๕ ให้ ๕ ห้าม คุมประพฤติ "ทักษิณ" ทำการเมืองได้ "เศรษฐา" จัดระเบียบกทม.

นายกฯถก “ชัชชาติ” ส่ง “พวงเพ็ชร” มือประสานเชื่อม กทม. รับลูก ๘ วิสัยทัศน์ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ฝากพ่อเมืองกรุงสางปัญหาตั้งแต่การจราจร ความสะอาด ปลอดภัย แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ ไกด์ผี บุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อน เน้นสร้างความประทับใจนักท่องเที่ยว “ไหม” หยันวิสัยทัศน์นายกฯของเก่า เลื่อนลอยไร้รูปธรรม แนะงัดมาตรการการคลัง เร่งใช้งบฯปี ๖๗ แก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อนสาย อย่ามัวรอ ดิจิทัลวอลเล็ต แนะทำโครงการคนละครึ่งฟื้นชีวิตท้องถิ่น ปั่นงบฯ อปท. ๑.๘ แสนล้าน เพิ่มเป็น ๓.๖ แสนล้านบาท ก.ก.ลากปม “ทักษิณ”-ส.ป.ก.รุกป่าฯ ขึ้นเขียงซักฟอก “รองอธิบดีราชทัณฑ์” เผยเจ้าหน้าที่แจ้งเกณฑ์คุมประพฤติ “ทักษิณ” ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า กำหนดเงื่อนไข ๕ ให้ ๕ ห้าม ไฟเขียวทำงานการเมือง ผู้อำนวยการเรือนจำหญิงกลาง แจงอาการ “ตะวัน-บุ้ง” ยังไม่วิกฤติ “ฮุน เซน” เผย “อิ๊งค์” เยือนกัมพูชา ๑๘-๑๙ มีนาคมหลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ได้แถลงวิสัยทัศน์ ๘ ข้อ ตามนโยบาย “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” เพื่อมุ่งหวังสร้างโอกาสให้ประเทศ ล่าสุดได้หารือการทำงานร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการพัฒนาและแก้ปัญหาของกรุงเทพมหานครในหลายมิติ ให้สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของรัฐบาล นายกฯสั่ง “พวงเพ็ชร” แท็กทีม กทม.เมื่อเวลา ๐๘.๕๐ น. วันที่ ๒๓ ก.พ. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร มีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายกฯกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า กทม.คือประเทศไทยเล็กๆ จากนโยบาย “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ๘ ข้อ เกือบทุกข้อเกี่ยวข้องกับ กทม. หลายเรื่องยัง ขาดการซัพพอร์ตจากหน่วยงานอื่น หลายท่านต้องเข้ามาช่วยกันทำให้ดีขึ้น จากนี้อยากให้ประสานกันมากขึ้น โดยให้นางพวงเพ็ชรเป็นผู้ประสาน เช่น การลอกท่อ ลอกคลอง หน่วยงานต่างๆต้องมาวางแผนจัดระบบมาหน่วยงานไหนของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายทหารจะมาช่วย เริ่มต้นตั้งแต่คลองไหน ซอยไหน ส่วนการจราจรต้องประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผู้ว่าฯทำนโยบายมาดีขึ้น เพียงแต่การสื่อสารของเราอาจยังด้อยไปนิด จะส่งผลกับการท่องเที่ยว หากทำอะไรดีอยู่แล้ว เผยแพร่ในช่องทางสื่อสารของรัฐบาลและจะได้เชิญคนที่อยู่ต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยย้ำ นทท.ต้องประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกนายกฯกล่าวอีกว่า เรื่องแท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์ต้องเห็นใจเขาเหมือนกัน หากกดมิเตอร์ช่วงที่รถติด มิเตอร์ไม่ขึ้นไม่ได้ตังค์ จึงฝากไว้เรื่องระบบมิเตอร์ เทคโนโลยีใหม่ๆมีแล้วให้เปลี่ยนไปตามกลไกการแข่งขันที่สมบูรณ์จริงๆ ส่วนแท็กซี่ ไกด์ผีต่างๆ เป็นมะเร็งที่กัดกร่อนวงการท่องเที่ยวของประเทศ ไทย ต้องฝาก ผบ.ตร. ดูแลตรงนี้ดีๆ การที่นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามา อยากให้ก้าวแรกจนก้าวสุดท้ายสะดวกสบายและประทับใจ ไม่ว่าจะขั้นตอนต่างๆในสนามบิน หากหลุดมาแล้วเจอไกด์ผีไม่เหมาะสม จึงอยากจะฝากตรงนี้ไว้ ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ ปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ ๗๒ พรรษา เราอยากทำให้เมืองสะอาดขึ้น นโยบายผู้ว่าฯตอนมาใหม่ๆ การทำให้สายไฟลดน้อยลงก็ดี หากมีผลงานแล้วในถนนบางเส้นบางสายทำเสร็จแล้ว ควรจะมีภาพก่อนทำและหลังทำ PM ๒.๕ สำคัญที่ผู้ว่าฯประกาศ work from home แล้วเห็นผลชัดเจน ทำให้รถยนต์น้อยลงไป ๙% ถ้ามีการประสานที่ดีรัฐบาลจะประกาศพร้อมกัน อาจให้หน่วยงานราชการเวิร์กฟรอมโฮมขอบคุณทีม กทม.หัวใจเข้มแข็งจากนั้นนายกฯตรวจแถวความพร้อมและปล่อยขบวนเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย กทม. พร้อมกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายามที่กรุงเทพฯต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่ว่าน้ำท่วม ไฟไหม้ โควิด-๑๙ ระบาด ฝุ่นพิษปกคลุมท้องฟ้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการช่วยเหลือทันท่วงที เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่สุดความสามารถ ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนากรุงเทพฯให้เจริญก้าวหน้าตลอดมา ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเล็งย้ายท่าเรือคลองเตยพ้นเมืองกรุงจากนั้นเวลา ๐๙.๓๕ น. นายกฯให้สัมภาษณ์ถึงการพัฒนา กทม.ว่า มีหลายมิติ ผู้ว่าฯพูดไปแล้ว ทั้งความสะอาด ความปลอดภัย การจราจร PM ๒.๕ และชีวิตความเป็นอยู่ของรถแท็กซี่ คนหาบเร่แผงลอยต้องได้รับความเป็นธรรม ทำให้ กทม.เป็นเมืองน่าอยู่ การทำงานกับผู้ว่า กทม.ไม่มีปัญหาอะไร กันเลย เราคุยกันตลอดเวลาไปที่ทำเนียบรัฐบาลเจอกัน ๕-๖ คน พูดคุยกันตลอดเวลา ยกหูสายตรงได้ตลอด ไม่มีปัญหาใดๆและไม่เคยมีด้วย สำหรับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เยาวชนต้องแก้ปัญหาจริงจัง ถึงขั้นทำบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปกล่องนม ไม่ควร ทั้งการนำเข้า การเข้มงวดศุลกากรต้องตรวจค้นมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่านโยบายค่าโดยสารรถไฟ ๒๐ บาทตลอดสายจะเสร็จสิ้นในไตรมาส ๓ ปีหน้า รัฐบาลจะแก้ไขสัญญาสัมปทานอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ขอให้ รัฐมนตรีว่าการคมนาคมเป็นผู้แถลง เมื่อถามถึงการย้ายท่าเรือคลองเตย ชั่งน้ำหนักการขนส่งที่มีมูลค่าของท่าเรือคลองเตยกับน้ำหนักการแก้ปัญหาฝุ่นอย่างไร นายกฯกล่าวว่า เป็นคำถามที่ดี ต้องดูให้ครบทั้งองค์ประกอบ ไม่ว่าการพัฒนาท่าเรือน้ำ ลึกแหลมฉบัง เฟส ๒ และเฟส ๓ ถ้าเสร็จสมบูรณ์แล้วต้องล้อกันไป โดยต้องไม่กระทบกับการส่งออกด้านนายชัชชาติกล่าวว่า ท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ อาจต้องทบทวนว่ามันเวิร์กหรือไม่เวิร์กขนาดไหน แต่จะเห็นตัวอย่างทั่วโลก ไม่ว่ามหานครนิวยอร์ก สหรัฐ อเมริกา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ท่าเรือที่อยู่ในเมืองเขาย้ายออกข้างนอก เรามีปัญหาควบคุมน้ำทะเลหนุนสูง หากมีเรือใหญ่เข้ามาแล้วน้ำทะเลหนุนจะควบคุมอย่างไร มีหลายปัจจัย นายกฯคงให้ศึกษารายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้ง “ไหม” หยัน ๘ วิสัยทัศน์เก่าเลื่อนลอยเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เสนอวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND: จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ผลักดันประเทศไทยเป็น ๘ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ว่า เราคาดหวังกันมาก แต่จากที่ได้ฟังก็ไม่มีอะไรใหม่ หลายคนอาจผิดหวัง ถ้าดูทั้ง ๘ เรื่อง ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เคยฟังมา ก่อนจากรัฐบาล ที่สำคัญไม่เห็นเป็นรูปธรรมทั้ง ๘ ด้านว่าจะทำอย่างไร มีแต่จะทำอะไร เป็นแผนค่อนข้าง ลอย สิ่งที่อยากจะทำมากกว่าแผนงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน บางเรื่องยังมีปัญหาอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) พูดมานาน ตอนนี้เป็นฮับไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาคอขวดเรื่องบุคลากรทางการแพทย์และค่ารักษาพยาบาล ที่จะส่งผลกระทบค่ารักษาพยาบาลใน รพ.เอกชนหลายแห่ง กระทบกับชนชั้นกลางที่ใช้บริการ รพ.พยาบาลเอกชน รวมถึงการแย่งชิงบุคลากรการแพทย์ ระหว่าง รพ.เอกชนและ รพ.ของรัฐ ส่วนการเป็นศูนย์กลางทางการบิน ยังต้องปรับปรุงเทคโนโลยีการตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแก้ปัญหาตั๋วราคาแพงที่อาจเกิดจากแอปพลิเคชันที่เป็น OTA ด้านการท่องเที่ยว ถ้าคนในประเทศยังเจอปัญหาตั๋วแพง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะเจอปัญหาเดียวกัน ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็อาจไม่เป็นจุดศูนย์กลางของการบินของภูมิภาคได้ ถือเป็นตัวอย่างเล็กๆที่คาดหวังจากการแถลงและเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายสักที แม้เราจะพูดเรื่องนี้มามากกว่า ๑๐ ปีแล้ว จึงเป็นการแถลงที่ ไม่ได้ให้ความสำคัญจี้ใช้งบฯ ๖๗ แก้ ศก.ก่อนสายน.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น นายกฯทราบดี ว่าเศรษฐกิจมีปัญหา แต่ยังคิดวิธีการแก้ปัญหาไม่ออก โบ้ยให้ไปเป็นความผิดของผู้กำหนดนโยบายการเงิน ไม่ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตอนนี้มาตรการการคลังกระสุนยังไม่หมด ยังมีทางออกอยู่ หรืออีก ๑-๒ เดือน งบฯปี ๒๕๖๗ จะออกแล้ว เราคงต้องเตรียมการเพื่อให้งบฯผ่านไปได้เร็วขึ้น อยากเห็นท่าทีนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ว่าจะมีท่าทีอย่างไรที่จะมีโครงการแก้ขัดระหว่างรอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังแก้ไม่ออกอยู่เราไม่อยากรอให้ถึงวันที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตออกมา เพราะตอนนั้นสำหรับเศรษฐกิจไทยคงสายเกินไปแล้ว ถึงอยากเห็นท่าทีที่กระตือรือร้นที่จะใช้มาตรการทางการคลังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มากกว่านี้ก.ก.รอเคาะซักฟอก–อภิปรายไม่ลงมติน.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมการอภิปรายรัฐบาล ตอนนี้เราเก็บข้อมูลไปค่อนข้างมาก อาจต้องใช้โอกาสที่เร็วกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออภิปรายทั่วไปด้วยซ้ำ จากตัวเลขที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่าฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น เราคาดหวังว่ารัฐบาลควรต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นขึ้นมาได้แล้ว ไม่ใช่รอแต่ดิจิทัลวอลเล็ต แน่นอนเรามีปัญหาว่างบฯ ปี ๖๗ อาจล่าช้ามาไม่ทัน แต่ในฐานะที่หนึ่งในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗ เร่งทำงานกันเต็มที่ พิจารณาเกือบ จะเสร็จแล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ ๒ และ ๓ ได้เร็วกว่ากำหนดการเดิม ๒-๓ สัปดาห์ แม้งบฯยังไม่ออกแต่ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลใช้มาตรการทางการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ได้เลย ทั้งนี้ทีมงานกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อตัดสินใจว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือจะอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ คงจะใช้เวลาที่เหลือ ๑ เดือนให้ตกผลึกว่าจะต้องไปทางใด มาตรา ๑๕๑ หรือมาตรา ๑๕๒ เป็นโอกาสดีแค่อภิปรายแบบไม่ลงมติ จะให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำปรับใช้ได้แนะรัฐทำคนละครึ่งแชร์งบฯ อปท.น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ตอนนี้เงินสะสมขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีอยู่ประมาณ ๑.๘ แสนล้านบาท แน่นอนมีการปลดล็อกให้นำมาใช้ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ผ่านการอนุมัติของสภาฯ ท้องถิ่นสามารถทำได้เลย แต่ยังไม่มีแรงจูงใจจะทำ รัฐส่วนกลางให้เขานำเงินออกมาใช้เพื่อทำให้เศรษฐกิจแต่ละท้องถิ่น เศรษฐกิจฐานรากดำเนินต่อไปได้ให้มีชีวิตชีวากลับคืนมา ระหว่างที่งบฯยังไม่ออก เราได้เสนอว่ารัฐบาลควรมีมาตรการที่คล้ายกับโครงการคนละครึ่ง แต่เป็นคนละครึ่งสำหรับท้องถิ่น หากท้องถิ่นจะนำเงินสะสมออกมาใช้ครึ่งหนึ่งรัฐบาลจะสมทบอีกครึ่ง เพื่อให้เงิน ๑.๘ แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น ๓.๖ แสนล้านบาท โดยใช้งบฯกลางที่อนุมัติงบฯไปพลางก่อน ๒ ใน ๓ ของปี ๖๖ น่าจะอยู่ที่ ๖ หมื่นกว่าล้านบาท ถ้านำไปสมทบกับท้องถิ่นจะเป็นมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างน้อยประพรมให้เศรษฐกิจท้องที่มีชีวิตชีวาขึ้น รัฐบาลทำได้เลย ไม่ต้องรอโครงการขนาดใหญ่อย่างดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเรายอมรับมานานแล้วว่าเศรษฐกิจขณะนี้ฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็นปม “ทักษิณ”-ส.ป.ก.รุกป่าติดโผเป้าถล่มเมื่อถามย้ำว่า นอกจากประเด็นเศรษฐกิจ การพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้าไปอยู่ในประเด็นที่จะอภิปรายด้วยหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า คิดว่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะพิจารณาว่าจะนำไปอภิปรายในครั้งนี้หรือไม่ แน่นอนว่ามีความเกี่ยวพันกับหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานการปฏิบัติโดยที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เป็นผู้ต้องขังแบบใด ยังมีนโยบายอื่นที่เราคิดว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่านโยบายการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. การทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้น แม้ยังไม่ถึงตัวรัฐมนตรี แต่อาจเป็นข้าราชการระดับสูง แต่เราคงจะมีการหยิบยกขึ้นมาถกเถียงและอภิปราย เพื่อแจ้งให้ฝ่ายบริหารรับทราบและนำไปสู่การแก้ไขในอนาคตจี้นายกฯ แอ็กชันสางข้อพิพาทที่ดินน.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.