Thursday, 19 December 2024

ใช้รถรพ.ตำรวจส่ง "ทักษิณ" กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังพักโทษ ๑๘ ก.พ.

17 Feb 2024
187

ผู้บัญชาการทหารบกฮึ่มปลุกสังคมไทย กล้าส่งเสียงดังๆกระตุกสำนึกพวกขวางขบวนเสด็จ ให้รู้กาลเทศะ รู้ผิดชอบชั่วดี ลั่นทหารดูแลป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ “กิตติรัตน์” ปัดรัฐบาลยื้อเวลาตั้งคณะทำงานศึกษาข้อท้วงติงดิจิทัลวอลเล็ต โบ้ยไม่ได้กลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่เพื่อให้รอบคอบครบถ้วน โฆษกรัฐบาลยันตั้งใจทำทุกอย่างโปร่งใสที่สุด เกิดประโยชน์สูงสุด “ไหม” หยันความหวังริบหรี่ เตะถ่วงไปเรื่อย ยื้อนับหนึ่งใหม่ยิ่งเสียโอกาส แซะนายกฯอ่อนไหวพายเรือในอ่างไม่จบสักที “อิ๊งค์-โฆษก ตร.” ดอดหารือก่อนนายกฯไม่สบายตัวยกเลิกหมายงานช่วงบ่าย จับตา “ทักษิณ” พักโทษกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเช้ามืด ๑๘ ก.พ. “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ไม่กังวลม็อบต้านแค่หลักร้อย ใช้แผนรับมือปกติ คปท.จี้อัยการเร่งฟ้องคดี ม.๑๑๒จากกรณีมีนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง กระทำการขัดขวางขบวนเสด็จ จนรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงกังวล โดยสภากลาโหมได้ประชุมหารือเพื่อกำชับวงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ล่าสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบกได้ออกมาเรียกร้องสังคมให้ร่วมกันแสดงออกเพื่อกระตุกเตือนดังๆถึงคนที่แสดงออกในสิ่งไม่บังควร ให้รู้ผิดชอบชั่วดีและกาลเทศะผบ.ทบ.ฮึ่มทหารสกัดสิ่งผิด ก.ม.ทุกรูปแบบเมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น.วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สวนรื่นฤดี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะรอง ผู้อำนวยการรมน. เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กอ.รมน. โดยมีส่วนราชการ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง พล.อ.เจริญชัยกล่าวถึงการดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาว่าเป็นหน้าที่ของกองกำลังป้องกันชายแดน ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด และขบวนการค้าอาวุธ ทหารถือเป็นกำลังส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมถึงการดูแลอธิปไตยเราได้ใช้กลไกปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาล ทราบดีถึงสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้าน กำลังทุกภาคส่วนตระหนัก และมีมาตรการเข้ม ในฐานะที่เป็น ผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน และรัฐบาลมีเป้าประสงค์ทำให้พื้นที่ดังกล่าว เกิดความเรียบร้อย ทหารจะดูแลประชาชนทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยืนยันว่าคลังอาวุธของกองทัพไม่น่าจะเป็นสาเหตุของอาวุธรั่วไหลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะส่วนใหญ่อาวุธที่หลั่งไหลไป ไม่ได้มาจากในคลังของทหาร อีกทั้งมีมาตรการในการดูแลคลังอาวุธอยู่แล้ว สามารถตรวจสอบพิสูจน์ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการจับกุมขบวนการค้าอาวุธสงครามได้ พิสูจน์ทราบได้ว่าไม่ได้มาจากคลังของทหาร ขออย่าได้กังวล เรามีกระบวนการที่จะดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเป็นอย่างดีปลุกสังคมพูดดังๆต้านขวางขบวนเสด็จพล.อ.เจริญชัยในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ๙๐๔ หรือ ผบ.ฉก.ทม.