รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศแผนเพิ่มโควตานักศึกษาแพทย์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๒๐๐๖ สำหรับโรงเรียนแพทย์กว่า ๔๐ แห่งทั่วประเทศ โดยจะรับเพิ่มอีกปีละ ๒,๐๐๐ คน เป็น ๕,๐๐๐ คน ภายในปีการศึกษาหน้า และจะเพิ่มอีก ๑๐,๐๐๐ คน ภายในปี ๒๐๓๕ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์สังคมสูงวัย ที่อัตราการเกิดต่ำสวนทางกับตัวเลขผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แพทย์เกาหลีใต้เกือบ ๑๐,๐๐๐ คนออกมาประท้วงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ ๒ ขณะที่แพทย์ฝึกหัดกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศยื่นจดหมายลาออก ประท้วงแผนเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์ของรัฐบาล ขณะที่สมาคมแพทย์เกาหลีมองว่าความพยายามแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่ตรงจุด และอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆขณะที่คนทั่วไปกลับเห็นด้วยกับแผนปฏิรูปของรัฐบาล และไม่เห็นด้วยกับการออกมาประท้วง โดยการสำรวจพบว่าชาวเกาหลีใต้ประมาณ ๗๕% สนับสนุนการผลักดันของรัฐบาลในการฝึกอบรมแพทย์มากขึ้น หลายคนวิจารณ์ว่าแพทย์ส่วนใหญ่กังวลว่ารายได้ของพวกเขาจะลดลงหากมีแพทย์มากขึ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แพทย์เกาหลีใต้ออกมาประท้วงอีกครั้ง เพื่อแสดงพลังต่อต้านแผนการของรัฐบาลที่จะรับสมัครนักศึกษาแพทย์เพิ่ม โดยพากันเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมตะโกนว่าการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการรักษาพยาบาล และการศึกษาแพทย์ในเกาหลีใต้ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้เตือนแพทย์ที่นัดหยุดงานหลายพันคนให้กลับไปทำงานทันที ไม่เช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากการหยุดงานประท้วงร่วมกันส่งผลให้การผ่าตัดต้องถูกยกเลิก และทำให้การดำเนินงานของโรงพยาบาลอื่นๆ หยุดชะงัก ทำไมแพทย์เกาหลีใต้ออกมาประท้วงประเด็นสำคัญของข้อพิพาทที่นำมาสู่การประท้วงครั้งนี้คือ การประกาศของรัฐบาลภายใต้การนำของ ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล เมื่อเร็วๆ นี้ว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ จะรับนักศึกษาแพทย์เพิ่ม ๒,๐๐๐ คน ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จากปัจจุบัน ๓,๐๕๘ คน รัฐบาลกล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะเพิ่มแพทย์ให้ได้ ๑๐,๐๐๐ คน ภายในปี ๒๕๗๘ เพื่อจัดการกับสิ่งที่เรียกว่าการขาดแคลนแพทย์ซึ่งรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหากทำได้จริงจะถือเป็นการเพิ่มโควตานักศึกษาแพทย์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๒๐๐๖แพทย์หลายคนปฏิเสธแผนของรัฐบาล โดยกล่าวว่าโรงเรียนจะไม่สามารถรองรับนักเรียนใหม่จำนวนมากได้ และเงินทุนมีความจำเป็นเร่งด่วนมากขึ้นในการขึ้นค่ารักษาพยาบาลคิม แทกวู หัวหน้าคณะกรรมการฉุกเฉิน ระบุว่า เป้าหมายการประท้วงครั้งนี้คือการทำให้รัฐบาลตระหนักว่านี่เป็นนโยบายที่ผิด และกระตุ้นให้พวกเขาเริ่มการเจรจาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนแพทย์ต่อผู้ป่วยของเกาหลีใต้อยู่ในกลุ่มที่ต่ำที่สุดในโลกที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาชีพที่จำเป็นแต่ได้รับค่าจ้างต่ำ เช่น แผนกกุมารเวชศาสตร์ และแผนกฉุกเฉิน และในพื้นที่ชนบท โดยสถิติระบุว่า ประชากร ๕๒ ล้านคนของเกาหลีใต้ มีแพทย์ ๒.๖ คนต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน ในปี ๒๕๖๕ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ ๓.๗ มากสำหรับแพทย์ในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)นักศึกษาฝึกงานด้านการแพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน กล่าวว่า พวกเขาได้รับค่าจ้างน้อยเกินไป และทำงานหนักเกินไป โดยผู้ประท้วงกล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องจัดการกับสภาพการทำงาน และค่าจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสำคัญๆ เช่น กุมารเวชศาสตร์ และเวชศาสตร์ฉุกเฉินแพทย์ และกลุ่มนักศึกษาแพทย์บางกลุ่ม กล่าวว่า มีแพทย์เพียงพอแล้ว และการเพิ่มจำนวนอาจนำไปสู่ขั้นตอนทางการแพทย์ที่ไม่จำเป็น และบ่อนทำลายการเงินของแผนประกันสุขภาพแห่งชาติโดยทั่วไปผู้เข้ารับการฝึกอบรมทำงาน ๘๐-๑๐๐ ชั่วโมง โดยเฉลี่ย ๕ วันต่อสัปดาห์ หรือมากถึง ๒๐ ชั่วโมงต่อวัน เงื่อนไขที่พวกเขากล่าวว่าจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยการจ้างแพทย์อาวุโสมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์ ทางด้าน นายจอง ฮยองจุน แพทย์ และผู้อำนวยการนโยบายของกลุ่มสนับสนุนด้านสาธารณสุขของสหพันธ์กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการแพทย์แห่งเกาหลี กล่าวว่า แพทย์อายุน้อยต่างยังกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์ เพราะมันจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้นในภาคส่วนที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว นายพัค ดัน หัวหน้าสมาคมแพทย์ประจำบ้านในเกาหลี โพสต์เฟซบุ๊กหลังจากยื่นใบลาออกที่โรงพยาบาลเซเวแรนส์ ในกรุงโซล โดยระบุว่า เนื่องจากนโยบายที่ผิดพลาดซึ่งเพิกเฉยต่อความเป็นจริง ทำให้เขาต้องพับความฝันที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในแผนกฉุกเฉิน ด้านกุมารแพทย์ได้โดยไม่ต้องเสียใจเลยโดยเฉลี่ยแล้วแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของเกาหลีใต้เป็นกลุ่มที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ ๑๙๒,๗๔๙ ดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๓ ตามข้อมูลของ OECD ขณะที่กุมารแพทย์ได้รับค่าจ้างต่ำที่สุด ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมถึง ๕๗% ส่วนศัลยแพทย์ และแพทย์ผิวหนังในภาคเอกชน มักจะได้รับค่าตอบแทนดีกว่า ประเมินผลกระทบจากการประท้วงกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า มีแพทย์ ๗,๘๑๓ คนแล้วที่ยื่นใบลาออกจากงานนับตั้งแต่การประท้วงเริ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีแพทย์ฝึกหัดรุ่นใหม่อีกจำนวนมากขึ้นที่จะพากันลาออกตาม โดยที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์อาซัน ในกรุงโซล ติดป้ายระบุว่า หน่วยฉุกเฉินของทางโรงพยาบาลสามารถรับมือได้เฉพาะกรณีภาวะหัวใจหยุดเต้นเท่านั้นตามรายงานของรัฐบาลระบุว่า แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอีก ๔ แห่งก็อยู่ในการ “เตือนภัยระดับสีแดง” เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าเตียงกำลังจะหมดหนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ รายงานอ้างคำเปิดเผยของน้องชายผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่งที่ระบุว่า เขาใช้เวลากว่า ๑๐ ชั่วโมงในการติดต่อหาเตียงโรงพยาบาล และนับว่าเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมากที่การนัดหยุดงานของแพทย์ประจำบ้านส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่รอการรักษา นายพัค มินซู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากสาธารณชน ๓๔ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการหยุดงานประท้วงครั้งนี้ โดยโรงพยาบาลปฏิเสธที่จะรักษาผู้ป่วย และยกเลิกการรักษาพยาบาลตามแผน พร้อมกันนี้ได้กล่าวเชิญชวนแพทย์ฝึกหัดให้กลับมารักษาคนไข้ และบอกว่าการกระทำที่เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ป่วยในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องไม่ทำ และไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เมื่อถูกแพทย์คัดค้าน รัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไปรัฐบาลระบุว่า เปิดกว้างสำหรับการเจรจา และยินดีรับข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแผน ขณะเดียวกันก็สั่งการให้โรงพยาบาลทหาร และโรงพยาบาลตำรวจทั่วประเทศรับผู้ป่วยพลเรือน หลังประเมินว่าความรุนแรงของการเผชิญหน้าครั้งนี้ และการหยุดชะงักของบริการทางการแพทย์อาจกินเวลานานถึงหนึ่งปีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้ผู้ประท้วงให้ความสำคัญกับผู้ป่วย และขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์คำนึงถึงหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพ และชีวิตของประชาชน ทางด้าน นายลี ซังมิน รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัย กล่าวตอบโต้แกนนำการประท้วง โดยระบุว่า จะดำเนินการอาจจับกุมผู้ที่ออกมาประท้วง โดยระบุว่า สำนักงานตำรวจและอัยการ จะปรึกษาหารือ และใช้มาตรการกับกลุ่ม หรือบุคคลที่เป็นผู้นำการดำเนินการร่วมกัน รวมถึงการจับกุม และการสอบสวนขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อกซู ออกมากล่าวอ้อนวอนแพทย์ไม่ให้เอาชีวิตผู้คนและสุขภาพของประชาชนเป็นตัวประกัน พร้อมออกคำสั่งให้มีมาตรการฉุกเฉิน เช่น การใช้การแพทย์ทางไกล การดำเนินการเพิ่มเติมในโรงพยาบาลของรัฐ และการเปิดคลินิกทหารรักษาพลเรือน ประชาชนทั่วไปมองอย่างไรการประท้วงของแพทย์ดูเหมือนจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนมากนัก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผลสำรวจของ Gallup Korea เปิดเผยว่า ชาวเกาหลีใต้ประมาณ ๗๖% สนับสนุนการผลักดันแผนปฏิรูปของรัฐบาลในการเพิ่มแพทย์ฝึกอบรมมากขึ้นก่อนหน้านี้หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การคัดค้านแผนเพิ่มนักศึกษาแพทย์อาจเกิดจากความกังวลว่าหากมีแพทย์เพิ่มขึ้นก็จะทำให้การแข่งขันในการทำงานสูงขึ้น แต่รายได้ลดลง โดยโรงพยาบาลในเกาหลีใต้เป็นโรงพยาบาลเอกชนมากกว่า ๙๐% ซึ่งต่างจากหลายประเทศที่มีโรงพยาบาลรัฐจำนวนมาก ทำให้การมีแพทย์เพิ่มขึ้นเท่ากับมีคนช่วยแบ่งเบาภาระงานเพิ่มมากขึ้นโดยผลสำรวจความเห็นชาวเกาหลีใต้ ๓ ใน ๔ สนับสนุนแผนของรัฐบาล เช่นเดียวกับนางซอ ฮงซุน แม่บ้านวัย ๗๔ ปี ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล กล่าวว่า หลายฝ่ายมองว่าแพทย์ฝึกหัดกำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และประชาชนต่างหวังว่าพวกเขาจะคิดถึงการทำหน้าที่ของตัวเองมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว.
