สหรัฐฯโยนความผิดเพื่อใช้สร้างเงื่อนไขให้กับประเทศอื่น จนการค้าระหว่างประเทศสะดุด โดยใช้คำว่า ‘สันนิษฐานล่วงหน้า’ ทันทีที่ทราบว่าเขตปกครองตนเองซินเจียงมีทรัพยากรมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันและแร่ธาตุ แถมยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมจีนเข้าไปสู่เอเชียกลาง สหรัฐฯก็เริ่มสอดส่ายสายตาหาข้อบกพร่องที่จะเริ่มแยกซินเจียงอุยกูร์ออกจากจีน สหรัฐฯพบว่าคนในซินเจียงส่วนใหญ่เป็นชาวอุยกูร์ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็ใช้จุดนี้มาโจมตีรัฐบาลจีนสหรัฐฯมีปัญหากับโลกอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นที่ซีเรีย อิรัก อิหร่าน อัฟกานิสถาน และแทรกแซงประเทศที่ผู้คนนับถือศาสนาอิสลามทุกแห่ง ที่อื่นสหรัฐฯอยู่คนละฝั่งกับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เหมือนกับว่าสหรัฐฯเป็นหัวหน้าของพวกตะวันตกที่ทำสงครามครูเสดยุคใหม่กับพวกอาหรับและตะวันออกกลางเผ่าพันธุ์อื่น (เช่น เปอร์เซีย) แต่พอจะเล่นงานจีน สหรัฐฯก็ใช้อุยกูร์ที่เป็นคนสัญชาติจีนนับถือศาสนาอิสลามมาเป็นเครื่องมือสร้าง ‘สตอรี’ ได้แล้ว สหรัฐฯก็สร้างเครื่องมือเพื่อใช้เล่นงาน ในกรณีของจีน สภาคองเกรสสหรัฐฯผ่านร่างพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายสมบูรณ์ โดยเรียกว่าพระราชบัญญัติป้องกันแรงงานบังคับอุยกูร์ (UFLPA) ค.ศ.๒๐๒๑ ก่อนผ่านร่างฯ สมาชิกสภาคองเกรสอภิปรายกันว่า ‘สันนิษฐานล่วงหน้าได้ว่า’ ที่เขตปกครองตนเองซินเจียง ‘อาจจะ’ มีการผลิตโดยใช้แรงงานบังคับสหรัฐฯนำ UFLPA มาใช้บีบจีนและผู้ผลิตจากประเทศอื่นเพื่อไม่ให้ประเทศอื่นๆ คบค้าสมาคมกับจีน โฟล์กสวาเกนไปตั้งโรงงานในอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง ผลิตชิ้นส่วนบางตัวที่ใช้ในรถโฟล์ก เมื่อโฟล์กสวาเกนส่งรถยนต์หลายพันคันเข้าไปสหรัฐฯ ก็ถูกอายัด โดยอ้างพระราชบัญญัติป้องกันแรงงานบังคับอุยกูร์ ศุลกากรสหรัฐฯเองก็ไม่ทราบว่าชิ้นส่วนไหนมีการบังคับใช้แรงงาน เพียงแต่ใช้คำว่า ‘สงสัย’ มาใช้เป็นเงื่อนไข ในการอายัดข้อหา ‘สงสัย’ หรือ ‘อาจจะ’ ละเมิด UFLPA สร้างความตึงเครียดให้กับผู้ผลิต เป็นการบังคับทางอ้อมให้ผู้ผลิตถอนการลงทุนจากแผ่นดินจีนไปอยู่ในประเทศอื่น สมัยก่อนสหรัฐฯเกเรอย่างนี้ได้โดยไม่มีใครมาคาน แต่เหตุการณ์ในปัจจุบัน มีหลายประเทศที่เศรษฐกิจเข้มแข็ง แม้โดนสหรัฐฯแกล้งก็ไม่ล้มง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนจีน รัสเซีย และอีกหลายประเทศไม่หงอให้สหรัฐฯเหมือนเมื่อก่อน เอ็งแกล้งมา ข้าก็แกล้งกลับ มีบริษัทสหรัฐฯจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปทำมาหากินในจีน เอาที่เห็นได้ง่ายสุดเลยครับ อย่างสตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ เคเอฟซี และอีกมากมายหลายแบรนด์ ถ้าจีนแกล้งกลับบ้าง บริษัทสหรัฐฯพวกนี้ก็น่าจะกระอักเลือดเหมือนกันคอหอยลูกกระเดือกของสหรัฐฯคือสหภาพยุโรป (อียู) ตอนนี้อียูก็ทำตามสหรัฐฯ คือพยายามแซงก์ชันสินค้าจีน แต่ไม่ใช่ข้อหาเรื่องแรงงานบังคับแบบเดียวกับที่สหรัฐฯเล่นงานจีน ยุโรปกำลังจะแซงก์ชันบริษัทจีนเรื่องที่จีนส่งสินค้าไปขายที่รัสเซีย และสินค้าบางอย่างที่ส่งไปขายนั้นอาจจะถูกนำไปใช้ในการทหารได้๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ สหรัฐฯสั่งให้อังกฤษและสหภาพยุโรปมาประชุมกับตนที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม หารือเรื่องมาตรการแซงก์ชันจีน มีแนวโน้มว่ามาตรการแซงก์ชันบริษัทจีนลอตใหม่จะถูกประกาศในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ พอเรื่องนี้ประกาศออกไป บรรดาคอลัมนิสต์คนดังๆของจีนก็ออกมาเขียนวิเคราะห์กันมากมาย ทุกคนไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯ อังกฤษ และยุโรปจะห้ามไม่ให้มีการคบค้าสมาคมระหว่างประเทศต่างๆสหรัฐฯและพวกขีดเส้นให้ประเทศอื่นเดินตามที่ตัวเองกำหนด ห้ามสร้างทางเดินของตนเอง เหมือนกับว่าใครจะคบกับใคร ต้องให้รับการอนุมัติเห็นชอบจากสหรัฐฯและพวกเสียก่อน เรื่องอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ยิ่งแกล้งชาวบ้าน ก็จะยิ่งโดนแกล้งกลับ ทุกครั้งที่โดนแกล้งกลับก็แหกปากร้องโวยวายลั่นโลก ว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม เป็นผู้ถูกกระทำแต่ตอนที่สหรัฐฯทำชาวบ้าน กลับไม่คิด.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม
