Thursday, 19 December 2024

บริบทที่แตกต่างกัน

เกลอเก่าบินมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านจันทร์ส่องหล้าก็คงจะได้กำลังใจหายป่วยไข้เร็วขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้พวกที่สงสัยว่าป่วยจริงหรือเปล่าได้หายคลางแคลงใจกันไปบ้าง“สมเด็จฯฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี ได้เดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวจากกัมพูชามาเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ เป็นการส่วนตัวในฐานะคนที่เคยสนิทสนมแน่นแฟ้นกันมายาวนาน ตั้งแต่ สมัยที่ “ทักษิณ” ยังไม่ได้เล่นการเมือง เคยเดินทางไปทำธุรกิจ ในกัมพูชาก็เลยรู้จักชอบพอกันจนกระทั่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีและพ้นจากตำแหน่ง ต้องออกจากประเทศไทย ซึ่ง “ฮุน เซน” เคยตั้งให้เป็นที่ปรึกษามาแล้วล่าสุดยังได้เดินทางไปร่วมงานวันเกิด “ฮุน เซน” ที่บ้านพักในกัมพูชา ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยจนถึงวันนี้ว่าไปแล้ว “ไทย-กัมพูชา” ซึ่งเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกัน บางยุคสมัยก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี บางครั้งก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันจนกระทั่งมายุค “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ระหว่าง ๒ ประเทศค่อนข้างใกล้ชิดสนิทสนมกันดี ยิ่งปัจจุบันรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีโดยมี “เพื่อไทย” เป็นแกนนำรัฐบาล ความสัมพันธ์ยิ่งดีขึ้นก่อนหน้านี้ “ฮุน มาเน็ต” นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลูกชายของ “ฮุน เซน” ก็เพิ่งเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีและเจรจากรอบความร่วมมือต่างๆประเด็นที่ได้รับความสนใจก็คือ การเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่าง ๒ ประเทศการเดินทางมาเมืองไทยของ “ฮุน เซน” จึงเท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี และคงทำให้เกิดความร่วมมือกันในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรมว่าถึง “ทักษิณ-ฮุน เซน” แม้ทั้งสองคนจะไม่ได้มีตำแหน่งในฐานะผู้นำประเทศ แต่ก็มีบทบาททางการเมืองสูงวันนี้ “ฮุน เซน” ถอยจากการเมืองไปหนึ่งก้าว เพื่อให้ลูกชายขึ้นเป็นผู้นำกัมพูชาแทน โดยตัวเองคอยดูแลอยู่ห่างๆ“ทักษิณ” ก็ไม่ต่างกัน ให้ลูกสาวคนเล็กเป็นหัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” เพื่อเตรียมพร้อมที่จะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นกันเป็นความเหมือนกันในวิถีการเมืองแต่เนื่องจากมิติทางการเมืองระหว่างสองประเทศมีความต่างกัน การดำเนินการต่างๆ จึงต้องวิธีการต่างกัน“ไทย” นั้น สถาบันพระมหากษัตริย์มีความมั่นคงแข็งแรงได้รับการสนับสนุนจากคนไทยทั้งประเทศ จึงเป็น “หลักชัย” สำคัญ แม้จะมีคนบางกลุ่มพยายามสั่นคลอนแต่ก็ไม่เป็นผล“กัมพูชา” สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ถูกลดบทบาทลงอย่างมากจากฝ่ายการเมือง ทุกวันนี้จึงเป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้นโดยระบบ “ฮุน เซน” ได้เข้ามามีบทบาทที่เหนือกว่าทั้งทางตรงและทางอ้อมดังนั้น “ฮุน เซน” จึงสามารถตั้งลูกชายให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ทันที แต่ลูกสาว “ทักษิณ” จะต้องผ่านขั้นตอน โดยการสนับสนุนจากประชาชนผ่านการเลือกตั้งนี่จึงเป็นบริบทการเมืองที่ต่างกันระหว่างไทยกับกัมพูชา!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม