“แม่ทัพดุลย์” ห่วงภัยคุกคาม ปชช. ย้ำ ผู้ว่าฯ กอ.รมน. ๒๐ จังหวัดอีสาน แก้ยาเสพติดทะลักเข้าประเทศ โฟกัสป้องกันชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน สั่งการพื้นที่ต้อง “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” โดยเฉพาะภัยแล้งทุกจังหวัดยังรับมือไหว พร้อมเตรียมความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวอีสานเมื่อวันที่ ๒๐ ก.พ. ๖๗ ที่ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ ประจำปี ๒๕๖๗ ครั้งที่ ๑ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปสู่การ “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ” ต่อการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ ให้มีความประสานสอดคล้องและสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน นำไปสู่การปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากพื้นที่ ๒๐ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วม พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ปัญหายาเสพติด, ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง, ฝุ่นมลพิษ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพราะถือเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประชาชนในภาพรวม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบรรเทาสาธารณภัย , การพัฒนามวลชน, การพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม, การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง และการค้ามนุษย์ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการและประสานความมั่นคงร่วมทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากภัยคุกคามในพื้นที่ จึงต้องเร่งขับเคลื่อนงานแก้ไขและบรรเทาเหตุการณ์ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งปัญหายาเสพติด และการแก้ไขปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนในขณะนี้ที่ต้องร่วมมือกันปฏิบัติการแก้ไขปัญหา และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน โดยเรื่องปัญหายาเสพติด มีพื้นที่เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาอยู่หลายพื้นที่ แต่ที่เห็นชัดเจนที่สุด คือ ๔ อำเภอ ใน จ.นครพนม ได้แก่ อ.ท่าอุเทน อ.บ้านแพง อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม เพราะเป็นพื้นที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลจึงมอบหมายให้กองทัพภาคที่ ๒ บูรณาการนำร่องแก้ไขปัญหาเชิงรุกไปที่ ๔ อำเภอนี้ก่อน เพราะมองว่าเป็นทิศทางนำยาเสพติดเข้าประเทศไทยอย่างชัดเจน จึงนำร่อง ๔ อำเภอให้เป็นต้นแบบการป้องกันแก้ไขปัญหา เพื่อขยายผลนำไปใช้ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศต่อไป ส่วนปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ วันนี้ตัวแทนจาก ๒๐ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละพื้นที่มาพูดคุย จะได้รับรู้รับทราบสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมในแต่ละระยะ โดยระยะยาวจะเป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้งอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือผลักดันโครงการฯ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาล “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” ส่วนระยะสั้นหรือระยะเร่งด่วนนี้ ทางกองทัพภาคที่ ๒ จะมีศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกฯ อยู่ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ซึ่งจะเป็นเครื่องมือหลักขับเคลื่อนช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกัน แต่ละจังหวัดจะมีศูนย์บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ ๒ พร้อมจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือหากจังหวัดร้องขอเข้ามา เพราะทางกองทัพฯ มียุทโธปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือได้ทันที อาทิ ชุดขุดเจาะน้ำบาดาล รถบรรทุกน้ำ รถผลิตประปาเคลื่อนที่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการร้องขอเข้ามา ทางจังหวัดยังคงสามารถรับมือได้ตามขีดความสามารถ ซึ่งวันนี้จะได้พูดคุยหารือกับทั้ง ๒๐ จังหวัด หาแนวทางป้องกันและเตรียมการช่วยเหลือประชาชนหากเกิดวิกฤติภัยแล้งขึ้น.
