นิด้าโพล เผยผลสำรวจ ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่าง ส่วนใหญ่มองความขัดแย้งการเมืองทำเศรษฐกิจแย่ลง เชื่อ มีกลุ่มการเมืองเบื้องหลัง และค่อนข้างกังวลว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ความขัดแย้งทางการเมือง โดยทำการสำรวจระหว่าง วันที่ ๑๓-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ จากประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ ๙๗.๐เมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง พบว่า ร้อยละ ๓๘.๙๓ ระบุว่า เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงร้อยละ ๒๐.๐๘ ระบุว่า ความแตกแยกในสังคมร้อยละ ๑๙.๓๙ ระบุว่า ไม่กังวลใดๆ เลยร้อยละ ๑๑.๗๕ ระบุว่า การใช้ความรุนแรงในสังคมร้อยละ ๙.๕๔ ระบุว่า ความไม่มีเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยร้อยละ ๐.๓๑ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจขณะที่ความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองส่วนใหญ่มีนักการเมือง พรรคการเมือง กลุ่มทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง พบว่า ร้อยละ ๔๔.๗๓ ระบุว่า เชื่อมากร้อยละ ๒๗.๑๘ ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อร้อยละ ๑๒.๐๖ ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อร้อยละ ๑๐.๘๔ ระบุว่า ไม่เชื่อเลยร้อยละ ๕.๑๙ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ส่วนความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ พบว่า ร้อยละ ๒๙.๘๕ ระบุว่า ค่อนข้างกังวลร้อยละ ๒๗.๐๒ ระบุว่า ไม่กังวลเลยร้อยละ ๒๒.๗๕ ระบุว่า กังวลมากร้อยละ ๑๙.๖๒ ระบุว่า ไม่ค่อยกังวลร้อยละ ๐.๗๖ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ผลนิด้าโพล คนค่อนข้างกังวลความขัดแย้งรอบใหม่ เชื่อมีกลุ่มการเมืองเบื้องหลัง
Related posts