เปิดบ้านต้อนรับแขกวีไอพี แย่งซีนก่อนใครนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เข้าเงื่อนไขได้รับการพักโทษกลับบ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อเช้ามืดวันที่ ๑๘ ก.พ. ท่ามกลางการจับตา จับผิด ตามติดชีวิตทุกฝีก้าวเครือข่ายคนใกล้ชิดสนิทสนม รอคิวเข้าเยี่ยมคารวะอื้อซ่า แต่ปรากฏว่าสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน หรือ สมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรี อดีตนายกฯกัมพูชา ประสานมาแทรกคิวก่อนใครจับพลัดจับผลูมายังไงแปลกใจกันไม่หาย หน่วยเฝ้าระวัง ระแวงยังมึนผู้นำกัมพูชาที่ยังเรืองอำนาจต่อเนื่องยาวนาน เผยสาเหตุที่มาเพื่อรำลึกมิตรภาพที่ยาวนาน ๓๒ ปีย้อนอดีตไปก็เห็นแต่การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไทย-กัมพูชา บ้านพี่เมืองน้อง ไม่เคยขัดแย้งบาดหมาง ช่วงสมัยที่นายทักษิณเป็นนายกฯ สามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนจนได้รับการยอมรับระดับหนึ่งเหมือนเป็นพี่ใหญ่ให้กัมพูชาคอยพึ่งพา ช่วยทำมาค้าขายหารายได้สัมพันธ์ “ทักษิณ–ฮุน เซน” แน่นแฟ้นเรื่อยมา ช่วงที่อดีตนายกฯไทยเผชิญชะตากรรมต้องหลบหนีคดีไปใช้ชีวิตต่างแดน หากต้องการไปกัมพูชาเมื่อไหร่ โชว์แค่หน้าวีซ่าไม่ต้อง พร้อมต้อนรับระดับซุปเปอร์วีไอพีถึงยังไงสมเด็จฮุน เซน ก็คือเพื่อนพึ่งพายามยากเสมอ เมื่อมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับขากลับสมเด็จฮุน เซ็นโพสต์เฟซบุ๊กชวน “หลานอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเยี่ยมเยือนกัมพูชาบ้าง พร้อมระบุเลยว่าวันที่ ๑๔-๑๕ มี.ค.“อุ๊งอิ๊งค์” รีบเข้าไปคอมเมนต์ตอบ “ขอบคุณความรักและการสนับสนุนที่คุณลุงมอบให้”แม้ไม่บอกชัดจะไปมั้ย แต่ระบุวันไว้แล้วขนาดนั้น ๑๔-๑๕ มี.ค. หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปหาลุงฮุน เซนแน่คุ้ยแคะแล้วไม่ได้มีเรื่องการเมืองลึกลับซับซ้อนทั้งภายใน ภายนอก เป็นไปตามที่ผู้นำกัมพูชายืนยัน แต่ฝ่ายเฝ้าระวัง ก็ต้องระแวงไว้ก่อนเช่นเดียวกับกลุ่มแก๊งต่อต้านไล่ล่า ที่พยายามขุดคุ้ยทุกซอกมุมเพื่อจับผิดจุดประเด็นหาเรื่องเคลื่อนไหวกลายเป็นวิชามารแต่คืองานประจำนักเคลื่อนไหวการเมือง เรื่องอุดมการณ์ไม่มีแล้วที่น่าห่วงใยคือนักการเมืองบางคน บางกลุ่มเข้าข่ายหมกมุ่น สำคัญผิดในหน้าที่ ออกมาพูดแต่ละทีไม่ต้องเดาเรื่อง ทายแค่ประเด็น และลีลาห่ามๆ เถื่อนๆซ้ำร้ายยังยกหางตัวเองทำหน้าที่ตรวจสอบขึงขัง จับผิดเก่ง แต่ไม่มีโมเมนต์ของการสร้างสรรค์ พัฒนาประเทศชาติ เป็นหลุมดำการเมืองที่ล้างไม่ออกความจริงหน้าที่หลักตรวจสอบ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระมากมาย ทำกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็ทำเกินหน้าที่อ้างว่าเป็นการทำงานเชิงรุก จนมีทั้งเสียงฮือฮาและโห่ฮาประเภทขาใหญ่เก๋าเกมอย่าง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีชั้นเชิงหน่อยล่าสุด ออกมาย้ำอีก “การพักโทษให้แก่นักโทษเทวดาจะกลายเป็นจุดซ้ำเติมความเสื่อมของรัฐบาลผสมชุดนี้ เดิมทีก็ไม่มีผลงานอยู่แล้ว นักโทษเทวดาได้ประโยชน์สมใจแล้ว แต่ประชาชนได้อะไรจากรัฐบาลหรือยัง”จากนั้นค่อยปล่อยลูกตามน้ำแผ่นเสียงตกร่อง โกงแล้วได้ดีตามถนัดแต่อีกหลายคน แม้กระทั่งคนค่ายเดียวกัน เห็นแล้วเอือมระอาทัศนคติอันตราย มีแต่ความคิดเหยียบหัวเพื่อน ฆ่าศัตรู สุดท้ายเมื่อเลือดเข้าตา ก็ไม่สนว่าวิธีการจะเลวร้ายยังไงฟาดงวงฟาดงาไปถึงขนาดใครไม่ร่วมค้านด้วยคือคนผิด เป็นคนโง่ เข้าข่ายอันธพาลเข้าไปทุกทีพรรคก้าวไกลโดนไปเต็มๆ ไม่รุกไล่ประเด็น “ทักษิณ” เจอด่ายับหน่อมแน้ม มีวาระซ่อนเร้นค่ายส้มเคยออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนเรื่องนี้เอาไว้ชัดเจน แม้ไม่ได้ด่าใครแต่เล่นเอาหงายเงิบแน่นอนว่ามองเห็นการเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือ “ทักษิณ” อย่างไม่โปร่งใส ณ วันนี้ แต่ก็ไม่เคยลืมอดีตที่มองเห็นการัฐประหาร จนนำมาสู่คดีความและบทลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อนายทักษิณในวันนี้เช่นกันก่อนขมวดปมเท่ๆถึงรัฐบาลและนายทักษิณ แม้จะโดนกระทำกลั่นแกล้งโดยกระบวนการกฎหมาย ก็ไม่ควรใช้วิธีการเดียวกันเพื่อเอาตัวรอดช่วยเหลือตัวเองแต่รู้อยู่แล้วว่า “ทักษิณ” คงไม่ฟัง ผลลัพธ์ที่เห็นจึงมีการพักโทษอย่างวันนี้ก้าวไกลเลยต้องควบซาเล้งขายเหล้าพ่วงเบียร์ ชงข้อเสนออำนวยยุติธรรมทัดเทียมกันทุกฝ่าย“ทักษิณ” ได้อานิสงส์ ผู้ต้องขังรายอื่น รวมทั้งเด็กๆที่ต้องคดีการเมืองก็ควรได้ด้วยชัดเจนไม่โลกสวย ค่ายส้มได้ใจคนเพราะจริงใจ ไม่ใช่ดีแต่พูดเพียงแต่ข้อเสนอช่วยเด็กของก้าวไกลสุ่มเสี่ยง เลยถูกปัดทิ้ง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