ทับซ้อนเขตป่าอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ นายกฯ ควรเป็นตัวกลางแก้ไข เพราะเรื้อรังมาจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน แก้ไขได้โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วย โดยเฉพาะวันแม็ปที่รอคอยมากว่า ๑๐ ปี แต่ทุกวันนี้ยังใช้วิธีการพูดคุยเพื่อจบปัญหาไปทีละเรื่องทีละแปลง ถ้ามีวันแม็ปแผนที่เดียวทั้งประเทศ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐ และระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันจะจบ ไม่มีปัญหาต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขณะนี้กำลังรอท่าทีที่เด็ดขาดแน่วแน่ ที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ ยังไม่ค่อยเห็นจากนายกฯ“ทักษิณ” เลี้ยงบะหมี่ป๊อกๆทั้งซอยวันเดียวกัน ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๖๙ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปิดบ้านเก็บตัวเงียบ ไม่มีใครเข้าเยี่ยม มีเพียงรถคนใกล้ชิดในครอบครัวเข้า-ออก แต่ยังคงมีสื่อมวลชนมาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวหน้าบ้าน โดยนายทักษิณได้เหมารถขายก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงประจำซอยเลี้ยงสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนบ้านใกล้เคียง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและสายตรวจ สถานีตำรวจนครบาลบางพลัด ยังคงเฝ้าสังเกตการรักษาความปลอดภัยในละแวกพื้นที่อย่างเข้มงวด ช่วงสายมีแฟนคลับจ้างมอเตอร์ไซค์ส่งช่อกุหลาบสีแดงให้กำลังใจ จากนั้นนายปรีดา จำปาวัน สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปทุมธานี มาขอยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดไว้ แนะนำให้ไปยื่นที่ที่ทำการพรรค พท.จนท.แจ้งเกณฑ์คุมประพฤติถึงบ้านพ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ ๒๐ ก.พ. ผู้บริหารที่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมคุมประพฤติ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร ๑ ที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้เข้าพบนายทักษิณและผู้อุปการะ เพื่อแจ้งเงื่อนไข ข้อกำหนดการพักโทษ และนัดหมายรายงานตัวในครั้งถัดไปในเดือน มี.ค. กรณีหากนายทักษิณยังคงอยู่ระหว่างการพักฟื้นรักษาตัว หรือการตรวจรักษากับแพทย์ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะประสานติดต่อกับผู้อุปการะว่าสะดวกให้เข้าพบยังบ้านจันทร์ส่องหล้าวันเวลาใด หรือถ้ายังไม่สะดวกในเดือนนั้นๆ แจ้งเลื่อนได้ แต่ถ้ามีอาการดีขึ้น สะดวกเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติด้วยตัวเอง ให้ไปรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร ๑ ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกคุมความประพฤติต้องรายงานตัวทุกเดือน แต่ละเดือนขยับวันเวลาบวกลบได้ แต่ต้องไม่เกินปฏิทินในเดือนนั้น และถ้ารายงานตัวครบ ๔ เดือน ครั้งถัดไปสามารถลดหย่อนได้ เป็นรายงาน ๒ เดือนต่อครั้งใบ พ.๘ กำหนด ๕ ให้ ๕ ห้ามพ.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า เงื่อนไขระหว่างการพักโทษ มี “๕ ให้ ๕ ห้าม” ระบุในหนังสือสำคัญแจ้งการพักการลงโทษ หรือใบ พ.๘ ของกรมราชทัณฑ์ สำหรับผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯ ประกอบด้วย ๕ ให้ ๑.ให้รายงานตัวกับกรมคุมประพฤติภายใน ๓ วัน ๒.ให้อยู่ในความดูแลของผู้อุปการะ ๓.ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผน หากฝ่าฝืนหรือมีปัญหาใดให้รายงานกับผู้คุมประพฤติรับทราบตรวจสอบและวินิจฉัย หากผิดเงื่อนไขต้องส่งตัวกลับเข้าเรือนจำ ๔.ให้ประกอบอาชีพสุจริต ถ้าเปลี่ยนอาชีพต้องแจ้ง และ ๕.ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานคุมประพฤติไม่มีการห้ามทำงานการเมืองพ.ต.ท.มนตรีกล่าวอีกว่า ส่วน ๕ ห้าม ๑.ห้ามออกนอกเขตจังหวัด หากจำเป็นต้องขออนุญาต และอยู่ยาวเป็นเดือนไม่ได้ ๒.ห้ามประพฤติเสื่อมเสีย เช่น เล่นการพนัน ดื่มสุราจนมึนเมาจนก่อให้เกิดความเสียหาย ๓.ห้ามเกี่ยวข้องกับสารระเหยหรือยาเสพติด ๔.ห้ามไปเยี่ยมผู้ต้องขังอื่นที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำ ทัณฑสถาน และ ๕.ห้ามคบค้าสมาคมกับผู้ที่จะนำไปสู่การกระทำความผิดซ้ำ ส่วนจะไปเป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาในทางการเมือง ระหว่างนี้ สามารถทำหน้าที่ต่างๆได้ แต่ต้องดูว่าตำแหน่งนั้นกำหนดคุณสมบัติ มีข้อยกเว้นใดไว้หรือไม่ ดังนั้นยังไม่มีการห้ามในเรื่องงานทางการเมือง เพราะอย่างไรผู้ได้รับการพักโทษ เมื่อพ้นโทษจะได้ใช้ชีวิตปกติ มีสิทธิในฐานะคนไทยตามรัฐธรรมนูญทุกประการ “ฮุน เซน” ตีปี๊บ “อิ๊งค์” ยกทีมเยือนกัมพูชาเมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา อดีตนายกรัฐ มนตรีกัมพูชาและเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา เผยแพร่เอกสารข่าวในนามพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ระบุว่า ขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะนำคณะผู้แทนระดับสูงของพรรค พท. เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ มีนาคมตามคำเชิญของสมเด็จฮุน เซน โดยการเยือนระดับสูงระหว่างทั้งสองฝ่ายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนและทั้ง ๒ ฝ่ายโดยอาศัยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความร่วมมือระหว่างกัน โดย น.ส.แพทองธารจะหารือกับสมเด็จฮุน เซน อีกทั้งจะเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จวิบุลเสนาภักดี ซาย ชุม ประธานวุฒิสภากัมพูชา น.ส.ควน โสดารี ประธานรัฐสภากัมพูชา และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาผอ.คุกโต้อาการ “ตะวัน–บุ้ง” ไม่วิกฤติเมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. ที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง นางอาจารี ศรีสุนาครัว รรท.ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวถึงสภาพร่างกาย น.ส.ตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรม ทางการเมือง ที่ประกาศอดอาหารระหว่างคุมขังพิจารณาคดีว่า น.ส.ตะวันยังคงยืนยันอดอาหาร เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานหญิงกลางตรวจร่างกายแล้ว พบว่ามีอาการอ่อนเพลีย ล่าสุดส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ได้รับรายงานว่า ยังคงช่วยเหลือตัวเองได้ดี แต่มีอาการ อ่อนเพลียเนื่องจากอดอาหารมาหลายวัน ยังไม่ได้อยู่ ในขีดอันตราย ระดับน้ำตาลในเลือด สัญญาณชีพจร ความดันยังคงปกติ โดย น.ส.ตะวันได้ยื่นคำร้องขอให้ พ่อแม่เข้าเยี่ยม ถ้าเจ้าตัวมีอาการดีขึ้นต้องส่งตัวกลับ เรือนจำและสังเกตอาการต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวล เรามี สถานพยาบาล และมีแพทย์คอยตรวจอาการ ยืนยันว่า ตอนนี้ น.ส.ตะวันยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ส่วน น.ส.เนติพร ค่อนข้างแข็งแรงกว่าตะวัน ช่วยเหลือตัวเองได้ เดินไปห้องน้ำเองได้ แต่ยังปฏิเสธการรักษา ปฏิเสธการทานอาหารทุกชนิด ทั้งทางปากและการให้สารน้ำ  ทางหลอดเลือดดำ ไม่เชิงมีพฤติกรรมอาละวาด แต่อาจหงุดหงิด เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะอดอาหาร ร่างกายอาจแปรปรวน เรื่องอารมณ์เสียต่างๆเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ มีประสบการณ์รับมือ“สมศักดิ์” เร่งเครื่องยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่าง พระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล (ครม.) มีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกฯ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เข้าร่วม โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า หลังประชุมครั้งนี้อีก ๒-๓ สัปดาห์ขอให้ประเมินผลว่าจะสามารถเสนอร่าง พระราชบัญญัติเข้า คณะรัฐมนตรีแล้วส่งให้สภาฯพิจารณาแล้วกี่ฉบับ ร่าง พระราชบัญญัติของ คณะรัฐมนตรีอยู่ในสภาฯ ๖ ฉบับ อยู่ที่สำนักงานเลขาธิการ ครม. ๓๖ ฉบับ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงาน ๑๘ ฉบับ นอกจากนี้ที่ประชุมยังพิจารณาแนวทางการยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ๑๖๗ ฉบับ โดยสามารถยกเลิกโดยการตรา พระราชบัญญัติกลางยกเลิก ๗๑ ฉบับโดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ให้เดินหน้าร่างกฎหมายยกเลิกเสนอต่อสภาฯทั้งหมด นอกนั้นจะยกเลิกโดยการแก้ไขเพิ่มเติม ๓๗ ฉบับ และยกเลิกโดยการตรา พ.ร.ฎ. ๒ ฉบับ ยกเลิกโดยออกกฎกระทรวง ๒ ฉบับ และยกเลิกโดยมติ ครม. ๕๕ ฉบับ “พิพัฒน์” ปัดยกเลิกเลือกตั้งบอร์ด สปส.ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงแรงงานชงร่างแก้ไข พระราชบัญญัติประกันสังคม มาตรา ๓ ตัดข้อความที่มาของคณะกรรมการประกันสังคม ที่มาจากการเลือกตั้งตามมาตรา ๘ ว่า ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ที่มาของคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ที่มีความกังวลในมาตรา ๓ จะลิดรอนหรือตัดสิทธิ์บอร์ดที่เลือกตั้งกันไปเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม๒๕๖๖ และกังวลจะไม่มีการเลือกตั้งบอร์ดอีกโดยให้อำนาจรัฐมนตรี แต่งตั้งนั้น อาจเป็นความสับสน บอร์ดที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นบอร์ดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการยกเลิกการเลือกตั้ง ส่วนที่ข้อความในร่างมาตรา ๓ เขียนให้ยกเลิกในมาตรา ๘ ยอมรับว่า มีการใช้คำไม่ชัดเจนจนทำให้เข้าใจผิด คนอาจกังวล สับสน ต้องหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนจะนำเข้า คณะรัฐมนตรี๒๗ ก.พ. นัดเคาะค่าแรงขั้นต่ำ ๔๐๐ บาทนายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำรอบ ๒ ว่า ยืนยันจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำรอบ ๒ เป็นของขวัญสงกรานต์แน่นอน ในวันที่ ๒๗ ก.พ. จะประชุมอนุกรรมการในคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการค่าจ้างชุดใหญ่เพื่อพิจารณา สูตรปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ก่อนส่งให้อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดนำสูตรไปพิจารณาว่า พื้นที่ไหน สาขาอาชีพอะไรที่ควรได้ค่าแรง ๔๐๐ บาทบ้าง ส่วนจังหวัดที่เหลือให้ใช้อัตราที่ประกาศในรอบแรกเมื่อปี ๒๕๖๖ ส่วนคนที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ขึ้นเป็น ๔๐๐ บาท อย่าเพิ่งปรามาส เราจะทำสุดความสามารถ เพราะไม่ได้ทำทั้งหมด ต้องคำนึงถึง SME ที่มีการจ้างงานอยู่ประมาณ ๘๐% ด้วย ปีนี้จะเพิ่มในบางพื้นที่และบางสาขาอาชีพ และปี ๒๕๗๐ จะได้เห็นค่าจ้างขั้นต่ำ ๖๐๐ บาทแน่นอน แต่ไม่ใช่ทุกสายอาชีพ และในบางพื้นที่เท่านั้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่