Tuesday, 17 September 2024

จับตา "ทักษิณ" พักโทษปรับยุทธศาสตร์ การเมือง : พลังจันทร์ส่องหล้า คุมอำนาจหลังฉาก

โบกมือลาหน้าหนาว กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนนับตั้งแต่วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์เป็นต้นไปภายใต้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า ๓๕ องศาเซลเซียสสภาพกลางวันร้อนจัด ได้รับอิทธิพลจากรังสีดวงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แนวโน้มจะร้อนกว่าทุกปี และฝนตกน้อย พยากรณ์ล่วงหน้า อุณหภูมิสูงสุดจะทะลุปรอท ๔๔.๕ องศาเซลเซียสร้อนในระดับน่าซีเรียส เห็นตัวเลขแล้วเครียดไปตามๆกันอุณหภูมิไต่จุดเดือด สภาพอากาศเปลี่ยนผ่านฤดูกาลหน้าหนาวเข้าหน้าร้อน ในจังหวะฤดูอำนาจการเมืองผลัดเปลี่ยนตามแรงลมพัดหวน“นายใหญ่” ในตำนาน ฟื้นจากหลุมกลับมาโชว์ความร้อนแรงตามปรากฏการณ์ “ศูนย์อำนาจ” แกว่งอย่างเห็นได้ชัด เมื่อ “นายใหญ่” เช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้สิทธิ์พักโทษออกไปนอนตีพุงเล่นที่บ้านปลดเปลื้องพันธนาการ “ผู้นำจิตวิญญาณ” สาวกเพื่อไทยเกิดเป็นกองบัญชาการ “จันทร์ส่องหล้า” คู่ขนาน “ทำเนียบรัฐบาล”อย่างที่เห็นภาพเป็นข่าว ถนนทุกสายมุ่งสู่ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๖๙ จากที่เงียบเหงามากว่า ๑๗ ปี กลับมาจอแจการจราจรหนาแน่น รถเข้าออกไม่ขาดสาย เต็มไปด้วยนักข่าวสื่อมวลชน กลุ่มคนเสื้อแดง ไปปักหลักเฝ้าประตูคฤหาสน์ “จันทร์ส่องหล้า” ที่แทบปิดตาย ถูกเปิด เข้าออกถี่ยิบบ่งบอกความเคลื่อนไหวภายใน ภารกิจของ “ประมุข เจ้าบ้าน” ที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาลของศูนย์อำนาจตัวจริงเสียงจริง ที่ทะลักจาก “หลังฉาก” ล้นออกมา “หน้าฉาก”สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธการเกิด “ภาพเชิงซ้อน” ของผู้นำ โดยปรากฏการณ์ตอกย้ำเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยมีนายกฯ ๒ คน แม้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ชิงเบรกดราม่า ก็ไม่เป็นผลเพราะคนทั่วไปในสังคมเชื่อโดยสายตาตัวเองนั่นไม่เท่ากับว่า จับทาง “ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า” เองก็ไม่ได้ยี่หระกับปัญหาภาพอำนาจเชิงซ้อน ดราม่านายกฯ ๒–๓ คน ซะเมื่อไหร่ตามจังหวะเร่งเครื่องฟื้นกำลังภายใน สำแดงกระบวนยุทธ์ท่าเก่งทันควันไม่กี่วันหลังเช็กเอาต์จากชั้น ๑๔ ก็สำแดงเหลี่ยมเขี้ยว ตำนานโคตรเซียนการตลาด ประเดิมอย่างเป็นทางการด้วยการโชว์แขกวีไอพีคนสำคัญ ชื่อชั้นระดับโลกอย่าง “สมเด็จฮุน เซน” ผู้นำขาใหญ่แห่งกัมพูชา นั่งเครื่องบินเจ็ตข้ามประเทศ บึ่งตรงมาเยี่ยม “เพื่อนแท้” ถึงบ้านกระตุกภาพ “ผู้ทรงอิทธิพล” ทางการเมืองตัวจริงไม่ใช่แค่ในไทย แต่ “นายใหญ่” ตั้งใจอวดสายตานานาชาติที่แน่ๆคือถือโอกาส “โปรลูกสาว” ขึ้นชั้นเวทีอินเตอร์ แบบที่ข่าวระบุว่า “ฮุน เซน” ต่อสายผ่าน “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการขอเข้า เยี่ยม “ทักษิณ” รวมถึงการส่งเทียบเชิญ “อุ๊งอิ๊งค์” ไปเยือนกัมพูชาเดือนมีนาคมนี้โชว์สายสัมพันธ์แน่นปึ้กของตระกูลชินกับตระกูลฮุนโดยฉากปรากฏการณ์ที่เห็นกันตรงหน้า เอาเป็นว่า ไม่ต้องสงสัยในความยิ่งใหญ่ของยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” ตามธรรมชาติของพรรคเพื่อไทยที่บริหารสไตล์กงสี “บริษัทจำกัด” ทุกอย่างขึ้นตรงกับ “เจ้าของพรรค”“เถ้าแก่” ตัวจริงกลับมาบริหารกิจการแบบเต็มไม้เต็มมือราศีของ “มวยแทน” ก็ต้องดร็อปลงไปตามฟอร์ม“พลังจันทร์ส่องหล้า” เจิดจ้าขึ้นมากลบรัศมีทำเนียบรัฐบาล ยั่วกระแสวิพากษ์วิจารณ์ พวกหมั่นไส้ได้จังหวะ “ตอกลิ่ม” นายกฯ ๒ คนแต่อีกมุมก็กลายเป็นความคาดหวัง ตามความขลังในอดีตของยี่ห้อ “ทักษิณ” ตำนานเชิงบริหารชั้นอ๋อง ผูกติดภาพอดีต “กินดี อยู่ดี” ฝีมือบริหารเศรษฐกิจยังติดตราตรึงใจชาวบ้านรากหญ้าประชาชนส่วนหนึ่งยังให้ราคา เชื่อในบารมีของอดีตผู้นำรัฐบาลไทยรักไทยอย่างที่ภาพ “ฮุน เซน” มุดถ้ำ “จันทร์ส่องหล้า” ก็มีกระแสเชียร์ให้ “ทักษิณ” ใช้สายสัมพันธ์พิเศษ ถือโอกาสรวบหัวรวบหางผู้นำเขมร ตัดจบการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย–กัมพูชา เพื่อนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้โอกาสเดียวที่จะทำให้คนไทยได้ใช้ไฟฟ้า พลังงานราคาถูกและมีคนเดียวทำได้ ต้องระดับ “ทักษิณ” เท่านั้นเช่นเดียวกัน ในอารมณ์ของสาวกพรรคเพื่อไทย “เถ้าแก่ใหญ่” ต้องแบกความคาดหวังในการฟื้นฟูกิจการที่กำลังขาดทุนบักโกรก สถานะการเมืองของพรรคเพื่อไทยแกว่งอย่างหนัก ต้นทุนติดลบมหาศาลจากการหักขั้วประชาธิปไตยไปสวมบทนอมินีอนุรักษ์นิยมแบบเต็มคราบในสภาพที่มวยแทนอย่างนายเศรษฐากำลังเมาหมัดอาการกัปตันมือใหม่หัดขับ เจอแรงเสียดทานรอบด้าน การบริหารอำนาจติดๆขัดๆ อารมณ์กล้าๆกลัวๆ อย่างที่เรือธงโครงการเทกระจาดดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท เดินหน้าไม่ออก ถอยหลังไม่ได้เจ้าตำรับโคตรประชานิยม ใช้เงินหลวงหาเสียงไม่คล่องมือเหมือนเก่าเครื่องไม้เครื่องมือในการบริหารเศรษฐกิจ ทั้งธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก็สั่งไม่ได้ดั่งใจตามจังหวะ “เถ้าแก่ใหญ่” ต้องขยับส่งนายศุภวุฒิ สายเชื้อ คนเก่าเล่ายี่ห้อ “ทักษิณ” นั่งแท่นประธานบอร์ด สศช.ล้อไปกับอาการก้มต่ำของนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. ที่เริ่มประสานเสียงโทนเดียวกับผู้นำรัฐบาลในการกดดันให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือแค่ “ด็อกเตอร์นก” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.ที่ยังยืนเด่นโดยท้าทาย ประกาศผ่านสื่อญี่ปุ่น แบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ยตามแรงเขย่า ต้องยึดหลักรักษาวินัยการเงินการคลังไม่ให้พังเพราะฝ่ายการเมืองชัดเจนว่าลำพังนายเศรษฐา “เอาไม่อยู่” ต้องดู “เถ้าแก่ใหญ่” จะบี้ยังไงภายใต้โจทย์เร่งด่วน รีบฟื้นจุดขายการบริหารเศรษฐกิจขณะที่ในมุมของอำนาจความมั่นคง ปรากฏการณ์ระเบิด “ถังส้วม” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามปฏิบัติการล้มโต๊ะ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นายตำรวจคนดัง ผู้มากคอนเนกชันเด็กในบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” สายสัมพันธ์ปึ้ก “บ้านป่ารอยต่อฯ”สถานการณ์ “เส้นใหญ่” เจอ “เส้นกวยจั๊บ” ลากโยงไปถึง “แบ็กอัป” อำนาจ วัดพลังกันในหมู่ของกอง หนุนกองเชียร์ ตัวเต็งที่จับจองเก้าอี้ ผบ.ตำรวจคนต่อไปฟัดกันน้ำกระจาย กระพือซากปฏิกูลหมักหมม อยู่ในดงสีกากี ศึกชนช้างระดับนี้ นายเศรษฐาคงทำได้แค่เรียกคู่กรณีมานั่งพูดจา โชว์รูปผ่านโซเชียลฯ แต่เบรกไม่อยู่ ดูตามรูปการณ์หนีไม่พ้น “เถ้าแก่ใหญ่”“ทักษิณ” ต้องออกโรงทุบโต๊ะ เคลียร์เอง“พลังจันทร์ส่องหล้า” โยงทั้งอำนาจการบริหารเศรษฐกิจ พลังคุมความมั่นคง และยังเชื่อมไปถึงเกมอำนาจการเมือง ภายใต้รัฐบาลผสมสูตรพิสดารสถานการณ์ที่จำเป็นต้องปรับ ครม. ยกระดับเชิงบริหารจุดความร้อนโผล่ที่ค่ายพลังประชารัฐ การฟาดฟันกันระหว่าง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติฯ กับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯเปิดศึกแย่งหมุด “ส.ป.ก.๔-๐๑” พื้นที่ป่าเขาใหญ่จังหวะเปิดแผลการบริหาร ชี้เป้าประจานจุดด่าง พร้อมๆไปกับสงครามสั่งสอนทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่ “ผู้กองนัส” เล่นบทสลับร่างพรางกาย ตัวอยู่กับพลังประชารัฐ แต่ใจอยู่กับ “เถ้าแก่ใหญ่” พรรคเพื่อไทย“พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ เลยต้องลุย “จัดระเบียบ” กระชับอำนาจ พปชร.อยู่ในแถวตามแนวโน้ม “บิ๊กบราเธอร์” ยังได้ลุ้นบนกระดานอำนาจรัฐบาลสูตรพิสดารพร้อมหักด่านทีม “น้องเล็ก” ที่บิ๊ก “ด” ผู้มากบารมี จ้องหาม “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน หัวหน้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ เคลมโควตาทีม “คนดี” แทน “ลุงตู่” เบียดลุ้นเก้าอี้ใหญ่แน่นอน การเปลี่ยนดีล ปรับสูตรผสมอำนาจกันใหม่ก็ต้อง “พลังจันทร์ส่องหล้า” เท่านั้น ที่ทุบโต๊ะเปรี้ยงเดียวจบ.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม