Sunday, 22 December 2024

“ธรรมนัส-อนุชา” ลุยแก้ภัยแล้งคนชัยนาท เล็งสร้างอาคารบังคับน้ำ จัดการน้ำ

๒ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ ฟังเสียงสะท้อนชาวนาชัยนาท ลุยแก้ภัยแล้ง เล็งสร้างอาคารบังคับน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ํา เพิ่มน้ำต้นทุน ช่วยพื้นที่เกษตรกว่า ๑ หมื่นไร่ วันที่ ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๗ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดชัยนาท ซึ่งประสบปัญหาแหล่งน้ำในพื้นที่การเพาะปลูกข้าวไม่เพียงพอ ณ หนองชะโด ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยมี นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยนาท เขต ๒ นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และเกษตรกรชาวนา เข้าร่วมรมว.เกษตรฯ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาของเกษตรกรผู้ทํานาในพื้นที่ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอสรรคบุรี และอำเภอสรรพยา โดยตําบลห้วยกรด ตําบลห้วยกรดพัฒนา ตําบลเที่ยงแท้ อําเภอสรรคบุรี ตําบลบางหลวง ตําบลสรรพยา ตําบลตลุก อําเภอสรรพยา ได้รับความเดือดร้อนในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ําไม่เพียงพอต่อการเกษตร จึงต้องอาศัยน้ําจากแหล่งน้ําธรรมชาติ บ่อบาดาล และในช่วงฤดูน้ําหลากจะมีการระบายน้ําในที่ลุ่มต่ำ ทําให้ดึงน้ําในที่ดอนไปด้วย ซึ่งเป็นปัญหาในการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน จึงได้มีแนวทางช่วยเหลือ โดยเห็นชอบให้เร่งดำเนินการก่อสร้าง ๓ จุด วงเงินงบประมาณ ๔๐ ล้านบาท โดยใช้งบเหลือจ่าย ปี ๒๕๖๗ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ําช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ดังนี้ จุดที่ ๑ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ํากลางคลองระบาย (คลองทิ้งน้ําหนองชะโด) วงเงินงบประมาณ ๒๐ ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ ๔,๐๐๐ ไร่ เพื่อให้ราษฎรที่อาศัยในบริเวณโครงการและใกล้เคียงมีน้ําอุปโภค-บริโภคทําการเกษตร จุดที่ ๒ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ําคลองระบาย (หนองน้ําร้อน) วงเงินงบประมาณ ๑๐ ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ ๓,๘๐๐ ไร่ ๒๐๐ ครัวเรือน จุดที่ ๓ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำคลองระบาย (คลองทิ้งน้ําทุ่งหนองบัว) วงเงินงบประมาณ ๑๐ ล้านบาท (อยู่ในแผนงบกลางภัยแล้ง ๖๗) พื้นที่รับประโยชน์ ๔,๘๐๐ ไร่ ๒๕๐ ครัวเรือน  สำหรับโครงการอื่นๆ ที่กลุ่มเกษตรกรได้นำเสนอ เช่น ขุดลอกคลองท่าหมาดอนงู การจัดทําโครงการบ่อบาดาลโซลาร์เซลล์ เพื่อเติมน้ําในสระไว้ใช้ในฤดูแล้ง การขุดลอกคลองลําน้ําบ้านหนองนั้น ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และให้เร่งนำเข้าแผนของบประมาณปี ๒๕๖๘ ต่อไป “ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการฯ ที่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาจังหวัดชัยนาท และได้ลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนาโดยตรง โดยโครงการต่างๆ ที่กลุ่มเกษตรกรได้นำเสนอนั้น ทำให้เกษตรกรทำนาในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี และอำเภอสรรพยา พื้นที่กว่า ๑๐,๐๐๐ ไร่ ได้มีน้ำทำการเกษตรอย่างทั่วถึงและเพียงพอ เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกร เกษตรกรมีต้นทุนการทำนาลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนทำให้เกษตรกรสามารถพัฒนาต่อยอดจากแหล่งน้ำเป็นการท่องเที่ยว ทำให้มีรายได้เพิ่มนอกจากการทำนาได้อีกด้วย ทั้งนี้ ผมในฐานะกำกับดูแลกรมการข้าว พร้อมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่ รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ได้เน้นย้ำ และจะเร่งหาแนวทางที่หลากหลายมิติ เพื่อนำพาพี่น้องเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” รัฐมนตรีช่วยว่าการอนุชา กล่าวย้ำ