที่ผ่านมาอยู่กับข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและจินตนาการไปเองทุกวัน“เราก็อยากดูเหมือนกัน ไอ้ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทำบัญชีผู้มีอิทธิพล เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครบ้างที่เป็นผู้มีอิทธิพล ในเมื่อท่านมีข้อมูลต่างๆ ท่านเปิดเลยครับ จะได้ใช้กฎหมายในการแก้ปัญหา ผมขอแวะมาที่ผู้มีอิทธิพลแป๊บนึง ผมก็อยากจะรู้ว่าบัญชีผู้มีอิทธิพล สุดท้ายมันมีรายละเอียดอย่างไร สุดท้ายที่อุทัยธานีใครเป็นผู้มีอิทธิพล ชื่อขึ้นต้น ช.หรือไม่ หรือไม่มีผู้มีอิทธิพล ก็อยากจะทราบ ดังนั้น คิดว่าอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่าไหมครับ” นายรังสิมันต์ กล่าวนายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า อย่าใช้คำว่าผมมีข้อมูลนั้น ข้อมูลนี้ วันนี้นายชาดาเป็นรัฐมนตรีแล้วอาจลืมตัวไป ต้องใจเย็นๆ ต้องตอบคำถามสังคม ตนเป็นนักการเมืองที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็มีสิทธิจะถาม นายชาดาก็มีสิทธิตอบ ถ้าไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาอาจมีความผิดเมื่อถามว่า นายชาดาจะพูดคุยในกรรมาธิการเท่านั้น จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าจะมากรรมาธิการตนยินดี โดยวันที่ ๒๙ ก.พ. น่าจะมีการประชุมในเรื่องนี้“ท่านชาดาอาจจะใช้อารมณ์มากไปหน่อย น่าจะใช้โอกาสสภาในการนำเสนอว่าถ้าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องขบวนเสด็จจะมีการเสนออะไร” นายรังสิมันต์ กล่าว
"เต้ อาชีวะ" ยื่นสภา สอบจริยธรรม-"โรม" ท้า "ชาดา" เปิดคนข้างหลัง ม็อบเด็ก
Related posts