เป็นธรรมดาที่จะเกิดความสงสัยกันไปต่างๆนานา หลังจากเดินทางกลับประเทศไทยไปจนถึงการ “พักโทษ” จากชั้น ๑๔ ไปสู่จันทร์ส่องหล้าเนื่องจากเกิดภาพมัวๆ ในประเด็นที่ไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่คืนเดียวคือ เวลา ๖ เดือน ไปนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจประเด็นแรกจะเกิดคำถามว่า “ป่วย” จริงหรือเปล่า ทำไมรักษาตัวนานเช่นนั้น เป็นอะไรหรือ แล้วมาลงที่คำถามว่า “อภิสิทธิ์ชน” หรือเปล่าแบบนี้จะไปห้ามปรามไม่ให้คิด ไม่ให้สงสัยคงเป็นไปไม่ได้แม้จะได้อิสรภาพแล้ว แต่เนื่องจากยังมีคดีติดตัวอีก ๑ คดี คือการถูกกล่าวหาในคดี ม.๑๑๒ จึงต้องไปพบอัยการเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ปรากฏว่าอัยการได้แจ้งว่า จะต้องดำเนินการพิจารณาที่ได้ร้องขอความเป็นธรรมและนัดหมาย ๑๐ เมษายน๖๗ มาฟังว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง หากไม่สั่งฟ้องก็จบ แต่ถ้าสั่งฟ้องก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายต่อไปมีอยู่ประเด็นหนึ่งที่ “ปรีชา สุขสงวน” อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ได้เปิดเผยว่า “ทักษิณ” มีอาการป่วยขั้นวิกฤติ เพราะต้องนั่งรถวีลแชร์เพราะเดินไม่ไหว พูดไม่ค่อยมีเสียงดูท่าทางมีอาการป่วยหนักตรงนี้ก็ได้คำตอบหนึ่งคือป่วยจริง แม้ไม่ใช่แพทย์ แต่คงดูจากอาการแล้วสันนิษฐานไปตามที่เห็นและพูดคุยแน่นอนว่าปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น มีความเคลื่อนไหวหลายปมประเด็นอย่างหนึ่งก็คือ การยื่นเรื่องให้มีการสอบสวน เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรียุติธรรม ในฐานะผู้กำกับดูแลหน่วยราชการทั้งหมดจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรียุติธรรม ต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ไม่ได้เอื้อประโยชน์แต่อย่างใดประเด็นเหล่านี้คงต้องว่ากันอีกนานกว่าจะรู้ผลแต่ในความเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น น่าจะอยู่ที่นักการเมืองในซีกรัฐบาลมากกว่า โดยเฉพาะจาก “เพื่อไทย” ที่แสดงออกถึงความดีใจอย่างลิงโลดเนื่อง “นายใหญ่” ตัวจริงเสียงจริงได้รับอิสรภาพและคืนกลับสู่สังเวียนอีกครั้งซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะเกิดความรู้สึกอย่างนั้นที่รอจังหวะอยู่คือการเข้าพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งไม่ใช่แค่คน “เพื่อไทย” เท่านั้น แต่บรรดารัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็มีวัตถุประสงค์ไม่ต่างกันเพื่อแสดงตัวตนให้เห็นถึงความจงรักภักดีและสร้างหลักประกันบนตำแหน่งทางการเมืองอีกไม่นานถนนทุกสายคงมุ่งไปจันทร์ส่องหล้า ศูนย์อำนาจที่คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งที่อยากฝากไปถึงทุกคนว่า ทำอะไรก็ขอให้พองาม อย่าทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกก็แล้วกัน เพราะทุกความเคลื่อนไหวนั้นสังคมจับจ้องมองอยู่ คนชอบก็ไม่มีปัญหา คนไม่ชอบอาจจะมีปัญหายังไงก็ต้องคิดถึงประเทศชาติ ในความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะวันนี้รัฐบาลที่บริหารประเทศมาเกือบจะ ๖ เดือนแล้วแต่ก็ยังวุ่นอยู่กับการเมืองเรื่องเหล่านี้ที่สำคัญคือยังไม่มีผลงานให้ปรากฏเป็นชิ้นเป็นอันสักเรื่อง!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
Related posts