ตั้งแต่ผมเขียนเรื่อง “คนไทยจ่ายพันล้านชมคอนเสิร์ต” ( ๒ คอนเสิร์ต ๔ รอบ) เพื่อชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้วิกฤติ กำลังซื้อยังมี หวังให้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ไปคิดแก้ปัญหาให้ถูกจุด แทนที่จะกู้เงิน ๕ แสนล้านบาทแจกทุกคน นายกฯเศรษฐา ได้โพสต์ลง x ตอบโต้ข้อเขียนผม ผมก็ตอบนายกฯเศรษฐาไปแล้ว สัปดาห์ก่อน นายกฯเศรษฐา ไปพูดในงานสัมมนาว่า การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หนึ่งในเรื่องที่จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้ คือการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินดังระดับโลก อย่างที่ผมได้เขียนแนะนำไปนั่นแหละวันนี้ นายกฯเศรษฐา คงรู้แล้วว่า การจัดคอนเสิร์ตของศิลปินดัง สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีสตังค์ได้จริง ตัวเลขที่ผมนำมาจากการขายตั๋วคอนเสิร์ตยืนยันนายกฯเศรษฐา กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยมีคอนเสิร์ตที่ได้รับความนิยม ทั้ง Coldplay และ Ed Sheeran ซึ่งมีประมาณ ๗๐% ของผู้ชมการแสดงเป็นนักท่องเที่ยวที่บินเข้ามาชมคอนเสิร์ต โดยเฉพาะ (อย่างที่ผมเขียนไปอีกนั่นแหละ) อย่างไรก็ตามยังมีศิลปินระดับโลกที่ยังไม่ได้จัดคอนเสิร์ตที่ไทย แต่ไปจัดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น Taylor Swift หรือ Beyonce’ ตนได้เชิญผู้จัดคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาพูดคุยถึงสาเหตุที่ไม่ได้จัดคอนเสิร์ตในประเทศไทย ทางผู้จัดระบุว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ จัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ทั้งหมด ๕ รอบ รัฐบาลสิงคโปร์ให้การสนับสนุนรอบการแสดงละประมาณ ๒-๓ ล้านเหรียญ หรือประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท จัด ๕ รอบก็สนับสนุนทั้งหมด ๕๐๐ ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขว่า ห้ามจัดการแสดงที่ประเทศอื่นในเอเชียนายกฯเศรษฐา กล่าวว่า เงิน ๕๐๐ ล้านบาทเล็กน้อยมาก ถ้ารู้แบบนี้ดึงมาประเทศไทยได้กว่า ๒ ล้านเหรียญต่อโชว์ มั่นใจว่าสามารถดึงดูดสปอนเซอร์และดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่ไทยได้มากกว่า ถึงแม้จะต้องสนับสนุน ๕๐๐ ล้านบาทสำหรับ ๕ โชว์ก็ตาม เชื่อว่าวงการโรงแรม วงการท่องเที่ยว หมูปิ้งข้างถนน จะได้ประโยชน์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม เพราะเรื่องนี้ต้องจองล่วงหน้า แต่เชื่อว่าประเทศไทยมีศักดิ์ศรี มีเสน่ห์มากที่จะทำเรื่องนี้ได้ ฟังแล้วก็งงนายกฯเศรษฐา คงไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม Taylor Swift จึงไม่มาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ผมจะเล่าให้ฟัง ความจริง Taylor Swift เคยมีกำหนดการมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ ที่อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี จัดโดยบีอีซี-เทโร บัตรคอนเสิร์ตก็ขายหมด แต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ผู้บัญชาการทหารบกขณะนั้น ได้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นายกฯเศรษฐา น่าจะจำได้ ทำให้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ตัดสินใจยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยทันที และไปเพิ่มรอบที่ สิงคโปร์ แทนเทย์เลอร์ สวิฟต์ ทวีตถึงแฟนเพลงชาวไทยว่า “ขอส่งความรักถึงแฟนเพลงในเมืองไทย เสียใจจริงๆที่คอนเสิร์ตได้ถูกยกเลิกไปแล้ว” เป็นการยกเลิกคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอเหตุผลที่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ตที่เมืองไทย แฟนคลับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะรู้ดีว่า เธอเป็นคนรักประชาธิปไตยมาก และไม่สนับสนุนการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อเมืองไทยมีการปฏิวัติรัฐประหาร เธอก็ยกเลิกคอนเสิร์ตทันที และไปเพิ่มรอบที่สิงคโปร์ แต่เธอก็ยังเปิดโอกาสให้แฟนเพลงชาวไทยได้สิทธิ์จองก่อน ๑ พันที่นั่งคอนเสิร์ต Eras Tour ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ปีที่แล้ว ทำรายได้กว่า ๑ พันล้านเหรียญ กว่า ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท ขายตั๋วไปกว่า ๔.๓๕ ล้านใบ จากการแสดง ๖๐ รอบ เดือนมีนาคมนี้เธอจะไปแสดงที่สิงคโปร์ ๖ รอบ วันที่ ๒-๓-๔ และ ๗-๘-๙ มีนาคม ขายตั๋วรอบละ ๕๕,๐๐๐ ที่นั่ง ๖ รอบก็ ๓๓๐,๐๐๐ ที่นั่ง ราคาตั๋วต่ำสุด ๗-๘ พันบาท สูงสุดกว่า ๒๔,๐๐๐ บาท เห็นแล้วก็อิจฉาก็เก็บมาเล่าสู่กันฟัง เสียดายโอกาสของประเทศไทยครับ เพียง Coldplay และ Ed Sheeran สองคอนเสิร์ต ก็ทำเงินสะพัดในเมืองไทย ๔-๕ พันล้านบาทแล้ว.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม
