Friday, 20 September 2024

มิติโฉมใหม่ บช.ปส. ปราบเหี้ยนยานรก

25 Feb 2024
85

นโยบายประกาศสงครามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรการทางกฎหมายเด็ดขาดทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งระบบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ ผู้อำนวยการศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผู้อำนวยการศอ.ปส.ตร. เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดสถิติการจับกุมยาเสพติดของ บช.ปส.ไตรมาสแรกปี ๒๕๖๗ สูงขึ้นมากอย่างเป็นนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๖ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. สั่งให้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. เร่งรัดสืบสวนเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาวต่างชาติ กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านพฤติการณ์กลุ่มเครือข่ายขนลำเลียงยาเสพติดมักใช้เส้นทางถนนเส้นรองเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นและสกัดกั้นยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ บช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. พ.ต.อ.วัสสา วัสสานนท์ รอง ผบก.สกส.บช.ปส. พ.ต.อ.บุญส่ง สนธยานานนท์ รองผบก.สกส.บช.ปส. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ยุรชาติ รอง ผบก.สกส.บช.ปส. พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ปส.๓ พ.ต.อ.โชคชัย วระศาสตร์ ผกก.ปส.๑ วางแผนสืบสวนเบาะแสกลุ่มเครือข่ายขนลำเลียงยาเสพติดนำเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ บก.สกส. รับแจ้งว่า มีกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน นำมาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการผู้ว่าจ้างในพื้นที่ภาคกลาง ใช้รถยนต์ขับขี่นำทาง สำรวจเส้นทางและลำเลียงยาเสพติด ๓ คัน คือ รถกระบะฟอร์ด ทะเบียน บร ๕๘๘๗ ลำพูน รถกระบะ ทะเบียน บร ๕๙๘๑ ลำพูน และรถกระบะ ทะเบียน ฬล ๑๖๘ กรุงเทพมหานครใช้เส้นทาง อ.เชียงดาว อ.พร้าว เมืองเชียงใหม่ อ.ลี้ ลำพูน อ.ทุ่งเสลี่ยม เมืองสุโขทัย เมืองพิษณุโลก ทับคล้อ พิจิตร อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้า จ.สระบุรี พล.ต.ต.สมบูรณ์ ให้ประกบรถเป้าหมายตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ที่ปลอดภัย ชุดแรกค้นรถกระบะ ทะเบียน บร ๕๙๘๑ ลำพูน และรถกระบะ ทะเบียน ฬล ๑๖๘ กรุงเทพมหานครตรวจค้นรถกระบะ ทะเบียน ฬล ๑๖๘ กรุงเทพ มหานคร พบยาบ้า ๖๑ กระสอบ ๑๒ ล้านเม็ดและยาไอซ์ ๕ ห่อ น้ำหนัก ๕ กิโลกรัม มี นายจายตาล ชาวเมียนมา ผู้ขับขี่ ตรวจค้นรถกระบะ ทะเบียน บร ๕๙๘๑ ลำพูน พบ นายวิน ชาวเมียนมา และ นายแลง ลุงเมือง ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน อายุ ๒๑ ปี ซึ่งเป็นรถนำทางและสำรวจด่านตรวจนำผู้ต้องหา ๓ คนพร้อมของกลางมาที่ กก.๑ บก.สกส.บช.ปส. ขยายผลและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานรถยนต์ของกลาง หีบห่อยาเสพติดของกลาง และวัตถุพยาน รถกระบะ ทะเบียน บร ๕๘๘๗ ลำพูน เป้าหมายอีกคันหลังทราบว่ารถกระบะ ๒ คันถูกตรวจค้นจับกุมได้เร่งความเร็วหลบหนีไปในตัวเมืองสระบุรี การจราจรคับคั่งเมือง ทำให้ผู้ขับขี่รถหลบหนีไปได้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ประสานพื้นที่ตรวจค้นหาพบวิ่งผ่านกล้องอ่านแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติ ติดตั้งอยู่ที่จุดตรวจโคกโคเฒ่า อ.เมืองสุพรรณบุรี วิ่งผ่านกล้องอ่านแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมชุดจับกุมปูพรมเข้าตรวจค้นพื้นที่ อ.กำแพงแสน นายวิน ผู้ต้องหาที่จับกุมให้การว่า คนขับรถชื่อนายไซ หรือต้น ทูนแก้ว มีคนรักพักอยู่ที่หอพักทิพย์แมนชั่น อ.กำแพงแสน ประสานตำรวจท้องที่และ ทล.๑ กก.๒ บก.ทล. ค้นหาพบรถกลุ่มผู้ต้องหาจอดอยู่ลานจอดรถหอพักทิพย์แมนชั่น ในสภาพถอดแผ่นป้ายทะเบียนหน้า-หลังออกตรวจสอบป้ายทะเบียนภาษีที่ติดอยู่หน้ากระจกของรถระบุ ทะเบียน บร ๕๘๘๗ ลำพูน ประสานเจ้าของหอพักหาตัวนายไซ แอบหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าในห้องหมายเลข ๔๑๒ ชั้น ๔ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บของหอพักทิพย์แมนชั่นชุดจับกุมนำผู้ต้องหา ๔ ราย ยึดรถกระบะ ยาเสพติด และเงินสด ขยายผลที่ กก.๑ บก.สกส.บช.ปส.เป็นบางส่วนปฏิบัติการกวาดล้างปูพรมสกัดกั้นยาเสพติดของหน่วยงานหลัก บช.ปส.ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พล.ต.ท.สำราญ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ เปิดปฏิบัติการ “๙๙๙ Episode ๒” ค้น ๒๓ เป้าหมาย จับ นายศดายุ หรือโน้ต เหลืองประดับใจ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ภาคกลางและปริมณฑล ซึ่ง บช.ปส.เคยเปิดปฏิบัติการบุกจับขณะจัดงานเลี้ยงเอเย่นต์เครือข่ายยาเสพติดที่รีสอร์ต อ.เขาใหญ่ เกิดการยิงต่อสู้ลูกน้องถูกวิสามัญ ส่วนนายศดายุ หลบหนีกบดานประเทศเพื่อนบ้านปี ๒๕๕๙ ก่อนกลับเข้าไทยทำตัวเป็นนายทุนค้ายา ตรวจสอบเส้นทางการเงินนายศดายุ นำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สิน ที่ดินเปล่าสร้างโกดังเก็บยาเสพติด ซุกซ่อนทรัพย์สิน เก็บสะสมรถแต่ง อายัดทรัพย์สินมาตรวจสอบ ๕๑ รายการ มูลค่าทรัพย์สิน ๑๕๐ ล้านบาท และจับกุมเครือข่ายสำคัญ ๕ คดี ผู้ต้องหา ๙ ราย ยาบ้า ๑๖ ล้านเม็ด ยาไอซ์ ๔ กิโลกรัม อายัดทรัพย์สิน ๘ ล้านบาทตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม๖๖–๑๔ กุมภาพันธ์๖๗ บช.ปส.จับนักค้ายารายสำคัญ ๙๙ คดี ผู้ต้องหา ๑๗๐ คน ของกลางยาบ้า ๑๓๒,๔๙๔,๖๗๒ เม็ด ยาไอซ์ ๒,๘๙๒.๒๖ กิโลกรัม เฮโรอีน ๗๙.๔๗ กิโลกรัม โคเคน ๑๘.๙๗ กิโลกรัม และคีตามีน ๑,๒๐๑.๒๒ กิโลกรัม และยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่ากว่า ๖๐๖ ล้านบาทพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า “เน้นเรื่องการทำลายเครือข่าย วงจรค้ายาเสพติด ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง เริ่มต้นจากการสกัดกั้นการลักลอบยาเสพติดเข้ามาในประเทศ สืบสวนหาแหล่งซุกซ่อน ขบวนการขนส่งการค้นหาผู้ค้าในชุมชนต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดทุกรูปแบบ และเน้นเรื่องมาตรการยึดทรัพย์ฟอกเงินกับกลุ่มผู้ค้า เพื่อเป็นการให้เห็นว่าถึงแม้พวกคุณจะมีรายได้มาจากการค้ายาเสพติด คุณจะไม่เหลืออะไรเลยในตอนท้าย ส่วนในเรื่องมาตรการด้านการป้องกันและการบำบัดรักษาจะต้องทำควบคู่กันไปด้วย ซึ่งในด้านนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบูรณาการร่วมกันหลายภาคส่วน เช่น ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข เพื่อเป็นการไม่ให้ผู้หลงผิดกลับเข้าไปเสพยาเสพติดอีก”เป็นนโยบายเข้มข้นของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มอบ พล.ต.ท.สำราญ และ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ เดินหน้าคู่ขนานทั้งปราบปรามยาเสพติดเด็ดขาด บช.ปส. กวาดล้างยึดทรัพย์สิน “นายทุน” ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่ายยานรกการค้นหาผู้เสพในชุมชนนำเข้ามาสู่การบำบัดรักษาเพื่อไม่ให้กลับเข้ามาเสพยาเสพติดอีกเป้าหมายตัดวงจร “ยานรก” ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม