นายกฯเปิดทำเนียบฯเรียก “ธรรมนัส-กระทรวง ทรัพยากรฯ” เคลียร์ปมร้อนพื้นที่พิพาทเขาใหญ่ “ธรรมนัส” เผยมอบเลขาฯ ส.ป.ก.ยกเลิกพื้นที่ที่มีปัญหาหมดทุกแปลง พร้อมตั้งกรรมการ ๒ กระทรวงทำงานร่วมกัน ยันไม่ใช่ความขัดแย้ง “เศรษฐา” สั่งกรมแผนที่ทหารเดินหน้าวันแม็ป ใช้เวลา ๓ สัปดาห์พิสูจน์ กระทรวงเกษตรฯเตรียมประกาศไม่ให้แบ่งที่ดินในแนวเขตกันชนกรมอุทยานฯ-ส.ป.ก. ป้องกันปัญหาระยะยาว ขณะที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ร่อนหนังสือสั่งทั่วประเทศตรวจสอบพิกัด ส.ป.ก.ทับซ้อนเขตป่า ประสาน ส.ป.ก. จังหวัดร่วมตรวจสอบออกเอกสารสิทธิโดยชอบหรือไม่“หมุด ส.ป.ก.” ที่เขาใหญ่ ที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงที่มาที่ไปของ “หมุดปริศนา” ว่าไปปักอยู่ในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ได้อย่างไร จนกลายเป็นความขัดแย้งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเคลียร์เพื่อความกระจ่างที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ ๒๑ ก.พ. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ได้เรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผนที่ทหาร มาหารือปัญหาที่ดินทับซ้อนและเกิดข้อพิพาทระหว่างกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับ ส.ป.ก. บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาต่อมาเวลา ๑๔.๐๐ น. ร.อ.ธรรมนัส พร้อมนายวิณะโรจน์ นายจตุพร นายอรรถพล และ พล.ท.ชาคร ร่วมกันแถลงที่ตึกนารีสโมสร ภายหลังหารือกับนายกฯ ร.อ.ธรรมนัสแถลงว่า นายกฯได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือประเด็นที่เกิดขึ้น ตนใน ฐานะ รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯกำกับดูแล ส.ป.ก. ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯดูแลกรมอุทยานฯ เจ้ากรมแผนที่ทหาร รวมถึงเลขาธิการ ส.ป.ก. ได้หารือกันตามที่นายกฯมอบนโยบาย จากข้อมูลที่คุยกันเบื้องต้น เราจะไม่เถียงกันแล้วว่าเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใด นายกฯกำชับให้กรมแผนที่ทหารเดินหน้าการทำเขตแนวพื้นที่ของรัฐหรือวันแม็ปต่อไป เจ้ากรมแผนที่ทหารรับปากนายกฯว่าจะใช้เวลาประมาณ ๓ สัปดาห์ พิสูจน์พื้นที่ตรงนี้ในส่วนกระทรวงทรัพยากรฯ และกระทรวงเกษตรฯ ต่อไปนี้จะมีข้อตกลงระหว่าง ส.ป.ก.กับกรมอุทยานฯ หากพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินตามหลักฐานเดิมตั้งแต่ปี ๒๕๒๗ ถึง ๒๕๓๐ จนถึง ๒๕๓๔ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อเกิดปัญหาข้อพิพาทเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกันที่เรียกว่าแนวกันชน ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจะออกนโยบายว่า ต่อไปนี้พื้นที่ที่เป็นแนวกันชนหรือพื้นที่ติดประชิดกันจะไม่จัดให้พี่น้องเกษตรกรทำกินอย่างเด็ดขาดร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า พื้นที่ที่มีปัญหาได้มอบนโยบายให้เลขาธิการ ส.ป.ก.ไปยกเลิกให้หมดทุกแปลงที่รังวัดออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.๔-๐๑ ให้กับเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรจะเป็นตัวจริงหรือไม่ใช่ตัวจริง เราได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีมูลก็จะตั้งคณะกรรมการดำเนินการเอาผิดทั้งวินัยและวินัยร้ายแรง ดำเนินคดีอาญา เบื้องต้นจะให้เลขาธิการ ส.ป.ก.ออกคำสั่งยกเลิกทั้งหมดในเอกสารที่ออกมาและแนวทางการทำงานในอนาคตจะมีการบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ระหว่าง ส.ป.ก.กับกรมอุทยานฯ ในการที่จะกระทำการใดๆก็ตามในพื้นที่ ที่เราจะจัดสรรให้กับเกษตรกรจะต้องมีคณะกรรมการเป็นรูปธรรม ต่อไปจะมอบให้ ส.ป.ก.จังหวัด ที่ประกอบด้วยทุกหน่วยงานทั้ง ส.ป.ก. กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ และหน่วยงานของรัฐที่ดูแลพื้นที่ที่ดินของรัฐทั้งหมดจะได้มีความโปร่งใสร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สิ่งที่เกิดปัญหาไม่อยากโทษรัฐบาลที่แล้ว แต่การเริ่มรังวัดเริ่มตั้งแต่วันที่ ๕ ก.ค. ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา เรากำลังจะทำประโยชน์ให้กับเกษตรกร เกิดปัญหาอย่างนี้กระทรวงเกษตรฯต้องแก้ไข ขณะเดียวกันการทำงานเราเป็นรัฐบาลเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการทั้ง ๒ กระทรวงมาจาก พรรคเดียวกัน ไม่อยากให้เข้าใจว่าเป็นประเด็นการเมืองเพราะมันไม่ใช่ แต่เป็นความผิดพลาดในการทำงานที่ไม่คุยกัน ถ้าคุยกันจะไม่เป็นปัญหาต่อไปนี้จะให้ปลัดทั้ง ๒ กระทรวงต้องคุยกัน อธิบดีกรมอุทยานฯและเลขาธิการ ส.ป.ก.ต้องคุยกัน ปัญหาที่มีขึ้นมาต้องแก้ร่วมกัน ขณะเดียวกันเรามีกรรมการกลาง คือกรมแผนที่ทหารที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้เมื่อถามว่าพื้นที่ที่มีปัญหามีมากน้อยแค่ไหนและจะทำความเข้าใจประชาชนอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พื้นที่ที่ตอนนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาคือ พื้นที่ที่เป็นประเด็น ที่เอาเอกสารสิทธิให้เกษตรกรเข้าทำกินทั้ง ๕ แปลง ได้สั่งให้ตรวจสอบความถูกต้อง สำคัญที่สุดต้องมีจิตใต้ สำนึกว่ามันเป็นสภาพป่าแล้วไปจัดสรรได้อย่างไร เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯที่ชี้แจงมีเหตุมีผลกับตนที่ จ.นครราชสีมา ไปลงพื้นที่เห็นสภาพเป็นป่าที่ฟื้นขึ้นมาแล้วเพราะเกษตรกรไม่ได้เข้าทำกินมานาน จิตสำนึกมนุษย์ไม่ควรจะจัดให้เกษตรกร อันนี้จะตั้งกรรมการสอบสวนแน่นอน เมื่อมีมูลว่าผิดต้องดำเนินคดีอาญา เมื่อถามว่าถ้ายกเลิกไปแล้ว เกษตรกรที่ทำกินจะต้องทำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นพื้นที่ที่ทำการเกษตรอยู่แล้วต้องเป็นรายๆไป เป็นเรื่องที่กรมอุทยานฯ และ ส.ป.ก.ต้องพูดคุยกัน สำหรับพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทได้ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรฯ ว่าหากเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.จะทำเป็นพื้นที่ประเภทป่าชุมชนเพื่อรักษาป่าด้านนายจตุพรกล่าวว่า ในส่วนกระทรวงทรัพยากรฯเน้นย้ำการดำเนินการตามหลักกฎหมาย หลังจากนี้การดำเนินการจึงต้องมีคณะกรรมการเข้าไปเดินสำรวจในพื้นที่ กรมอุทยานฯจะสำรวจทั้งหมดในแนวเขตที่ออก ส.ป.ก. จะดูทั้งหมดว่าส่วนไหนที่มีปัญหา ยืนยันทุกอย่างตามหลักกฎหมาย ข้อเท็จจริงและหลักวิทยาศาสตร์ขณะที่นายวิณะโรจน์กล่าวถึงการย้ายเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.นครราชสีมา ๖ คน ออกนอกพื้นที่ว่า กรณีเกิดปัญหาความโปร่งใสการทำงานต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จึงต้องย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมาออกจากพื้นที่เข้ามาอยู่ใน ส.ป.ก. ส่วนกลางเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ระบบแผนที่ในประเทศไทยมีหลายระบบแปลงนี้มาจากการจำแนกพื้นที่จากป่าจำแนก จาก พ.ร.ฎ. ปี ๒๕๓๔ แต่มติ ครม. ปี ๒๕๓๐ อนุมัติให้ ส.ป.ก.จัดสรรที่ดินบริเวณนี้ราว ๓๓,๐๐๐ ไร่ ให้เกษตรกรเป็นพื้นที่ทำกินอาจเป็นเพราะเดิมพื้นที่แถบนี้ถูกบุกรุกทำกินจนสภาพป่าเป็นป่าเสื่อมโทรม จึงถูกจำแนกออกมาให้เป็นที่ทำกิน ส.ป.ก.จัดไปได้แค่กว่า ๑๐,๐๐๐ ไร่ และกันพื้นที่คืนให้ป่าไม้ไปกว่า ๓,๐๐๐ ไร่แล้วต่อมาเวลา ๑๔.๓๔ น. นายเศรษฐาทวีตภาพประชุมและข้อความผ่าน X ว่า จากกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาใหญ่ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนเพราะกระทบต่อพี่น้องประชาชนหลายภาคส่วน จึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ปลัด ทส.อธิบดีกรมอุทยานฯ เลขาธิการ ส.ป.ก. เจ้ากรมแผนที่ทหารมาพูดคุยเพื่อมาหาทางออกร่วมกัน เบื้องต้นหน่วยงานทหารจะเข้าไปสำรวจแผนที่ที่เป็นมาตรฐานของรัฐแผนที่เดียว เพื่อให้ยุติข้อพิพาทก่อน ใช้เวลาสำรวจประมาณ ๓ สัปดาห์ ส่วนกรมอุทยานฯเลขาธิการ ส.ป.ก.จะทำบันทึกข้อตกลงให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินของรัฐทุกประเภทในการเข้าทำการสำรวจพื้นที่พิพาทร่วมกัน ด้านกระทรวง เกษตรฯจะประกาศยกเลิกไม่ให้มีการแบ่งที่ดินในแนวเขตกันชน (พื้นที่คาบเกี่ยว) ระหว่างกรมอุทยานฯ และ ส.ป.ก.เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวครับวันเดียวกัน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่าเตรียมออกหนังสือด่วนที่สุดถึงส่วนราชการในสังกัดกรมอุทยานฯให้ตรวจสอบข้อมูลการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑-๑๖ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกสาขา สั่งการให้หน่วยงานป่าอนุรักษ์ตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า พื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกประเภทในสังกัดว่ามีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขต ส.ป.ก.ทับซ้อนในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกประเภทหรือไม่อย่างไร เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร ให้ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทำหนังสือถึงสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อประสานความร่วมมือในการร่วมตรวจสอบและขอข้อมูลเพื่อประกอบการตรวจสอบ พร้อมทั้งให้รายงานให้กรมอุทยานฯทราบโดยด่วนอีกด้านที่รัฐสภา นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จ.ระยอง และภาคีเครือข่ายรักป่าไม้ เข้ายื่นหนังสือให้นายกฤช ศิลปชัย รองประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.๔-๐๑ กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และพื้นที่ทับซ้อนเขตป่าอุทยานแห่งชาติอื่นๆทั่วประเทศโดยขอให้ กมธ.ฯตรวจสอบ ๔ ข้อ คือ ๑.ที่ รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ กล่าวว่า ให้ใช้ พระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.๒๕๑๘ แทนพระราชกฤษฎีกาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พ.ศ.๒๕๐๕ ได้นั้น จริงหรือไม่ ๒.รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯให้ตำรวจชะลอการดำเนินคดีตามที่รับแจ้งนั้นทำได้หรือไม่ ๓.หากการออก ส.ป.ก.๔-๐๑ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและขอให้ยกเลิกจัดโครงการใดๆในเขตมรดกโลกเขาใหญ่อีกต่อไป ๔. ส.ป.ก.๔-๐๑ กระทบกับมรดกโลกหรือไม่ นายกฤชกล่าวว่า กมธ.ฯไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าวและมีมติเชิญ รัฐมนตรีว่าการทั้งกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯมาให้ข้อมูลในการประชุมในสัปดาห์หน้าช่วงเย็นวันเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสถานีตำรวจนครบาลอุทยานแห่งชาติ นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ นำหมายค้นศาล จ.สีคิ้ว (ปากช่อง) เข้าค้นบ้านเลขที่ ๕๔/๓ หมู่ ๘ บ้านหนองเครือคต ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของ น.ส.อรุณี มิ่งสูงเนิน อายุ ๓๗ ปี หลังสืบทราบว่าเป็นที่จอดรถแบ็กโฮ แต่ น.ส.อรุณีไม่ยอมให้เข้าตรวจค้นและถกเถียงเสียงดังกับนายชัยวัฒน์นาน ๒๐ นาที ต่อมามีนายสวรรค์ สังเกตุกิจ จนท.ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่า ๑ นม. (ปากช่อง) สามีนาง อรุณี เดินออกมาพบและยอมให้เข้าตรวจค้น พบรถแบ็กโฮ ยี่ห้อโคมัตสุ สีเหลือง รถไถแทรกเตอร์ ยี่ห้ออีเซกิ สีน้ำเงิน ตรงกับรถที่เข้าไปปรับพื้นที่ ส.ป.ก.ในเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ นางอรุณียอมรับว่าเป็นรถที่เข้าไปปรับพื้นที่ ส.ป.ก.เขตอุทยานฯ เขาใหญ่จริง เจ้าหน้าที่นำรถทั้ง ๒ คัน นำส่ง สภ.หมูสี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ที่เพิ่งได้รับเอกสารสิทธิเมื่อปีที่ผ่านมาอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
เรียก "ธรรมนัส" สางปมสปก. "นายกฯ" เป็นประธานนั่งเคลียร์รุกที่เขาใหญ่
Related posts