ระทึก เตาเผายางรถยนต์โรงงานผลิตน้ำมันชีวภาพ อ.ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี รั่วไหลปะทุระเบิดไฟลุกท่วม คนงาน ๔๐ ชีวิตหนีตาย ต้องระดมฉีดน้ำและโฟมดับไฟ ควันไฟลอยไปทั่วบริเวณ เหตุจากเตาหลอมยางชำรุด อุตสาหกรรมสั่งหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวไม่มีกำหนด ป้องกันมลพิษไหลออกไปภายนอกเมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. วันที่ ๑๖ ก.พ. ๖๗ ร.ต.อ.อดิเรก กลางพิมาย รอง สว.สอบสวน สภ.ด่านมะขามเตี้ย รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงงานผลิตน้ำมันชีวภาพ ที่หมู่ ๖ ตำบลกลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย ประสานขอรถดับเพลิงจาก อบต.กลอนโด เทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า ๒๐ คัน เข้าฉีดน้ำควบคุมเพลิง โดยพบว่าต้นเพลิง เกิดจากเตาหลอมยางรถยนต์ภายในโรงงานที่เกิดชำรุดมีรอยรั่ว ทำให้ของเหลวที่อยู่ภายในถังพวยพุ่งออกมา ทำให้อากาศเข้าไปในเตาเผาจนทำให้มีการระเบิดปะทุเปลวเพลิงออกมา พร้อมควันเถ้าถ่านลอยฟุ้งไปทั่วโรงงาน จนมีเขม่าติดไปหมด จนท.ดับเพลิงพยายามฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากยางรถยนต์เก่าที่อยู่ภายในถังหลอมเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ไม่สามารถใช้น้ำดับได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปากแพรก ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า ๓๐ กิโลเมตร ให้ช่วยนำโฟมมาฉีดควบคุมเพลิง เวลาผ่านไปกว่า ๒ ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ ต่อมา นายอนุสรณ์ สง่าแสง นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย นายสุเนตร์ กัญยะมาลา อุตสาหกรรม จ.กาญจนบุรี นายอิสระ ราศีกุล หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม จ.กาญจนบุรี นายคมสันต์ จันทิมาทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ นายอุทัย ขันทอง หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาญจนบุรี มาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบว่าไฟไหม้ในพื้นที่จำกัด ไม่ลุกลามต่อไปส่วนอื่น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดขณะเดียวกัน นายอิสระ ราศีกุล หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นคือเครื่องจักรในระบบ มีเครื่องจักร ๗ เครื่อง มีหนึ่งเครื่องที่มีลักษณะรั่วหน้าเตาทำให้เกิดเปลวไฟรั่วไหลออกมาแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณหน้าเตา ตอนนี้ควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ข้อสั่งการ พระราชบัญญัติโรงงานก็มีการสั่งการให้โรงงานแห่งนี้หยุดประกอบการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบเครื่องจักร และความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคารก่อน การที่อาคารได้รับความร้อนเป็นเวลานาน ก็เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างได้ ต้องให้วิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาตรวจสอบก่อน ถึงจะพิจารณาอนุญาต พร้อมตรวจสอบเครื่องจักรก่อนว่าพร้อมที่จะใช้งาน เพราะฉะนั้นช่วงนี้ทั้ง ๖ เตาที่เหลือให้หยุดไว้ก่อน จะมีการสั่งการและติดตามต่อไป น่าจะเป็นการชำรุดของเครื่องจักร ฝาเตาด้านหน้ารั่วไอน้ำมันออกมา เกิดประกายไฟบริเวณหน้าเตา มูลค่าความเสียหายต้องตรวจสอบ โชคดีที่ไฟไหม้เฉพาะตัวเครื่องจักร ไม่มีลุกลามไปยังวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสถานที่ตั้งโรงงานมิดชิดห่างไกลชุมชน ผลกระทบหรืออะไรต่างๆ ก็ยังไม่มี เนื่องจากเราใช้น้ำดับเพลิงน้ำมีการปนเปื้อนไหลอกมา เราสั่งการให้โรงงานกักเก็บน้ำไว้ไม่ให้ไหลออกจากบริเวณโรงงานเด็ดขาด โรงงานมีพื้นที่มากมีส่วนของบ่อเก็บน้ำอยู่แล้ว ต้องบำบัดกำจัดให้เรียบร้อย ถ้ามีตะกอนก็จะนำไปรีไซเคิลได้ผงคาร์บอน ส่วนสารตัวอื่นต้องบำบัดเสียก่อน ส่วนทางด้าน นายเอกปริญญา เรือนแก้ว ผู้จัดการโรงงานที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานก็ปฏิบัติงานกันอยู่ ก็เห็นมีกลุ่มควันสีขาวลอยออกมาจากท้ายเตา พนักงานก็เตรียมถังดับเพลิงพร้อมดับเพราะคาดการณ์น่าจะเกิดไฟ ก็มีไฟขึ้นมา ก็คิดว่าเราคุมได้พอมีไฟเราก็ใช้น้ำฉีดดับมันยิ่งแรงขึ้น เราต้องอพยพออกมาก่อน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง มีพนักงาน ๔๑ คน ปลอดภัยทุกคน สำหรับโรงงานแห่งนี้ประกอบกิจการนำเอายางรถยนต์เก่า มาผ่านกระบวนการหลอมเพื่อผลิตเป็นน้ำมันชีวภาพ และผงคาร์บอน โดยช่วงเกิดเหตุ มีคนงานกำลังทำงานอยู่กว่า ๔๐ ชีวิต จู่ๆ ถังหลอมถังที่ ๗ ซึ่งอยู่ริมสุดได้เกิดชำรุดและมีเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาจากด้านในถังอย่างรุนแรง ทำให้คนงานที่ทำงานอยู่วิ่งหนีเอาชีวิตรอด ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานรถดับเพลิงเข้ามาช่วยควบคุมเพลิงดังกล่าว เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท
