ผู้บัญชาการทหารบกฮึ่ม! ปมขวางขบวนเสด็จฯ ขอสังคมช่วยกัน บอกคนที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน อะไรควร-ไม่ควร กำชับ เฝ้าระวังชายแดน ไทย-เมียนมา ย้ำ บทบาทหน้าที่ สนองนโยบายรัฐ แก้ PM ๒.๕ บูรณาการทุกภาคส่วนเมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. วันที่ ๑๖ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สวนรื่นฤดี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะรอง ผู้อำนวยการรมน. เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กอ.รมน. โดยมีส่วนราชการ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง พล.อ.เจริญชัย กล่าวถึงการดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ว่า เป็นหน้าที่ของกองกำลังป้องกันชายแดน ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้ง ยาเสพติด และขบวนการค้าอาวุธ ทหารถือเป็นกำลังส่วนหนึ่ง ที่ต้องดูแลป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมถึงการดูแลอธิปไตย เราได้ใช้กลไกปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาล ทราบดี ถึงสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้าน กำลังทุกภาคส่วนตระหนัก และมีมาตรการเข้ม ตนในฐานะที่เป็น ผบ.ทบ. ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน และรัฐบาลเองก็มีเป้าประสงค์ทำให้พื้นที่ดังกล่าว เกิดความเรียบร้อย ซึ่งทหารเองก็จะดูแลประชาชนทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุดผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า คลังอาวุธของกองทัพไม่น่าจะเป็นสาเหตุ ของอาวุธรั่วไหลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะส่วนใหญ่อาวุธที่หลั่งไหลไป ไม่ได้มาจากในคลังของทหาร อีกทั้งมีมาตรการในการดูแลคลังอาวุธอยู่แล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบพิสูจน์ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการจับกุมขบวนการค้าอาวุธสงครามได้ พิสูจน์ทราบได้ว่าไม่ได้มาจากคลังของทหาร ขออย่าได้กังวล เรามีกระบวนการที่จะดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพเป็นอย่างดีพล.อ.เจริญชัย ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ๙๐๔ หรือ ผบ.ฉก.ทม.๙๐๔ กล่าวถึงกรณีนักกิจกรรมขัดขวางขบวนเสด็จ ว่า ตนมองว่า สังคมคิดเหมือนกันเพียงแต่ว่า เรากล้าที่จะพูดดังๆ หรือไม่ ก็แค่นั้น และเราเองก็ต้องบอกกับคนที่มีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน แล้วไปแสดงออกในทางที่ไม่ถูกไม่ควร สิ่งนี้ตนมองว่า สังคมต้องช่วยกัน อะไรควรหรือไม่ควร ทำอย่างไรให้คนในสังคมได้รู้ว่า อะไรคือกาลเทศะ รู้ผิดชอบชั่วดี เพราะบางสิ่งมันต้องใช้สำนึก ซึ่งสำนึกนี้สังคมต้องช่วยกันพล.อ.เจริญชัย ผบ.ทบ. ได้กล่าวตอนหนึ่ง ถึงบทบาทการทำหน้าที่ กอ.รมน. และเรื่องที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้สั่งการดำเนินการในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ว่า นายกฯ ได้กล่าวชมเชย จ.เชียงใหม่ ที่บูรณาการเรื่องป้องกันไฟป่า ซึ่งนายกฯ ในฐานะ ผู้อำนวยการรมน. ได้มอบหมายให้ ผู้อำนวยการรมน.ภาค ๓ หรือแม่ทัพภาค ๓ เป็นผู้บังคับบัญชาที่จะบูรณาการทุกหน่วยงาน ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าปัจจุบันนี้ งานต่างๆ ที่ทำในเชียงใหม่เป็นผล และเห็นเป็นรูปธรรม จึงให้เป็นแนวทางแก่ทุกภาคส่วนราชการ ว่าแต่ละงานต้องมีเจ้าภาพ ซึ่งแล้วแต่ว่าใครจะเป็น แต่ กอ.รมน.จะเป็นผู้ประสานงาน อำนวยการ และบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุดนอกจากนี้ นายกฯ ก็ยังสั่งการบังคับบัญชา และมอบนโยบายให้ กอ.รมน. เป็นไปในแนวทางเดียวกับที่รัฐบาลขับเคลื่อน ใช้กลไก กอ.รมน.ดำเนินการ ทุกคนก็จะเห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์ และวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์นี้ นายกฯ จะไปมอบที่ดินให้กับประชาชนที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับโครงการต่อๆ ไปผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี จ.กาญจนบุรี ที่นายกฯ มีความเป็นห่วง ทั้งเรื่องของจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้น และปัญหาของเถื่อนต่างๆ นั้น ตนทราบว่าที่กาญจนบุรีได้ดำเนินการคู่ขนานกันไป เพียงแต่บางอย่างไม่ได้ขับเคลื่อนเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการในพื้นที่ ก็ได้ร่วมมือกัน ประสานกับพื้นที่ใกล้เคียง และไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ต้องใช้ความพยายามต่อไป
