นายกฯ ร่วมพิธีมอบหนังสืออนุญาตใช้ที่ดินฯ ก่อนชมวิววัดถ้ำผาแด่น หนุนท่องเที่ยวเชิงศาสนา ฝากเรื่องสันติภาพเป็นหน้าที่ทุกคนต้องรักษา ขอช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริ สนับสนุนไก่ดำ-โคขุน ช่วยสร้างรายได้-เพิ่มจีดีพีสกลนครเมื่อเวลา ๑๐.๒๕ น. วันที่ ๑๘ ก.พ. ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. ประจำสำนักนายกฯ, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม เดินทางถึง วัดถ้ำผาแด่น ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร โดยนายกฯ ร่วมพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค และกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดิน และพูดคุยประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนา โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงศาลาอุดมสมบูรณ์ กราบสักการะหลวงพ่ออุดมสมบูณ์ พระประธานองค์ลอยในพระอุโบสถวัดถ้ำผาแดน ก่อนที่นายกฯ จะกราบนมัสการพระครูปลัดอุดมวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแด่น จากนั้นนายกฯ มอบหมายให้ นางพวงเพชร ถวายหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค และกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินให้กับพระสงฆ์ จ.สกลนคร จำนวน ๑๐ วัด จากนั้นนายกฯ เดินไปยังจุดชมวิววัดผาแด่นซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาภูพานพื้นที่ของการสู้รบในอดีต โดยนายกฯ กล่าวว่า เทือกเขาภูพานเมื่อสมัยก่อนเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสันติภาพ มีการสู้รบ มีสงครามคอมมิวนิสต์มาตลอด แต่วันนี้ผ่านไปกว่า ๓๐ ปีแล้ว ซึ่งสันติภาพเป็นเรื่องที่เราอยู่กับมันมา และเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ได้ และทำให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความไม่ปลอดภัย ก็อยากจะฝากไว้ว่าเรื่องสันติภาพ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องรักษาไว้ เพื่อความสมัครสมานสามัคคี ถ้าเราไม่อยากกลับไปสู่จุดนั้นอีก ทั้งนี้วันนี้ที่ นางพวงเพชร มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค และกิจกรรมอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินมอบที่ดินให้กับพระพุทธศาสนาถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะชาวไทยทุกคนมีความเชื่อในพระพุทธศาสนา อยากให้เป็นศูนย์กลางในการหล่อหลอมจิตใจให้มีความรักความสามัคคีกลับมาสู่สันติภาพที่ยังยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องรักษาสันติภาพไว้ ก็ขอพึ่งใบบุญพระพุทธศาสนาในเรื่องนี้ด้วย ต่อมานายกฯ โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า สกลนคร ควรเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาของประเทศไทยเดินทางมา จ.สกลนครครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดด้วยตาตัวเองครับ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงศาสนา เช่น วัดถ้ำภูผาแด่น นี้ที่นี่บรรยากาศดี มองลงไปข้างล่างเห็นวิวเมืองสกลนครที่สวยงาม เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน ทำให้ผู้คนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเดินทางขึ้นมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก นายกฯ ระบุว่า ขอให้จังหวัดสกลนคร กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตนยังคาดหวังให้การยกระดับการท่องเที่ยวเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การทำนุบำรุงศาสนสถาน แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และมีการเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย ต่อมาเวลา ๑๑.๓๐ น. นายกฯ และคณะ เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อาคารสัมมนา ๑ ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร และชมนิทรรศการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้นายกฯ ยังได้ถ่ายภาพกราฟิตี้ หรือภาพขีดเขียนภาพลงบนผนังเป็นที่ระลึก นายกฯ กล่าวระหว่างเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน โดยฝากเครือเซ็นทรัลหากเป็นไปได้ให้นำสินค้าไปต่อยอดนำสินค้าไปวางขายที่ต่างประเทศ อย่ามัวแต่รอขอให้เร่งรีบ เพราะตอนนี้เป็นช่วงของประเทศไทย และประเทศไทยเปิดแล้ว ขอให้ช่วยกันต่อยอดโครงการพระราชดำริ ที่ผลิตโดยพี่น้องประชาชนคนไทยเพื่อเชิดหน้าชูตา ผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมสินค้าการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรในโครงการ โดยเห็นว่าผักเคลที่นำมาแปรรูปมีประโยชน์ เข้ามาเป็น Superfood ที่ฝรั่งชอบมาก รับประทานแล้วมีประโยชน์ น่าจะตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ แต่เบื้องต้นอยากให้นำไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของไทยก่อนอย่างเช่น ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรที่ช่วยกันปลูกผักเคลจากนั้นนายกฯ นั่งรถรางเพื่อมาเป็นประธานการประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของจังหวัดสกลนคร โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากที่ท่านรายงาน ๘๐% ของรายได้มาจากการเกษตร และสกลนครเป็นจังหวัดที่มีจีดีพีต่ำเป็นอันดีบ ๑๕ ของประเทศ ทั้งนี้การเกษตรเป็นเรื่องการบริหารจัดการเรื่องน้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และมากที่สุดคือเรื่องน้ำ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยจะต้องยกระดับศักยภาพระบบชลประทานของ จ.สกลนคร ให้ครอบคลุมทั่วถึง และสามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลเรื่องการบริหารจัดการเพื่อการเกษตร และให้ใช้พื้นที่ อ.หนองหาน ให้เต็มศักยภาพ ให้กรมชลประทานปล่อยน้ำให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี และปรับเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเข้าไปด้วยในเชิงศาสนา เมื่อมีการตกลงเรื่องการคืนพื้นที่แล้ว อย่าให้มีปัญหาเรื่องแนวเขต โดยขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการก่อสร้างถนนทางหลวงหมาย ๒๒ ให้เสร็จ และควบคุมการก่อสร้างเกิดความปลอดภัยให้กับประชาชน เนื่องจากมีความสำคัญในการเชื่อมโยงขนส่งระหว่างสะพานมิตรภาพที่จะเปิดขึ้นในปีนี้ ที่จังหวัดบึงกาฬไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของโคขุน ซึ่งมีการพูดคุยกันเยอะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะตลาดโลกมีความต้องการมาก โดยเฉพาะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในอดีตเรามีปัญหาว่าโคที่เราส่งไปขายที่เมืองจีนต้องไปพัก ตรวจโรคที่ประเทศลาว ซึ่งขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้มีการเจรจา และสามารถสร้างด่านกักกันที่นี่ ได้ตรวจและส่งจากที่นี่ไปได้ ทำให้การส่งออกไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปได้ แต่ตนไม่อยากให้ดูแค่จีนอย่างเดียว ทั้งนี้โรงเชือดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ จ.ชุมพรประมาณ ๒๐๐ ตัวต่อวัน ซึ่งได้มีการทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมพัฒนาให้มีการเชือดได้วันละ ๑,๐๐๐ ตัว ซึ่งการส่งไปขายเป็นตัวได้มูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยตนดูโครงการพระราชดำริแล้วมีความเชื่อในความสามารถของเกษตรกรไทยที่สามารถเลี้ยงวัวได้ และมีคุณภาพเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่นนายกฯ กล่าวอีกว่า การยกระดับจีดีพีของจังหวัดสกลนครไม่เพียงแต่โครงการพระราชดำริเรื่องของไก่ดำ ซึ่งตัวหนึ่งมีราคามากกว่าไก่ธรรมดา และมีความเชื่อว่าบำรุงสุขภาพได้ดี มีตลาดเยอะ จึงขอขอบคุณโครงการพระราชดำริที่ช่วยเป็นแหล่งเพาะบ่มความรู้ และขยายให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแพะและกระต่ายอีก ตรงนี้หวังว่าจะมีการต่อยอดได้อีกมากมายสุดท้ายนี้ จ.สกลนคร มีผลิตภัณฑ์ที่ดีมากจากครามไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากการเกษตร ซึ่งเราเอง ภาคประชาชน หรือเกษตรกรยังไม่สามารถทำได้คนเดียว ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยเอกชนหลายรายมีความแข็งแกร่งมากอย่างเช่นเซ็นทรัลกรุ๊ปเป็นเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก ตนถือโอกาสขอร้องทางเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงที่มาในวันนี้ว่าถ้าเกิดเป็นไปได้อยากให้ช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวสกลนครด้วย นำสินค้าต่างๆ ไปขายในท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต และหาช่องทางไปขายที่ต่างประเทศ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่น้องชาวเกษตรกร และเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยด้วย.
“เศรษฐา” ฝากเรื่องสันติภาพคนสกลนคร บอกเป็นหน้าที่ทุกคนต้องรักษา
Related posts