เลขาฯ ส.ป.ก. เด้ง ส.ป.ก.โคราช พร้อม จนท. รวม ๖ นาย เข้ากรุ เพื่อมาปฏิบัติราชการที่ ส.ป.ก.ส่วนกลางชั่วคราว พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมมอบให้ กรมแผนที่ทหาร ตรวจสอบแนวเขต คาด ๒ สัปดาห์รู้ผล ยัน ส.ป.ก.ไม่ส่งเสริมการทำลายป่าอย่างแน่นอนเมื่อวันที่ ๒๐ ก.พ. ๖๗ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งให้นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสาร ส.ป.ก. ๔-๐๑ ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา รวม ๖ คน มาปฏิบัติราชการ ส.ป.ก.ส่วนกลาง เนื่องจากขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อสั่งการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้กรมแผนที่ทหารได้เข้าไปตรวจสอบแนวเขตเพื่อให้ทราบชัดเจนว่า ที่ดินบริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ ๑๐ อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินหรืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกรมแผนที่ทหารแจ้งว่า จะใช้เวลาประมาณ ๒ สัปดาห์ สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมี นายประพันธ์ คำบาง ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. เป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจาก สำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน สำนักกฎหมาย และสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน เลขาฯ ส.ป.ก. กล่าวว่า การให้มาช่วยราชการที่ ส.ป.ก.ส่วนกลาง ไม่ใช่การเด้ง หรือการย้าย โดยเป็นระเบียบปกติ ให้ปฏิบัติราชการที่ ส.ป.ก.ส่วนกลางชั่วคราว และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้แต่งตั้งรักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาแล้ว หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. กระทำผิดหรือบกพร่อง ต้องดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย แต่หากเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ต้องให้ความยุติธรรม พร้อมกันนี้ได้ส่งหนังสือถึง ผู้ว่าฯ นครราชสีมาให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมายุติการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ที่ยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องแนวเขตจนกว่ากรมแผนที่ทหารจะตรวจสอบแล้วเสร็จ โดยต้องไม่ไปปักหมุดและชะลอการออกเอกสาร ส.ป.ก. ๔-๐๑เลขาฯ ส.ป.ก. ระบุว่า การสำรวจเพื่อปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการแล้วเกือบทุกพื้นที่ ยกเว้นโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เนื่องจากมีความซับซ้อนเกี่ยวกับระเบียบและกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน หากดำเนินการเสร็จสมบูรณ์จะลดปัญหาการบริหารจัดการระหว่างหน่วยงานได้ และหากผลปรากฏว่า พื้นที่ที่มีปัญหาขณะนี้ เป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะส่งคืน แต่หากเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. จะพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมของการอนุญาตให้เกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์อีกครั้งซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า ให้คำนึงถึงสภาพพื้นที่ว่า เหมาะสมจะออกเอกสาร ส.ป.ก. ๔-๐๑ หรือไม่ ถ้ามีสภาพเป็นป่าอาจใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นที่เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามที่ ส.ป.ก.เคยดำเนินการมาต่อเนื่องหลายปี “ยืนยันว่า ส.ป.ก.ไม่ส่งเสริมการทำลายป่าอย่างแน่นอน ตรงกันข้ามกลับส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น โครงการวนเกษตร ส่วนการเปลี่ยนแปลงจากเอกสาร ส.ป.ก. ๔-๐๑ เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร มีข้อกำหนดต้องปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ ไร่ละไม่น้อยกว่า ๑๐ ต้นซึ่งกรมป่าไม้สนับสนุนกล้าไม้ให้แก่เกษตรกรผ่านศูนย์เพาะชำกล้าไม้ โดย ส.ป.ก. ปลูกป่าเพิ่มขึ้นมากกว่า ๔๕,๐๐๐ ไร่ต่อปี” เลขาฯ ส.ป.ก.กล่าวด้าน นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ ๑๙ ก.พ. ที่ผ่านมา นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาฯ ส.ป.ก. ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด สั่งให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ๖ คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทันที และให้มารายงานตัวที่ส่วนกลาง เพื่อให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างโปร่งใส โดยคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้น มีกรอบระยะเวลาดำเนินการ ๓๐ วัน หากพบว่ามีการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับชาวบ้านหรือนายทุน ไม่เป็นไปตามระเบียบ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที และจะดำเนินคดีตามมาตรา ๑๕๗ อย่างเด็ดขาด ยืนยันเรื่องนี้เอาจริง ไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน.
เลขาฯ ส.ป.ก. เด้ง ๖ ส.ป.ก.โคราช ตั้ง กก.สอบ มอบกรมแผนที่ทหารสำรวจแนวเขต
Related posts