“จิรพงษ์” อดีต สส.เพื่อไทย ชม “สุริยะ” เสนอโครงการคมนาคมเข้าคณะอนุงบประมาณตามที่หาเสียงไว้ ชี้โครงการรถไฟความเร็วสูง มีประโยชน์ทุกด้าน “เดินทาง-ขนส่ง-เกษตร” พร้อมขอบคุณเดินหน้านโยบาย “รถไฟฟ้า ๒๐ บาท ตลอดสาย” จี้แก้ปัญหาค่าเวนคืน “ร้อยเอ็ด-เชียงราย-นครราชสีมา” ล้าช้า เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์๖๗ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านแผนงานบูรณาการ พิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๒๕๖๗ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้เห็นงบประมาณของกระทรวงคมมนาคม ที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผลักดันโครงการต่างๆตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ในร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๒๕๖๗ โดยเฉพาะการขนส่งทางราง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ นายเศษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ภายใต้สโลแกน “คมนาคมพลิกโฉมระบบคมนาคมทั่วประเทศ” นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า คำขอที่เข้ามาในชั้นคณะอนุกรรมมาธิการ ด้านแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ๒๕๖๗ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๘,๗๒๐ ล้านบาท ซึ่งมีโครงการที่สำคัญ จำนวน ๔ โครงการ คือ ๑.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ๒.โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ๓.โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และ ๔.โครงการร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพ-หนองคาย (ระยะที่๑ ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา)”ถ้าโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นการเร่งการเชื่อมโยงรถไฟโดยสาร และการขนสินค้าจากภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดชายขอบที่ติดกับประเทศลาว เข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ การเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง จะขจัดปัญหาคอขวดในการกระจายสินค้าเกษตรตลอดโซ่อุปทาน สร้าง Ecosytem ยกระดับไทยเป็น Logistics Hup ของเอเซีย” นายจิรพงษ์ กล่าวนายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี ๒๕๖๖ ยังมีอุปสรรคทำให้เกิดความล่าช้า โดยเฉพาะส่วนของค่าเวนคืนใน จ.ร้อยเอ็ด จ.เชียงราย และ จ.นครราชสีมา จึงเสนอแนะให้เร่งรัดเพื่อนำเงินค่าเวนคืนถึงมือประชาชนที่ถูกเวนคืนโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในจังหวัดดังกล่าว นอกจากนี้ ตนขอขอบ คุณนายสุริยะ ที่ทำตามสัญญาในนโยบาย “รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย” ที่เริ่มไปแล้วในส่วนของสายสีม่วง ซึ่งโครงการนี้ประชาชนใน จ.นนทบุรี ได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ในสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง และคาดหวังว่าจะเป็นโครงการต่อเนื่องในระยะยาว
