ชาวบ้านผวาหลังพบเสือยังอยู่ในหมู่บ้าน ยังไม่กล้าออกนอกบ้านเข้าสวนและไร่ ขณะที่ จนท.ยังคงออกติดตามเสือลายพาดกลอน เพื่อผลักดันเข้าป่า หลังพบรอยเท้าขนาดใหญ่ อยู่ตามริมคลองสาธารณะป่าคลองลานใกล้หมู่บ้าน จากกรณีชาวบ้านพบเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่ เดินป้วนเปี้ยนกลางหมู่บ้าน พื้นที่หมู่ที่ ๑๘ บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลานจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ ๑๖ ก.พ. ที่ผ่านมา นั้นล่าสุดเช้าวันนี้ (๑๗ ก.พ. ๖๗) นายสุระชัย โภคะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน และ ด็อกเตอร์อัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สบอ.๑๒ (นครสวรรค์) ทีมเจ้าหน้าที่ WWF กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เป็นองค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ จัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า ๕๐ นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน ผู้นำชุมชน พร้อมด้วยกำลัง อาสาสมัครอำเภอคลองลาน พร้อมเครื่องมือต่างๆ ออกติดตามเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านพบเห็นในพื้นที่ เพื่อผลักดันกลับคืนสู่ป่าใหญ่ จากการตรวจสอบในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรอยเท้าเสือขนาดใหญ่จำนวนมาก ณ บริเวณริมคลองน้ำที่ไกลมาจากน้ำตกคลองลานและในทั่วบริเวณป่ามะขาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเสือเมื่อได้เหยื่อคือหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ได้เดินลัดเลาะไปตามริมคลองสาธารณะกลางหมู่บ้าน นายสุระชัย โภคะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบขนาดของรอยเท้า และร่องรอยระหว่างการเดินสามารถยืนยันได้ว่า เสือธรรมชาติที่ออกมาจากป่า คาดว่าอาศัยอยู่กับแม่เสือที่บริเวณขุนน้ำเย็น เขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีรูปร่างใหญ่ สูงประมาณ ๗๐-๘๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑.๕๐ เมตร จำนวน ๑ ตัว สภาพสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นเสือโคร่งที่ชาวบ้านพบเห็นบริเวณเขตท่องเที่ยวโมโกจูน้อย หลักกิโลเมตร ที่๘๖ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เดินลงมาจากป่าแม่วงก์ ลัดเลาะมาทางหมู่บ้านแม่พืช-แปลงสี่ หมู่ ๘ ผ่านหมู่บ้านเขาน้ำดิบ ลงมาหมู่บ้านกะเหรี่ยงน้ำตก จุดที่พบเห็น สำหรับเสือที่เราพบจากภาพ น่าจะเป็นเสือที่มาจากทางแม่วงก์ เป็นเสือที่เกิดจากแม่เสือธรรมชาติ และน่าจะมีอายุสัก ๒ ปีกว่าๆ คงจะเป็นเสือที่ออกมาจากตัวแม่ของมัน เพื่อมาหาอาณาจักรของมัน อาจจะพลัดหลงมาในเขตพื้นที่ของหมู่บ้าน ซึ่งทางอุทยานกำลังดำเนินการสแกนพื้นที่ เพื่อที่จะดักจับหรืออาจจะใช้ปืนยิงยาสลบ เพื่อจะจับออกไปจากพื้นที่ ตอนนี้เรากำลังให้เจ้าที่สแกนในพื้นที่ดูก่อนพร้อมกับตรวจดูพิกัดว่าอยู่จุดไหนแน่ ตลอดทั้งคืนมีการเฝ้าระวังไม่ให้เสือเข้าไปรบกวนชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยเสือตัวนี้คาดว่าเป็นเสือธรรมชาติ ยังไม่ได้มีการจับใส่ปลอกคอเนื่องจากว่ายังไม่ได้จับมาเพื่อการการวิจัย ส่วนการวางแผนค้นหาร่วมกับทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ อุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้งตรวจสอบข้อมูลในบริเวณที่พบเสือโคร่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชร่วมแผนมาดำเนินการในวันนี้ ด้าน ด็อกเตอร์อัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สบอ.๑๒ (นครสวรรค์) กล่าวว่า จากชาวบ้านได้ยินเสือส่งเสียงเมื่อเดินเข้าไปล่าเหยื่อเป็นหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไปกินเป็นอาหารในบริเวณบ้านริมคลองน้ำป่าริมเขา ห่างจากจุดพบเสือเมื่อคืนที่ผ่านมาบริเวณนี้ไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้วางแผนเข้าตรวจสอบความแน่ชัดว่าเสือจะอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวอยู่หรือไม่ พบเพียงรอยเท้าและร่องรอยอื่นๆ ของเสือก็มี เช่น รอยคุ้ยบนพื้น รอยตะกุยตามพื้นทางเดินลัดเลาะต้นไม้”นิยามที่ถูกต้องที่สุดของเสือโคร่ง ก็คือ “สัตว์อันตรายที่ไม่อันตราย” โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ผู้ปฏิบัติงานในป่า ทั้งผู้ลาดตระเวนเชิงคุณภาพ และนักวิจัย ทุกคนจะรู้จักลึกถึงความเป็นเสือโคร่ง ดังนั้นเขาพร้อมจะเดินเท้าไปในป่าที่มีเสือโคร่งอาศัยอยู่อย่างไม่ต้องหวาดกลัว ไม่ระแวงว่าตัวเองจะตกเป็นเหยื่อเสือ เพราะรู้ดีว่าธรรมชาติเซตโปรแกรมให้เสือ “ไม่กินคน” และเสือ “กลัวคน” แม้ว่า เสือโคร่งมีทักษะการฆ่าเหยื่อที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่กระทิงโทนตัวใหญ่กว่ามันถึง ๕ เท่า ก็ยังพ่ายแพ้ต่อเสือโคร่ง แต่เสือโคร่งไม่สนใจที่จับคนกิน มิหนำซ้ำ ยังพยายามหลบหลีกคนอย่างที่สุดด้วย ในขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนกล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พบเสือออกหากินขณะออกทำโดยชาวบ้านพบเห็นแค่ครึ่งตัวด้านท้าย เต็มตัวบ้าง แต่ยืนยันว่าเป็นเสือจริงๆ เพราะมากินหมูในเล้าไป ๑ ตัว ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตื่นตระหนกหวาดกลัวเป็นจำนวนมาก ไม่กล้าออกไปไหน แต่ก็อุ่นใจที่ทางการไม่ทอดทิ้งจัดกำลังมาเฝ้าดูแลป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่อง
