“เศรษฐา” ลงพื้นที่ตรวจบ้านพักทหารเรือ ซ.อรุณอมรินทร์ ๓๕ เร่งสร้างใหม่ มุ่งยกระดับความเป็นอยู่ทหารชั้นผู้น้อย ด้าน ผบ.ทร. ขอบคุณ เผย ทหารดีใจ นายกฯ เห็นความสำคัญวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจบ้านพักข้าราชการทหารเรือ ภายในซอยอรุณอมรินทร์ ๓๕ โดยมี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.ร.อ.โกวิทย์ อินทร์พรหม ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบ้านพักข้าราชการในกองทัพเรือ (กบพ.) พล.ร.ต.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายแผน กบพ. ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามและพูดคุยถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวกำลังพล โดยระบุว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขณะที่ครอบครัวของกำพลกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ขอทำให้สำเร็จก่อน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำกับ ผบ.ทร. ว่า หากจะเร่งดำเนินการปรับปรุงบ้านพักข้าราชการชั้นประทวนก่อนชั้นสัญญาบัตรจะเป็นอะไรหรือไม่ โดยจะใช้โมเดลการสร้างแนวสูงก่อน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลงทุนต้องต่ำที่สุด อาจจะเป็นการก่อสร้าง ๑-๒ ตึก จากนั้น นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า การปรับปรุงพัฒนาบ้านพักทหารถือเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ไปบ้านพักตำรวจ ทหารบก และจะต้องไปให้ครบทุกเหล่าทัพ เพื่อดูความเป็นอยู่ของตำรวจและทหารชั้นประทวน ซึ่งจากสภาพที่เห็นมีความน่าเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ความแออัด เนื่องจากมีสภาพเก่าหลาย ๑๐ ปี ฉะนั้น เป็นนโยบายที่พยายามแก้ไข และจากการตรวจเยี่ยมในวันนี้ ที่เป็นบ้านชั้นเดียวอาจจะมีการพัฒนาให้เป็นตึกเท่าที่สามารถทำได้ โดยจะทำให้ก่อน เพราะ ผบ.ทร. รายงานว่าตรงจุดนี้เป็นพื้นที่ที่มีความต้องการสูง เนื่องจากอยู่ใจกลางเมือง นอกจากนั้น จะมีการทำจุดอื่นคู่ขนานไปด้วย อาทิ ป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะทยอยทำ สำหรับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นประทวนเป็นเรื่องที่สำคัญ รัฐบาลเองต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทุกกลุ่ม เพราะเขาเป็นรั้วของชาติ ทั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนทราบว่าเมื่อสมัครใจเกณฑ์ทหารแล้ว ทุกกองทัพจะดูแลเป็นอย่างดี นี่เป็นนโยบายหลักและจะทยอยทำให้อย่างต่อเนื่อง โดยจะบรรจุในงบประมาณทุกปี ส่วนจะใช้ระยะเวลากี่ปีนั้นค่อยมาว่ากัน จะต้องขึ้นอยู่กับกำลังพลและกำลังเงินด้วย โดยผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพเห็นด้วยว่าจะต้องดำเนินการ นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า บ้านพักของข้าราชการทุกเหล่าทัพเก่าหมด จากการลงพื้นที่ตรวจที่ จ.กาญจนบุรี พบว่าเก่า สภาพไม่แตกต่างจากพื้นที่นี้ หรือแย่กว่านี้ เพราะก่อสร้างตั้งแต่ปี ๒๕๐๕ ส่วนระยะเวลาการก่อสร้างจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยส่วนงบประมาณในการดำเนินการ หากทันในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ จะเร่งดำเนินการให้ แต่หากไม่ทันงบประมาณปกติก็จะใช้งบกลางแทน เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยตนอยากจะให้มีแม่แบบในเรื่องการสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น ๑ ห้องนอน ๒ ห้องนอน หรือ ๓ ห้องนอน ในทุกเหล่าทัพ รวมถึงตำรวจด้วย จากนั้นจะได้มีต้นแบบในการดำเนินการได้เร็ว โดยจะเร่งปรับปรุงเพื่อให้ความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นประทวนดีขึ้น ไม่ต้องใช้งบประมาณที่มาก อาทิ การมีจุดชาร์จรถ EV สร้างห้องสันทนาการ ห้องออกกำลังกาย เป็นต้น ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพัฒนาบ้านพักครูและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า “เดี๋ยวจะมีการทยอยไปดูตามความจำเป็น เพราะต้องได้รับความทั่วถึง ส่วนบ้านพักของเหล่าทัพอื่นๆ จะมีการลงพื้นที่หลังจากนี้ แต่ไม่ใช่วันนี้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมหารือวงปิดกับประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย”ในส่วนของการกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการติดตาม ทราบว่าลงไปดำเนินกู้ชิ้นส่วนเรือหลวงสุโขทัย และสามารถนำป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาได้แล้ว ทางด้าน พล.ร.อ.อะดุง เปิดเผยว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ลงมาตรวจเยี่ยมบ้านพักข้าราชการทหารเรือ โดยจุดแรกการพัฒนาบ้านพักของทหารเรือจะดำเนินการบริเวณในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนรูปแบบจะพยายามสร้างให้มีจำนวนชั้นสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ และข้าราชการชั้นประทวนทุกคนดีใจที่นายกรัฐมนตรีเห็นความสำคัญกับชั้นผู้น้อยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบ้านพักข้าราชการกองทัพเรือที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ครั้งนี้ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ อายุ ๕๖ ปี มีจำนวน ๑๕ หลัง มีผู้พักอาศัยประมาณ ๕๐ คน โดยเป็นบ้านพักของหน่วยกรมพลาธิการทหารเรือและกองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ.
กำลังพลขอบคุณนายกฯ ตรวจเยี่ยมบ้านพัก ทร. เร่งสร้างใหม่ให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น
Related posts