ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว “ตะวัน-แฟรงค์” ในคดีมาตรา ๑๑๖ บีบแตรขบวนเสด็จ ชี้ อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ใกล้ชิด ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงยกคำร้องวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ผู้ต้องหาคดีบีบแตรป่วนขบวนเสด็จฯ โดยล่าสุดเมื่อเวลา ๑๓.๕๐ น. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวทั้งคู่อีกครั้ง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ศาลระบุว่าวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เป็นวันครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองครั้งที่ ๒ เพื่อให้การสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเป็นไปด้วยความรอบคอบ สมควรฟังความเห็นของพนักงานสอบสวนประกอบด้วย และให้ผู้ร้องนำเอกสารใบรับรองแพทย์มาแสดงเพิ่มเติม (ถ้ามี)สำหรับ น.ส.ทานตะวัน และ นายณัฐนนท์ ถูกคุมขังในคดีมาตรา ๑๑๖ จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทั้งคู่อดน้ำ-อาหาร เข้าวันที่ ๑๒ แล้ว และมีข้อมูลจากการเข้าเยี่ยมทราบว่า อาการของ น.ส.ทานตะวัน แย่มาก แทบไม่มีเสียงพูด ขณะที่อาการของ นายณัฐนนท์ ก็แย่มากเช่นกัน โดยจากวันนี้ทั้งคู่จะถูกฝากขังผัดที่ ๒ ถึงวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๗ทางด้านผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศาลพิเคราะห์คำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง ประกอบความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตรวจรักษา น.ส.ทานตะวัน ผู้ต้องหาที่ ๑ พบว่าเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ด้วยภาวะทุพโภชนาการ และระดับเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ ผู้ป่วยปฏิเสธการให้สารน้ำและยาทางหลอดเลือดดำ เห็นสมควรเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ถึงปัจจุบัน ให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและเกลือแร่อย่างเพียงพอ และตรวจติดตามสังเกตอาการและตรวจติดตามผลเลือดเป็นระยะต่อไป ส่วนแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งตรวจร่างกายของ นายณัฐนนท์ ผู้ต้องหาที่ ๒ มีความเห็นว่า ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เข้ารับการรักษาตัวในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชายชั้น ๖ ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ด้วยอาการปวดท้อง อ่อนเพลีย ๓ วัน เนื่องจากอดอาหารจากความประสงค์ของผู้ป่วยเอง (สอบถามสาเหตุเป็นอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ใช่จากอาการทางจิต) แพทย์เห็นว่าปัจจุบันยังนอนพักภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสังเกตอาการใกล้ชิด ผู้ป่วยปฏิเสธการรับยา ปฏิเสธรับสารน้ำทางหลอดเลือด ปฏิเสธการรักษาทางการฉีดยาน้ำเกลือศาลเห็นว่า ศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองโดยระบุเหตุผลไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนกรณีอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องหาทั้งสอง ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์โดยใกล้ชิดแล้ว กรณียังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง ยกคำร้อง.