๙๐๔ กล่าวถึงกรณีนักกิจกรรมขัดขวางขบวนเสด็จว่า มองว่าสังคมคิดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเรากล้าที่จะพูดดังๆหรือไม่แค่นั้น และเราเองต้องบอกกับคนที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน แล้วไปแสดงออกในทางที่ไม่ถูกไม่ควร สิ่งนี้มองว่าสังคมต้องช่วยกัน อะไรควรหรือไม่ควร ทำอย่างไรให้คนในสังคมได้รู้ว่าอะไรคือกาลเทศะ รู้ผิดชอบชั่วดี เพราะบางสิ่งมันต้องใช้สำนึก สำนึกนี้สังคมต้องช่วยกันทอ.แสดงพลังทำกิจกรรมจิตอาสาเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น. ที่สนามบินเก่า จ.เชียงราย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. กล่าวถึงแนวทางการแสดงออกของกำลังพลต่อกรณีขบวนเสด็จว่า ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือการจงรักภักดีต่อสถาบัน กองทัพอากาศเองก็มีความรู้สึก แต่การแสดงออกต้องระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยวันที่ ๑๙ ก.พ. ในทุกภาคส่วนและทุกหน่วยจะไปร่วมไปพัฒนาพื้นที่ ทำความดีด้วยหัวใจในลักษณะจิตอาสาเพราะเราเป็นทหารของพระราชา จะดูว่าทำหน้าที่อย่างไรให้ดีที่สุด โดยจะไปทำกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางและต่างจังหวัดของกองทัพอากาศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราไม่ตอบโต้อะไร แต่รู้ว่าการทำดีจะชนะทุกสิ่ง “ตะวัน” อดข้าวน้ำส่งตัวเข้า รพ.ราชทัณฑ์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เฟซบุ๊ก Yourmy Onlybambi ของ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม เพื่อนสนิทของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ได้แชร์โพสต์ของTawan Tantawan มีข้อความเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ล่าสุดของ น.ส.ทานตะวัน ในเรือนจำมีใจความว่า วันนี้ทนายความและเพื่อนเข้าเยี่ยมตะวัน เรือนจำได้ส่งตัวตะวันมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว ยืนยันไม่ประกันตัว อดน้ำ อดอาหาร และฝากบอกแฟรงค์ว่า“อดทน” แฟรงค์ยืนยัน ๓ ข้อเรียกร้อง อดน้ำ อดอาหาร ไม่ประกันตัวไม่ต้องให้ใครมาเยี่ยมยกเว้นทนาย ไม่ต้องแจ้งญาติเช้ามืด ๑๘ กุมภาพันธ์ดีเดย์ “ทักษิณ” กลับบ้านผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีชื่ออยู่ในบัญชีได้รับการพักโทษ ล่าสุดนายทักษิณจะได้รับการพักโทษตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์โดยจะเดินทางกลับไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้าในเช้ามืดของวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ทันที เพราะไม่ต้องรอขั้นตอนติดกำไลอีเอ็ม ไม่ต้องเดินทางไปกรมคุมประพฤติ หรือหน่วยงานราชการใดๆ โดยจะมีรถนำส่งผู้ป่วยของ รพ.ตำรวจ ที่มารอรับบริเวณช่องทางชั้นใต้ดินของ รพ.ตำรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่เปิดเผยตัวต่อสื่อมวลชน โดยครอบครัวชินวัตรจะมารอต้อนรับอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา และจะเก็บตัวเงียบอยู่กับครอบครัวในสัปดาห์แรก ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกเข้าพบยกเว้นคนใกล้ชิดระดับวีไอพี แต่เมื่อผ่านไปสักระยะคาดว่านายทักษิณจะเข้ารับตำแหน่งประธานมูลนิธิไทยคม เพื่อใช้เป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ อย่างเหมาะสม แต่ไม่ข้องแวะกับประเด็นการเมือง เพราะจะกระทบกับการบริหารงานของรัฐบาล รวมทั้งภาวะผู้นำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง“โจ๊ก” ไม่หนักใจม็อบต้านมีแค่หลักร้อยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตำรวจในฐานะกำกับดูแลงานมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มต่อต้านกรณีกรมราชทัณฑ์พักโทษนายทักษิณ ชินวัตร จะปล่อยตัวในช่วงวันที่ ๑๘-๒๒ ก.พ. เตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมว่า ไม่รู้สึกหนักใจได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มแกนนำแล้ว ที่ผ่านมาใช้ชุดตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ดำเนินการปกติ ไม่ได้เพิ่มกำลังเพราะตอนนี้ยังไม่มีกระแสความรุนแรงเกิดขึ้น และจากการข่าวที่ผ่านมาเมื่อรวมกัน ๒ กลุ่มที่เคลื่อนไหวมีหลักร้อย ดังนั้นใช้มาตรการปกติในการดู ส่วนในวันที่ ๑๘-๒๒ กุมภาพันธ์จะคำนึงถึงการข่าวเป็นหลัก เป็นแผนปกติไม่มีอะไรเป็นกรณีพิเศษ การจัดวางกำลังดูแลปลอดภัยโดยรอบ รพ.ตำรวจ ยังคงใช้กำลังตำรวจท้องที่ และ คฝ.ตามปกติ ไม่ได้เพิ่มกำลัง ส่วนที่พักที่บ้านจันทร์ส่องหล้าที่นายทักษิณจะไปพักอาศัยจะใช้กำลังตำรวจท้องที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญ ในฐานะที่นายทักษิณ เป็นอดีตนายกฯ ตามปกติม็อบบี้อัยการฟ้องคดี ม.๑๑๒ “ทักษิณ”เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนแจ้งวัฒนะ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำมวลชนกลุ่ม คปท. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม ประมาณ ๑๒๐ คน ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดเพื่อทวงถามความคืบหน้าที่เรียกร้องให้ดำเนินคดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ข้อหาหมิ่นสถาบันตาม ป.อาญามาตรา ๑๑๒ กรณีโพสต์ข้อความจากต่างประเทศเมื่อปี ๒๕๕๙ มีนายณรงค์ ศรีระสันต์ และนายนาเคนทร์ ทองไพวัลย์ รองโฆษกสำนัก อสส.มารับเรื่อง นายนาเคนทร์เผยว่า ผู้แทนมวลชนเขาถามว่า อัยการเทิดทูนสถาบันปกป้องสถาบันไหม อัยการไปแจ้งข้อหาต่อนายทักษิณนั้นจริงไหม ตนไปบอกว่า ยืนยันอัยการทั่วประเทศมีความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันและอัยการไปแจ้งข้อหานายทักษิณแล้วเป็นความจริงและผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา เรานำมาพิจารณาประกอบพยานหลักฐาน การดำเนินคดีจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กลุ่ม คปท.และ คปปส.พอใจพากันกลับไปโดยสงบนายกฯขอทุกฝ่ายร่วมกู้เศรษฐกิจเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้อง Meeting Room ชั้น ๒ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวปาฐกถาในงาน iBusiness Forum ๒๐๒๔ หัวข้อ RESHA PING THAILAND FOR A SUSTAINABLE FUTURE พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน โดยนายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า เราไม่ได้มาพูดว่าต้นตอปัญหาของประเทศคืออะไร แต่มาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อยากให้ทุกภาคส่วนไม่ใช่แค่รัฐบาลคนเดียวที่มีหน้าที่แก้ไขปัญหา การเป็นนายกฯหรือรัฐบาลมีพลังอำนาจพอสมควร แต่ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ทุกภาคส่วน หน่วยงานรัฐ ราชการ ความมั่นคงองค์กรอิสระ ต้องช่วยกันเต็มที่ ต้องสามัคคีในหลักความคิดที่จะแก้ปัญหา สิ่งที่แปลกใจกับการเข้ามาเป็นนายกฯคือเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ทำคนเดียวไม่ได้ แม้เป็นนายกฯไม่สามารถผลักดันการแก้ไขปัญหาทุกเรื่องได้ แต่ไม่ใช่ข้อแก้ตัว มาอยู่ที่นี่ตั้งใจทำตรงนี้ให้ได้ “อิ๊งค์” ดอดพบบอกคุยซอฟต์พาวเวอร์เวลา ๑๑.๔๐ น. นายเศรษฐาเดินทางกลับเข้าทำเนียบฯทันทีที่ลงรถยนต์ เป็นที่น่าสังเกตว่านายเศรษฐามีสีหน้าไม่สู้ดีและเรียกทีมงานเข้าพูดคุยอย่างเคร่งเครียด ขณะที่เวลา ๑๓.๓๐ น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลาหารืออยู่ราว ๑ ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าคุยเรื่องซอฟต์พาวเวอร์กับนายกฯเป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า “คุยค่ะ เรื่องการจัดงานสงกรานต์” ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้คุยเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ได้รับการพักโทษหรือไม่ น.ส.แพทองธารปฏิเสธว่า “ไม่มีค่ะ มีแต่คุยเรื่องซอฟต์พาวเวอร์”ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามาก่อน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าได้พูดคุยเรื่องการพักโทษนายทักษิณหรือไม่ โดย นพ.สุรพงษ์เปิดเผยว่า มาคุยเกี่ยวกับเรื่องงบฯซอฟต์พาวเวอร์ที่จะจัดงานมหาสงกรานต์ช่วงเดือน เม.ย. นายกฯขอให้เร่งรัดทำงบฯให้เร็วที่สุด ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา จะเป็นงบฯของหน่วยงานราชการ หากไม่พอหน่วยงานราชการจะของบฯกลางจากนายกฯ ขณะที่เดินออกมา น.ส.แพทองธารยังพูดคุยส่วนตัวกับนายกฯอยู่ไม่สบายตัวยกเลิกงานเก็บตัวตึกไทยฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้เมื่อเวลา ๑๓.๒๐ น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ นายกฯได้มอบหมายให้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ แทน รวมถึงยกเลิกเข้าเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรี ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี เขตหนองจอก กทม. ในเวลา ๑๕.๐๐ น. มีรายงานว่าตลอดช่วงบ่ายนายกฯจะปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯจนหมดเวลาราชการ โดยไม่มีภารกิจนอกทำเนียบฯ ทั้งนี้คนใกล้ชิดนายกฯระบุว่าสาเหตุที่นายกฯยกเลิกภารกิจต่างๆช่วงบ่ายเนื่องจากรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว แต่ไม่มีอาการไข้ ไอ หรืออะไร“โต้ง” ปัดยื้อเวลาตั้งทีมศึกษาเงินดิจิทัลเมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. ที่รัฐสภา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกฯและรองประธานคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณ ๒๕๖๗ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยใช้เวลาพิจารณาอีก ๓๐ วัน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นการยื้อเวลาว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อให้เกิดความรอบคอบเป็นประโยชน์ครบถ้วน ทั้งส่วนราชการและนโยบายที่เกี่ยวข้อง เหมือนกับงบประมาณในทุกๆปีที่ตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา เพราะแต่ละคณะอนุกรรมการจะลงรายละเอียดแต่ละรายการ เรื่องสำคัญของบ้านเมืองต้องศึกษาเป็นเรื่องปกติ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ เมื่อถามว่า ดูเหมือนจะกลับไปเหมือนจุดเริ่มต้นหรือไม่ นายกิตติรัตน์ตอบว่า เนื่องจากมีข้อสังเกตจากหลายหน่วยงาน จะบอกว่าไปเริ่มต้นใหม่คงไม่ใช่ ถ้าบอกว่าจะไม่ถอยไปดูอีกแล้วเท่ากับว่า เราไม่ให้ความสำคัญ หน่วยงานไม่ให้เกียรติกับหน่วยงานที่แสดงความคิดเห็นมา ดังนั้นการที่จะพิจารณาให้รอบคอบต้องเอาความเห็นเหล่านั้นมาพิจารณาด้วยโฆษกฯ รบ.ยันตั้งใจรอบคอบโปร่งใสนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑ หมื่น ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง รับความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพื่อต้องการให้โครงการมีข้อสรุปที่ดีที่สุด โปร่งใสเหมาะสม ได้ประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด โดยในที่ประชุมหลายส่วนระบุว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว ตัวเลขทางเศรษฐกิจชี้ว่า ยังไม่กลับมาเติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด การฟื้นตัวของแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน ประชาชนมีรายจ่ายจากหนี้สินทำให้ไม่มีรายได้เหลือเพียงพอซื้อสินค้า ในมุมมองของผู้ขายไม่มีเม็ดเงินให้นำมาขยายกิจการ หรือพัฒนาสินค้า SME ไม่เติบโตเท่าที่ควร  ทำให้เกิดปัญหาระยะยาว การแก้ปัญหาด้วยการเยียวยาไม่ใช่วิธีที่แก้ปัญหาได้ รัฐบาลต้องหาวิธีใหม่อัดฉีดเงินเข้าระบบ ช่วยชีวิตประชาชนต่อยอดให้ฟื้นตัวมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น และรัฐบาลยืนยันที่จะดำเนินนโยบายด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย โดยในที่ประชุมจึงมีมติให้ทุกส่วนศึกษาพิจารณาถึงข้อห่วงกังวลที่เกิดขึ้น และนำมาหารือกันอีกครั้งเพื่อให้นโยบายนี้ได้ประโยชน์สูงสุดและโปร่งใสที่สุด โดยนายกฯเน้นย้ำว่า ตลอดเวลาลงพื้นที่ อย่างหนักเห็นแววตาประชาชนต้องการช่วยเหลือให้วิถีชีวิตประชาชนดีขึ้น ที่สำคัญคือนโยบายนี้ต้องเปิดเผย โปร่งใส สง่างาม  “ไหม” เย้ยนับหนึ่งใหม่ยิ่งเสียโอกาสเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึง กรณีรัฐบาลตั้งคณะทำงานศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพิ่มว่า เป็นไปอย่างที่เคยพูดไว้ การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ วันที่ ๑๕ ก.พ. จะไม่มีความคืบหน้า เพราะได้สัญญาณจากการประชุม คณะรัฐมนตรีว่า ตัวรายงานดิจิทัลวอลเล็ตของ  ป.ป.ช. ยังไม่ได้เข้า ครม. ทำให้ดีเลย์ไปอีก ได้แต่ภาวนาแทนว่าจะได้ทำหรือไม่ อยากให้ตัดสินใจเร่งด่วน ยิ่งยื้อจะทำให้เสียโอกาส ควรใช้เวลาช่วงนี้ทำมาตรการ อะไรบางอย่างให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่การกระทำกลับย้อนแย้งว่า ยังไม่ทำอะไรสักที ยิ่งจากการแถลงของนายกฯ เหมือนการย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นที่ศูนย์ เหมือนนับหนึ่งใหม่ กลายเป็นไม่ได้มีความแน่ชัดแล้ว จะออกเป็นร่าง พระราชบัญญัติกู้เงินหรือเปลี่ยนไปใช้แหล่งเงินอื่น ขณะที่เรื่องกลุ่มเป้าหมาย นายกฯหวั่นไหวอีกยังสรุปไม่ได้กลุ่มเปราะบางคือกลุ่มใด เหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก หากได้รับความเห็นอื่นๆเข้ามาอีก เหมือนพายเรือในอ่างไม่จบสักที อยากเห็นความหนักแน่นเด็ดขาดว่าสรุปแล้วจะเอาอย่างไร ต้องฟันธงทุบโต๊ะ ถ้านโยบายคิดมาดีแล้ว จะมีคำตอบว่าทำไมต้องกู้ และต้องให้กลุ่มนี้ แต่ตอนนี้กลับเป็นใครพูดอย่างหนึ่ง ก็กลับมาเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตลอดเวลาเตะถ่วงไปเรื่อยความหวังริบหรี่น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เข้าใจดีข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. สำหรับหลายคนคงเป็นเรื่องใหญ่ แต่ยังยืนยันให้กำลังใจรัฐบาลเรื่องนี้ ความเห็น ป.ป.ช.เป็นแค่ข้อเสนอแนะ ครอบคลุมเรื่องความเสี่ยงการป้องกันทุจริตในอนาคต ขอให้รัฐบาลหนักแน่นเด็ดขาด จะทำหรือไม่ทำก็ตัดสินใจได้เลย ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ ประชาชนที่รออยู่ หรือจะให้รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ ส่วนการอ้างมีเอกสารลับที่บางคนเพิ่งเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. จริงๆรายงาน ป.ป.ช. ไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ ได้เห็นแต่ตัวร่างที่เป็นเหมือนร่างหลุด แต่เอกสารการแถลงข่าว ป.ป.ช.ไปตรงกับ ๘ ข้อที่อยู่ในร่างที่หลุดมา คงต้องรอให้รายงาน ป.ป.ช.เข้า คณะรัฐมนตรีก่อน แล้วยกเลิกการเป็นความลับ คงได้ดูตัวรายงาน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายแล้วอาจไม่มีการดำเนินการโครงการนี้ น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า ตอนนี้ความเป็นไปได้ริบหรี่ลงเรื่อยๆ ทุกวันนี้ทำอยู่แค่การเตะถ่วงไปเรื่อยๆ อยากให้เกิดความชัดเจนจะทำหรือไม่ ผลสำรวจนิด้าโพลบอกว่า หากไม่ได้ทำ ประชาชนไม่โกรธ แต่เราอยากได้ความชัดเจนมากกว่า ประชาชน นักลงทุนรอให้เกิดการตัดสินใจที่แน่นอน จะได้มูฟออนไปทำอย่างอื่น แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ชะงักไปทั้งระบบเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลัง น.ส.ศิริกัญญา สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ได้ร้องเพลงรอของนายสุเทพ วงศ์กำแหง ท่อนหนึ่งว่า “รอแล้วรอแล้ว รอไม่สิ้น รอจนใกล้ดับ ถมทับแผ่นดิน แผ่นฟ้า”ทสท.แนะ รบ.เลิกยื้อเสี่ยงเดินหน้าลุยนายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลว่า รัฐบาลควรเลิกยื้อเวลา และให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะทำนโยบายต่อหรือไม่ โดยหากคิดจะฝืนทำควรเลิกโน้มน้าวและหันมาลงมือทำอย่างจริงจังไปเลย ส่วนผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแบบไหนก็ตาม ผู้เกี่ยวข้องต้องพร้อมรับความเสี่ยง แต่หากไม่คิดทำแล้วควรเร่งหานโยบายอื่นเอามาช่วยเหลือประชาชน ส่วนตัวเชื่อว่าหากรัฐบาลคิดนโยบายใหม่ไม่ทันอาจไปดึงนโยบายรัฐบาลเก่ามาใช้ก่อน แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องพิจารณาเรื่องนี้จริงจังได้แล้ว“จุรินทร์” ซัดชักแม่น้ำซื้อเวลาซ้ำซากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องความเห็นกฤษฎีกา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตอีก ๓๐ วันว่าเป็นไปตามคาด ด้านหนึ่งตั้งแต่นายกฯถึงคนในรัฐบาลดาหน้าออกมาบอกว่า เศรษฐกิจกำลังวิกฤติรอช้าไม่ได้ ถามใครๆก็ต้องการเงินแจก และออกมาตอบโต้ทุกหน่วยงานทุกองค์กรที่ทักท้วง อีกด้านพอจะตัดสินใจทำกลับสวนทางกับสิ่งที่พูด เดิมอ้างรอกฤษฎีกาให้ความเห็นเสร็จ อ้างรอ ป.ป.ช.ส่งความเห็นมาให้ อ้างอีกแล้วว่าต้องศึกษา ๓๐ วัน สุดท้ายคือ การซื้อเวลาซ้ำซาก เพราะรู้อยู่ลึกๆว่า โครงการนี้มันเสี่ยงซ้ำรอยทุจริตจำนำข้าว เสี่ยงทุจริต ผิดกฎหมาย เหมือนที่หลายฝ่ายได้ออกมาเตือนกันไว้นั่นเองปธ.กมธ.งบฯเผยชำแหละงบฯเสร็จเร็วเมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. ที่รัฐสภา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ กล่าวถึงคืบหน้าการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯว่า ขณะนี้ทำงานมาแล้วครึ่งทาง หรือร้อยละ ๕๐.๑๓ ปีนี้ได้ปรับโครงสร้างการทำงานของอนุ กมธ.แต่ละชุดจนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น  เชื่อว่าจะเสร็จเร็วกว่าปฏิทินงบประมาณที่เคยวางไว้ ขณะนี้ กมธ.ฯได้ประชุม และมีมติเห็นชอบที่จะขอแจ้งต่อสภาฯว่า พร้อมจะเสนอเข้าสู่สภาฯเพื่อพิจารณาวาระ ๒-๓ ในวันที่ ๒๐-๒๑ มีนาคม๒๕๖๗ เท่ากับว่าทำงานได้เร็วขึ้นประมาณ ๒ สัปดาห์ จะเป็นผลดีต่อสภาฯเพื่อพิจารณาส่งต่อไปยังวุฒิสภาโวแลนด์บริดจ์นับหนึ่งดึงศักยภาพไทยน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย   (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ  (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือแลนด์บริดจ์ กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมสภาฯรับรองรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ โครงการแลนด์บริดจ์ของ กมธ.แล้ว จากนี้ไปเป็นขั้นตอนที่จะส่งผลการศึกษาของ กมธ.แลนด์บริดจ์ ให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ในฐานะกมธ.เห็นว่าโครงการนี้ถือเป็นการนับหนึ่งของเมกะ โปรเจกต์หรือการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยการริเริ่มของรัฐบาลที่นำโดยพรรคพท. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ที่ดึงศักยภาพของประเทศไทยให้กลับมาเด่นชัดขึ้นในแผนที่โลกอีกครั้ง “อัครเดช” ซัด “ปดิพัทธ์” ต้นเหตุสภาป่วนนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ตอบโต้กระทบกระทั่งกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ ๒ ระหว่างพิจารณาญัตติทบทวนมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น การประชุมสภาฯ วันนั้นมี สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) คนหนึ่งอภิปรายออกนอกประเด็นของญัตติ โดยตนในฐานะเจ้าของญัตติลุกขึ้นทักท้วงแล้ว โดยเฉพาะการไปกล่าวถึงการปะทะกันระหว่างบุคคล ๒ กลุ่ม เพราะเชื่อว่าจะทำให้การประชุมไม่ราบรื่นประท้วงตอบโต้กันไปมา แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ ๑ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมอยู่ขณะนั้นกลับใช้ดุลพินิจวินิจฉัยให้อภิปรายต่อได้อ้างว่าเป็นผลต่อเนื่อง ทั้งที่โดยหลักหลักการแล้ว ประธานที่ประชุมควรต้องฟังเจ้าของญัตติว่ามีเจตนารมณ์อย่างไร เพราะการวินิจฉัยของประธานมีความสำคัญต่อการควบคุมการประชุม เมื่อนายปดิพัทธ์วินิจฉัยเสร็จ ได้สลับให้นายพิเชษฐ์ทำหน้าที่ประธาน ทำให้นายพิเชษฐ์ต้องใช้คำวินิจฉัยของนายปดิพัทธ์มาใช้ควบคุมการประชุมต่อจนทำให้เกิดความวุ่นวาย เสียหายต่อภาพลักษณ์ของสภาฯจี้รับผิดชอบวินิจฉัยทิ้งระเบิดให้ขัดแย้งนายอัครเดชกล่าวว่า หากนายปดิพัทธ์ฟังคำทักท้วงที่เจ้าของญัตติลุกขึ้นทักท้วงที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้อภิปรายถึงการปะทะกันของกลุ่มผู้ก่อกวนขบวนเสด็จกับกลุ่มที่คัดค้านกลุ่มก่อกวน แต่นายปดิพัทธ์ยังใช้ดุลพินิจให้อภิปรายต่อจนเกิดปัญหาและผิดไปจากเจตนารมณ์ผู้เสนอญัตติ ดังนั้นขอถามหาความรับผิดชอบต่อนายปดิพัทธ์ ประธานที่ประชุมขณะนั้น ที่วินิจฉัยทิ้งไว้จนทำให้การประชุมไม่ราบรื่น กระทบภาพลักษณ์สภาฯทำให้เสียหายในสายตาประชาชน และยังทำให้นายชาดากับนายพิเชษฐ์ ต้องออกมาโต้แย้งกันจนเป็นภาพให้สังคมและสื่อโซเชียลถล่ม ทั้งที่ ๒ ท่านต่างมีเจตนาดีต่อกันตลอดมาต้องมาขัดแย้งกันในประเด็นที่ไม่ควรเกิดขึ้น  กรณีนี้นายปดิพัทธ์จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร“เต้ อาชีวะ” ร้องสอบจริยธรรม “โรม”เมื่อเวลา ๑๒.๑๐ น. ที่รัฐสภา ภาคีกลุ่มราชภักดิ์ นำโดยนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ อาชีวะ พร้อมสมาชิกกว่า ๑๐ คน ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เรียกร้องให้มีการเอาผิด และสอบจริยธรรมนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ละเมิดข้อบังคับสภาฯหรือไม่ จากกรณีการนำภาพของกลุ่มตนขึ้นอภิปรายญัตติด่วนมาตรการอารักขาขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. โดยนายอัครวุธ กล่าวว่า ข้อความที่โพสต์วันที่ ๘ ก.พ. ระบุว่าที่จะไปกระทืบกลุ่มทะลุวังหรือปะทะกับกลุ่มทะลุวัง ยอมรับว่าเป็นภาพจริง ยอมรับว่าผิด แต่ถ้าดูคลิปดีๆเป็นคนไปห้าม แต่นายรังสิมันต์กลับเอาภาพของตนมาแขวนในสภาฯ แล้วบอกว่า ชอบใช้ความรุนแรง ยืนยันว่านายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ผิดตรงไหนที่จะถ่ายรูปกับคนมีชื่อเสียง ขอวิงวอน ขอร้องอย่าเล่นประเด็นที่เกี่ยวกับคนอื่น ให้เล่นตนคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว ถ้าตนเป็นผีพวกคุณก็เลี้ยงเปรตไว้เหมือนกัน ฉันใดฉันนั้นอย่าเอาวาทกรรมมาพูดในสภาฯสว.สัมมนาฯ ความสำคัญองค์กรอิสระเมื่อเวลา ๐๘.๐๐ น.ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ คณะ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา (สว.) จัดสัมมนาหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญต่อประเทศและประชาชนอย่างไร” งานเริ่มตั้งแต่ ๐๘.๓๐-๑๖.๐๐ น. มีอดีตตุลาการและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก อาทิ นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ พล.ต.อ.วัรชพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เป็นต้น“จรัญ” เผยเคยถูกขู่หนักหลังสั่งยุบพรรคนายจรัญกล่าวเสวนาตอนหนึ่งว่า ประโยชน์ความสำคัญของศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ คือ เวลาที่มีความขัดแย้งเรื่องใหญ่โดยเฉพาะในทางการเมือง ในทางรัฐธรรมนูญ ช่วงที่ตนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญต้องตัดสินคดีขัดแย้งทางการเมืองที่มีเดิมพันสูงมาก ไม่ใช่ว่าเราอยากจะให้มีเดิมพันเยอะๆ แต่เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ให้ฝ่ายที่แพ้สูญสิ้นเลยนะ ยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิคณะกรรมการของพรรคการเมือง พอคดีมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เราต้องทำตามกฎหมาย ไม่เคยนึกว่ามันจะโอ้โหยิ่งใหญ่ มันจะมีพลังตีกลับมากขนาดนั้น ช่วงนั้นมีคนเชิญไปร่วมงานที่บางจังหวัด ถูกประกาศสาธารณะอย่าไปเด็ดขาด ไม่รับรองความปลอดภัย สะเทือนใจตนมาก ทำไมเขาจึงได้โกรธแค้นชิงชังเราได้ถึงขนาดนั้นลั่นนิติสงครามดีกว่าสงครามกลางเมืองนายจรัญกล่าวว่า นั่นเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องมีระบบงานยุติธรรมทางรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ความขัดแย้งทางการเมืองเคลื่อนตัวกันไปต่อสู้เป็นนิติสงคราม ดีกว่าสงครามกลางเมือง ดีกว่าสงครามที่ปลุกระดม ก่นด่ากันทางสื่อออนไลน์ นั่นอันตราย นั่นคือยาพิษที่ฝังลงไป สงครามสื่อก็อันตรายไม่น้อยกว่าสงครามบนท้องถนน สงครามระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกัน แต่สงครามทางกฎหมายกระบวนการยุติธรรมที่มีกฎหมายวางขั้นตอนเอาไว้ชัดเจน มีบุคลากรจะต้องรับผิดชอบ ทำหน้าที่และในที่สุดก็ให้แพ้ชนะกันในทางคดีแล้วจบ ฝ่ายที่แพ้ก็ให้มีสปิริตเหมือนกับเล่นกีฬาชี้ต้นตอสภาฯ ทาสอำนาจรวมศูนย์นายจรัญกล่าวอีกว่า บางครั้งนักการเมืองผู้ใหญ่ในบางช่วงยังบอกเลย ภาวะเหมือนทำให้ผู้ได้รับการเลือกตั้งตรงจากประชาชนเหมือนเป็นทาส ระบบรัฐสภาถือว่าทรงอำนาจสูงสุดของประชาชนในแผ่นดิน ที่เราจะเอาแบบของสหราชอาณาจักรมา มันไม่จริง กลายเป็นสภาฯทาสอยู่ในกำมือของพรรคการเมือง สส.สมัครอิสระไม่ได้ และ สส.หากแหวกมติพรรคก็ไม่ได้ ไม่ราบรื่น กรรมการบริหาร ผู้ใหญ่คุมพรรค และไปเป็นฝ่ายบริหาร แล้วใครคุมพรรคอีกเบื้องหลัง ระบบรัฐสภาไทย อำนาจรวมศูนย์อยู่กับฝ่ายบริหาร มีองคาพยพข้าราชการประจำเป็นเหมือนกองกำลัง กองทัพ เมื่อฝ่ายบริหารรวมตลอดตั้งแต่ข้างล่างขึ้นไปจนถึงบริหารสูงสุดไม่อยู่ในร่องในรอย ไม่ตรงไปตรงมา ไม่จงรักภักดีต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบบการปกครองของประเทศเรา ใครจะกำกับดูแลได้ ถ้าสมมติระบบนี้ถูกยกเลิกหมด นั่นคือการถอยหลังเข้าคลองกลับไปสู่ยุคก่อน ๒๕๔๐กกต.ขอ ๑.๘ พันล้านเลือก สว.วันเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง สว.ว่า มีการของบ ประมาณไปแล้วประมาณ ๑,๘๐๐ ล้านบาท และเพิ่งมีการจัดประชุมผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และออกระเบียบการเลือก สว.ประกาศราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว และขอให้ทุกภาคส่วนที่เป็นทีม กกต.ศึกษาและเตรียมการทำงานอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่