Thursday, 19 December 2024

จิ้งหรีดชอบร้อนโตเร็ว ช่องทำเงินฝ่าวิกฤติแล้ง

19 Feb 2024
236

ปัจจุบันจิ้งหรีดนับเป็นแมลงเศรษฐกิจที่มาแรงในตลาดโลก ผู้คนนิยมบริโภคจิ้งหรีดเป็นอาหารมากขึ้น เพราะมีโปรตีนสูง ปลอดสารพิษ ตลอดจนได้รับการยอมรับให้เป็นแหล่งอาหารอนาคต (Future Food) ของตลาดทั้งในและต่างประเทศกรมส่งเสริมการเกษตรได้เริ่มดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งหรีดในรูปแบบฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒ จนเกิดเป็นอาชีพที่เสริมสร้างรายได้ให้แก่ครัว เรือนเกษตรกรและได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากใช้พื้นที่ใน การเลี้ยงน้อยไม่ต้องการน้ำมาก และไม่ต้องใช้แรงงานนอกครัวเรือน เด็กและผู้สูงอายุก็สามารถเลี้ยงจิ้งหรีดได้ จากประสบการเลี้ยงที่สั่งสมมานานทำให้ปัจจุบันจิ้งหรีดจากประเทศไทยมีคุณภาพ เป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน GAP ฟาร์มจิ้งหรีดสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตอบรับกระแสของโลกที่ต้องการหาอาหารโปรตีนทางเลือกใหม่ ตลอดจนความมั่นคงทางอาหารที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงถือเป็นโอกาสสร้างรายได้ของเกษตรกรไทยได้เป็นอย่างดี“แม้จิ้งหรีดจะสามารถเลี้ยงได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่จิ้งหรีดเจริญเติบโตได้ดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่จิ้งหรีดจะกินอาหารตลอดเวลาทำให้โตไวกว่าช่วงฤดูอื่น ตลอดจนแม่พันธุ์จิ้งหรีดวางไข่ได้ดี และไข่จิ้งหรีดมีการฟักเป็นตัวอ่อนได้ค่อนข้างเร็วอีกด้วย” นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ให้คำแนะนำในการเลี้ยงจิ้งหรีดในช่วงร้อนแล้ง…สิ่งที่เกษตรกรต้องพึงระวัง๑.ควรจัดที่หลบซ่อนของจิ้งหรีดภายในกล่องเลี้ยงให้มีมากพอและจัดให้โปร่ง เพื่อให้ภายในกล่องเลี้ยงมีการถ่ายเทอากาศได้ดี หากอากาศร้อนมากควรมีการฉีดพ่นน้ำเป็นระยะๆเพื่อระบายความร้อน๒.ควรเปลี่ยนน้ำในถาดที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีดทุกวัน โดยอาจนำวัสดุที่ดูดซับน้ำได้ใส่ในถาดน้ำด้วยเพื่อให้น้ำระเหยช้าลง และเก็บมูลจิ้งหรีดเดือนละสองครั้ง๓.อาหารที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีด ถ้าเป็นอาหารสำเร็จรูปต้องไม่เสื่อมคุณภาพ ถ้าเป็นพืชผัก เช่น ฟักทอง หรือผักพื้นบ้านอื่นๆ ต้องปลอดภัยจากสารเคมี เนื่องจากจิ้งหรีดจะมีความรู้สึกไวต่อสารเคมี หากกินอาหารที่มีสารเคมีปะปนจะทำให้จิ้งหรีดตายได้๔.หากพบว่าจิ้งหรีดตายต้องสังเกตว่าซากจิ้งหรีดมีกลิ่นเหม็นหรือไม่ ถ้ามีกลิ่นเหม็นแสดงว่าจิ้งหรีดตายเนื่องจากติดเชื้อจุลินทรีย์แบคทีเรีย หรือไวรัส เช่น โรคท้องบวม เป็นต้น ต้องทำลายซากจิ้งหรีดที่เป็นโรคโดยการฝังใต้ระดับผิวดินไม่ต่ำกว่า ๒๐ เซนติเมตร เพื่อป้องกันสัตว์อื่นมาขุดคุ้ย แล้วราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือปูนขาว หรือเผาทำลายซาก ตลอดจนทำความสะอาดอุปกรณ์การเลี้ยงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และพักการเลี้ยง ๑๔-๒๑ วัน ก่อนการเลี้ยงจิ้งหรีดชุดใหม่. ชาติชาย ศิริพัฒน์คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม