คําว่าที่ปรึกษา มีความสำคัญต่อ ผู้บริหาร ผู้นำ ในการวางแผน ยุทธศาสตร์และนโยบาย การบริหารงานไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น คณะที่ปรึกษาส่วนใหญ่จะมาจากผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ ในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา มักจะมีที่ปรึกษาที่ถูกเรียกว่า แก๊งไอติม ในที่นี้น่าจะหมายถึงเด็ก ที่ยังขาดประสบการณ์ มีแต่ความรู้ แต่ไม่มีความสามารถ ท้ายที่สุดพาผู้นำลงเหวลงบ่อยิ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องระมัดระวังในการตั้งที่ปรึกษา ต้องศึกษาให้รอบด้าน ที่ผ่านมาที่ปรึกษากลายเป็นหอกข้างแคร่ สบช่องเข้ามาทำมาหากิน เดือดร้อนไปถึงเครดิตผู้นำจากปลาเน่าตัวเดียวนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ก็มีคณะที่ปรึกษานั่งอยู่บนตึกไทย คู่ฟ้า คอยแนะนำ วางแผน ทำหน้าที่เป็นกุนซือให้กับนายกฯ เศรษฐา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งก็ไม่แปลก นายกฯ ที่ผ่านมาก็ตั้งที่ปรึกษาเอาไว้หลายคณะ ฝ่ายที่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ การทำงานของนายกฯก็สำคัญ มีหลายรูปแบบ คณะทำงานจริงๆ ส่วนใหญ่ว่ากันว่า จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้แต่ขาดประสบการณ์ ในการบริหารงานภาครัฐ ที่ไม่ใช่บริษัทหรือซีอีโอ เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ต้องการให้มีภาพมีข่าวนายกฯ ให้มากเข้าไว้ก่อนแต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่จะมีผลต่อตัวนายกฯ จะบวกหรือลบเป็นอีกเรื่องจะว่าไปแล้ว การทำงานของนายกฯเศรษฐาค่อนข้างจะตั้งใจ ขยันมากถึงมากที่สุด แต่ไม่ได้แยกว่า งานอะไรที่เหมาะสมหรือสมควร สำหรับตำแหน่งผู้นำ ไม่ใช่ให้นายกฯทำงาน ตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ ชาวบ้านเลยไม่เกิดอินเนอร์ในความเป็นนายกฯของเศรษฐา จะขยันขนาดไหนเป็นเรื่องธรรมดาไปหมดถ้ามีการวางแผนให้รอบคอบ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือ การแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบ หรือซอฟต์พาวเวอร์ คงไม่สะดุดขาตัวเอง ทั้งๆที่ชาวบ้านก็ให้โอกาสในการทำงานเต็มที่แล้ว สมมติถ้าเป็นสมัย ลุงตู่คงถูกสวดยับไปแล้วบางเรื่องที่เป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน ก็ควรจะให้ความสำคัญมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่เรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาหารือ เช่นกรณีเรื่องขบวนเสด็จ แล้วก็จบ แต่จะต้องมีความชัดเจนและหนักแน่น จริงจังชนวนน้ำผึ้งหยดเดียว ที่เกิดอยู่ตรงหน้า ขึ้นอยู่กับการกล้าตัดสินใจและวิสัยทัศน์ของผู้นำ ก่อนที่จะบานปลายเป็นปัญหาวิกฤติประเทศ ฝ่ายหนึ่งส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดฝ่ายหนึ่งออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์อย่างจริงจังเช่นกัน ยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้คำถามสะท้อนไปถึงรัฐบาลว่าทำอะไรอยู่การเมืองที่กำลังลามจากในสภาไปนอกสภา ไม่ใช่เรื่องระหว่างก้าวไกล กับกองทัพแค่นั้น แต่เป็นเรื่องระหว่างรอยแตกแยกของความขัดแย้งรุนแรงในอดีต ที่กำลังจะเป็นวิกฤติปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ความหวาดระแวงระหว่างฝ่ายอนุรักษ์ใหม่ อนุรักษ์เก่า ประชาธิปไตยใหม่ ประชาธิปไตยเก่า ขวา ซ้าย เป็นเชื้อปะทุจากภายในสู่ภายนอกยิ่งลือกันว่า แอบไปจับมือกับก้าวไกลอยู่ด้วย.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
