หลังต้องพลัดพรากจากบ้านไป ๑๗ ปี อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ได้กลับสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ท่ามกลางลูกหลานอย่างชื่นมื่นจากนี้ไป “อดีตนายกฯทักษิณ” ไม่ต้องระเหเร่ร่อนไปทั่วโลกให้เมื่อยตุ้มข้อสำคัญ การได้พักโทษโดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียวมี “ทักษิณ” คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้คำถามคือ หลัง “ทักษิณ” กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าจะเกิดอะไรตามมาบ้าง??“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าคนที่ผ่านหนักผ่านเบามาจนนับไม่ถ้วน ย่อมรู้ว่าจะวางบทบาทตัวเองอย่างไร ไม่ให้เป็นเงื่อนไขให้เกิดวุ่นวายขายปลาช่อนฉะนั้น ในช่วงที่ยังเหลือเวลาพักโทษอีก ๖ เดือน อดีตนายกฯ ทักษิณจะทำตัวเป็นเสือเฝ้าถ้ำไม่ออกแอ็กชัน ไม่เคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น!!เพื่อให้ศูนย์กลางอำนาจยังรวมศูนย์ที่ทำเนียบ ไม่ย้ายไปอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อให้นายเศรษฐา ทวีสิน โชว์บทบาทนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่โดยไม่มี “ซุปเปอร์นายกฯ” บัญชาการหลังฉากให้เป็นขี้ปากชาวบ้านและเพื่อไม่ให้การกลับบ้านของอดีตนายกฯทักษิณ ไปเซาะกร่อนเก้าอี้นายกฯเศรษฐาอย่างที่ลือกันให้แซ่ดแต่หลังจากพ้นช่วงพักโทษอีก ๖ เดือนข้างหน้า…จะให้ “ทักษิณ” อยู่นิ่งเป็นก้อนดินคงเป็นไปไม่ได้แม้จะโดนกำจัดหลุดจากอำนาจไป ๑๗ ปีแต่ธาตุไฟในตัว “ทักษิณ” ยังไม่ดับง่ายๆถึงตอนนั้น “ทักษิณ” จะเคลื่อนไหวอย่างไร??ยังมีอีกหลายบทบาทให้เลือกเล่น“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าเมื่อถึงจังหวะเหมาะสม “อดีตนายกฯทักษิณ” จะเริ่มกลับสู่วงโคจรแน่ๆเพราะดีลสำคัญที่ตกลงกันไว้ ต้องการให้ “ทักษิณ” เป็นด่านสกัดพรรคก้าวไกลไม่ให้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าดังนั้น การปล่อยพญาเสือเจ้าป่ากลับบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่อมสะเทือนการเมืองแน่!!แต่แรงสั่นสะเทือนไม่หนักอย่างที่คาด“แม่ลูกจันทร์” วัดระดับความสั่นสะเทือนหลังทักษิณได้พักโทษกลับบ้านเพียง ๔.๕ ริกเตอร์ถือเป็นระดับความสั่นสะเทือนที่เบาบางมากแถมแรงสั่นสะเทือนเกิดเป็นหย่อมๆ แต่ไม่กระจายเป็นวงกว้างแนวโน้มจะเกิดสึนามิทางการเมืองจึงไม่มีทางเกิดขึ้นอนึ่ง หลังจาก “ทักษิณ” กลับบ้านผ่านไป ๒๔ ชั่วโมงก็ยังไม่มีอาฟเตอร์ช็อกอะไรทั้งสิ้น!!เพราะตราบใดที่กลุ่มอำนาจเก่ายังกลัวพรรคก้าวไกล จะพลิกขั้วเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งพรรคขั้วรัฐบาลทุกพรรคจำเป็นต้องล็อกคอกันไว้ให้แน่นเพื่อยืดเวลาเป็นรัฐบาลให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้สรุปว่าความกลัวพรรคก้าวไกลเป็น “ใบเบิกทาง” ให้ “ทักษิณ” กลับบ้านอย่างเท่ๆเนี่ย…มันเป็นยังงี้ซะด้วย.“แม่ลูกจันทร์” คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
Related posts