เลฟ ดาวีโดวิช บรอนชไตน์ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเลออน ตรอตสกี) นักปฏิวัติรัสเซียเชื้อสายยิวสนับสนุนพรรคเมนเชวิค ภายหลังสนับสนุนแนวการปฏิวัติของพรรคบอลเชวิคที่มีเลนินเป็นผู้นำ ทั้งสองคนร่วมกันโค่นอำนาจรัฐบาลของอเล็กซานเดอร์ เคเรนสกี เมื่อเลนินตาย สตาลินขึ้นมาครองอำนาจ สตาลินต้องการล้มล้างทฤษฎีปฏิวัติถาวรของตรอตสกี จึงเสนอแนวความคิดการสร้างสรรค์สังคมนิยมภายในประเทศเดียวเมื่อขัดแย้งกัน ตรอตสกีก็หนีไปอยู่ในกรุงเม็กซิโกซิตี โดยตั้งใจว่าหลังจากเขียนพินัยกรรมตรอตสกีซึ่งเป็นหนังสือสรุปความคิดรวบยอดในฐานะนักปฏิวัติลัทธิมาร์กซ์เสร็จแล้ว แกก็จะฆ่าตัวตาย ทว่ายังไม่ทันได้ฆ่าตัวตาย ก็โดนคนในกลุ่มองครักษ์ตรอตสกี (ที่ถูกส่งมาโดยสตาลิน) ใช้ที่เจาะน้ำแข็งกระหน่ำแทงหัวตรอตสกีจนถึงแก่ชีวิตแม้จะเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตา และไปหลบอยู่ในส่วนหนึ่งส่วนใดของโลก พวกทรยศชาติบ้านเมืองคิดว่าจะรอดพ้นจากการตามล่าของพวกโซเวียต แต่เท่าที่ทราบไม่มีใครรอดได้เลยสักคน ให้หนีไปอยู่บนสวรรค์ หลบอยู่ในนรก ซ่อนตัวอยู่ในอภิพญามหาพิภพใต้บาดาล ก็ไม่รอด๙ สิงหาคม ๒๐๒๓ มักซิม คุชมินอฟ นักบินแห่งกรมเฮลิคอปเตอร์ที่ ๓๑๙ ฆ่าลูกเรือประจำเฮลิคอปเตอร์ ๒ คน แล้วขับ Mi–๘ ไปมอบให้อูเครน ซึ่งรัฐบาลอูเครนประกาศมอบรางวัล ๑ แสนดอลลาร์สหรัฐฯให้กับทหารรัสเซียผู้แปรพักตร์และนำยุทโธปกรณ์มาด้วย (สำหรับกรณีเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ คุชมินอฟได้รางวัลจากอูเครน ๕ แสนดอลลาร์)สหรัฐฯจัดการให้คุชมินอฟซ่อนตัวและใช้เงินอย่างสุขสบายในวิลล่าโจโยซา เมืองอลิกันเต ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ คุชมินอฟถูกกระสุนรัวใส่ ๑๒ นัด ตายคาลานจอดรถใต้อพาร์ตเมนต์ รถยนต์ก็ถูกนำไปเผาบริเวณใกล้ๆหน่วยพิเศษของรัสเซียมักจะใช้สารพิษโนวิช็อกกำจัดพวกทรยศหักหลัง ค.ศ.๒๐๑๘ มีอดีตสายลับรัสเซีย เซร์เกย์ สกริปาล และลูกสาวที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษโดนสารพิษโนวิช็อก สารพิษโนวิช็อก เอ-๒๓๐ รุนแรงกว่าก๊าซพิษซารินและสารพิษทำลายประสาทวีเอ็กซ์ประมาณ ๘ เท่า๒๐ สิงหาคม ๒๐๒๐ อเล็กเซย์ นาวาลนี ทนายความซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียถูกวางยาพิษด้วยโนวิช็อก หลังจากถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่เยอรมนี นาวาลนียอมกลับมาติดคุกที่รัสเซีย โดยศาลพิพากษาจำคุก ๓๐ ปี กระทั่งศุกร์ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ นาวาลนี ศัตรูเบอร์หนึ่งของรัฐบาลรัสเซียในปัจจุบันหมดสติล้มลงและตายที่ทัณฑสถานกลางประจำเขตปกครองตนเองยามาโล–เนเนตส์ในไซบีเรียสมัยเยลต์ซินเป็นประธานาธิบดี มีเด็กหนุ่มผู้ฉลาดปราดเปรื่องอายุ ๓๗ ปีเป็นรองนายกรัฐมนตรีชื่อบอริส เนมต์ซอฟ สมัยนั้นเกือบทุกสำนักข่าวทำนายทายว่าเนมต์ซอฟจะต้องได้เป็นประธานาธิบดีต่อจากเยลต์ซิน ทว่าผิดคาด เพราะคนที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทนเยลต์ซินคือปูติน เนมต์ซอฟทำงานกับรัฐบาลปูตินอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ลาออกมาเป็นผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านปูติน แกถูกรัฐบาลปูตินจับกุมคุมขังหลายครั้ง ตอนหลังมีข่าวว่าเนมต์ซอฟได้รับการสนับสนุนจากซีไอเอและกลายเป็นหุ่นเชิดของพวกตะวันตกสงครามรัสเซีย-อูเคนเกิดเมื่อ ค.ศ.๒๐๑๔ ถึงต้น ค.ศ.๒๐๑๕ เนมต์ซอฟก็ทำรายงานการเข้าไปเกี่ยวข้องในอูเครนของรัสเซีย + ให้สัมภาษณ์โจมตีปูตินในนิตยสารนิวส์วีค ขณะเดินอยู่ใกล้พระราชวังเครมลินเมื่อ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ เนมต์ซอฟโดนไอ้ปื๊ดยิงจนตายกลายเป็นผีพวกที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก จะมีสื่อสากลคอยปั่นกระแสให้ รัฐบาลปล่อยไว้ก็โดนด่า ฆ่าให้ตายก็โดนด่า แต่การฆ่า โดนด่าเพียงครั้งเดียวแล้วก็จบ ส่วนการปล่อยไว้ จะกลายเป็นเสี้ยนคอยทิ่มตำประเทศอยู่เรื่อยไป.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม
เล่นกับหมี หนีไม่พ้น
Related posts