Thursday, 19 December 2024

ป.ป.ช.ตรัง ชี้มูลความผิด "กิจ หลีกภัย" พร้อมพวก ซื้อที่ดินแพงเกินจริง

28 Feb 2024
126

ป.ป.ช. ตรัง มีมติชี้มูลความผิด “กิจ หลีกภัย” พี่ชายนายกฯ ชวน อดีตนายก อบจ.ตรัง กับพวก จัดซื้อที่ดินสร้างท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ ราคาสูงเกินจริง ๑๐ ล้าน ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน คำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว เมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. วันที่ ๒๗ ก.พ. ๖๗ ที่ศาลากลาง จ.ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษฯ และนายกฤษณะ สุขอนันต์ พนักงานไต่สวนระดับสูง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีการชี้มูลความผิดตามที่ ป.ป.ช.ตรัง ได้รับเรื่องร้องเรียน กล่าวหา กล่าวหา นายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง กับพวก รวม ๑๓ ราย ว่าจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ (ท่าเรือตรัง) ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง มีราคาสูงเกินจริง จากการไต่สวนข้อเท็จจริงในการจัดซื้อที่ดินดังกล่าว พบว่าในการจัดซื้อที่ดิน ครั้งที่ ๑ นายกิจ ได้ขออนุมัติต่อสภาอบจ.ตรัง เพื่อจ่ายขาดเงินสะสม เป็นเงินจำนวน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อจัดซื้อที่ดินก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ โดยชี้แจงต่อสภาฯ ว่าจะซื้อที่ดินจากนายปรีชา เศรษฐวรพันธุ์ หรือโกแคง รวมเนื้อที่ จำนวน ๗๕ ไร่ โดยมีการต่อรองราคากับ นายปรีชา แล้วในราคาไร่ละประมาณ ๓๓๐,๐๐๐ บาท โดยสภา อบจ.ตรัง จึงเห็นชอบอนุมัติให้จ่ายขาดเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙ จำนวน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากการไต่สวนเบื้องต้น ในการจัดซื้อครั้งที่ ๑ ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าเจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป ต่อมาในการจัดซื้อ ครั้งที่ ๒ เป็นการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือของ อบจ.ตรัง นายกิจ หลีกภัย ในฐานะนายก อบจ.ตรัง ได้อนุมัติและเบิกจ่ายเงิน เป็นเงินจำนวน ๑๐,๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่ สภา อบจ.ตรัง ได้อนุมัติกระทั่งต่อมา นางปริปัญญา เอียดแก้ว หรือ นางสดใส แซ่อั้ง เจ้าหน้าที่พัสดุฯ ได้ทำหนังสือ เสนอ นายก อบจ.ตรัง เพื่อตรวจสอบราคาประเมินที่ดินของนายปรีชา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.๓ ก) เลขที่ ๙๓๒ เนื้อที่ ๗ ไร่ ๗๗ ตารางวา และเลขที่ ๙๓๔ เนื้อที่ ๗ ไร่ ๒ งาน ๓๕ ตารางวา ถึงเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขากันตัง และในวันเดียวกัน นายกิจ อาศัยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ประกอบด้วย นายมณี แป้นน้อย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.ตรัง เป็นประธานกรรมการ นายวสันต์ เครือเพชร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองกิจการสภาฯ นายโรม ไชยมล ตำแหน่งนักบริหารงานนโยบายและแผน ๗ นายประยูร ช่อเส้ง ตำแหน่งประชาคม หมู่ที่ ๒ ตำบลนาเกลือ และนายอำนวย บุญฤทธิ์ ตำแหน่งประชาคม หมู่ที่ ๒ ต.นาเกลือ และเจ้าของที่ดินมาเสนอราคาต่อคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ หลังจากนั้นคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษร่วมกันพิจารณาแล้วที่ดินที่จัดซื้ออยู่ในเขตติดต่อกับที่ดินที่จะก่อสร้างท่าเรือนาเกลือของ อบจ.ตรัง เพื่อประโยชน์ของทางราชการและให้การก่อสร้างท่าเรือนาเกลือสามารถดำเนินการไปได้ตามที่กรมเจ้าท่าได้ออกแบบสำรวจ ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างท่าเรือเป็นไปอย่างถูกต้องสอดคล้องในเชิงพาณิชย์การประกอบการท่าเรือ เห็นควรให้จัดซื้อที่ดินดังกล่าวและจัดทำการซื้อที่ดินเพิ่มเติมจึงเสนอ นายกิจ เพื่อพิจารณาสั่งอนุมัติให้จัดซื้อที่ดินที่ได้เสนอขายที่ดินให้แก่ อบจ.ตรัง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๐,๒๐๑,๘๗๕ บาท ตามใบเสนอราคา โดยคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ได้ต่อรองราคากับผู้ขายและผู้ขายยินยอมลดราคาลง คงเหลือเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยพิจารณาจากราคาประเมินของสำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขากันตัง ที่แจ้งว่าจากการตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียนที่ดินแล้ว ปรากฏว่าที่ดินทั้ง ๒ แปลง ราคาแปลงที่ ๑ เนื้อที่ ๖-๐-๐๖ ไร่ ราคาประเมิน ๒๔๘,๑๐๐ บาท แปลงที่ ๒ เนื้อที่ ๗-๒-๓๕ ไร่ ราคาประเมิน ๓๒๔,๗๕๐ บาท รวมเนื้อที่ ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๔๑ ตารางวา รวม ๕๗๒,๘๕๐ บาท ราคาตามท้องตลาดประมาณ ๔ ล้านบาท  กระทั่ง นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง ได้เห็นชอบอนุมัติให้จัดซื้อที่ดินดังกล่าว เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อมาคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ที่มี นางสุภมาส ศรมณี (นั่งปลัด อบจ.ตรัง ขณะนั้น) เป็นประธานกรรมการ โดยมี นางปริปัญญา เอียดแก้ว และนางขวัญตา พุทธให้ ร่วมตรวจสอบที่ดินดังกล่าวด้วย และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีความเห็นว่า เนื้อที่ดินและเอกสารสิทธิมีความถูกต้องตรงกันเห็นควรดำเนินการทำนิติกรรมกับผู้ขายตามกฎหมายที่ดินต่อไป เสนอนายกิจ หลีกภัย ในฐานะนายก อบจ.ตรัง ได้อนุมัติให้ดำเนินการและอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินให้กับผู้ขาย เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท   โดยในการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมครั้งที่ ๒ รวมเนื้อที่ ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๔๑ ตารางวา ปรากฏว่า นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง ได้พิจารณาและอนุมัติให้จัดซื้อที่ดินดังกล่าว โดยที่นางปริปัญญา เอียดแก้ว ไม่ได้สืบหาราคาซื้อขายของที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้างใกล้เคียงบริเวณที่จะซื้อครั้งหลังสุด และคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษไม่ได้พิจารณาราคาซื้อขายของที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้างใกล้เคียงบริเวณที่จะซื้อครั้งหลังสุด ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบราคาท้องตลาดว่าเป็นราคาที่ซื้อขายในท้องตลาดที่แท้จริงหรือไม่ ไม่ตรวจสอบราคาประเมินของทางราชการว่าราคาที่ดินที่จัดซื้อมีความเหมาะสมเพียงใด เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๒๑ เป็นเหตุให้ อบจ.ตรัง ต้องซื้อที่ดินดังกล่าวสูงถึง ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงมาก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุม ครั้งที่ ๑๒๘/๒๕๖๖ มีมติว่า การกระทำของ นายกิจ หลีกภัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และมีมูลความผิด ฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๗๙ การกระทำของ นางปริปัญญา เอียดแก้ว หรือนางสดใส แซ่อั้ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๓ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง การกระทำของ นายมณี แป้นน้อย ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๔ นายวสันต์ เครือเพชร ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๕ และนายโรม ไชยมล ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๖ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง การกระทำของนายปรีชา เศรษฐวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑๑ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ ประกอบมาตรา ๘๖ สำหรับนายประยูร ช่อเส้ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๙ และนายอำนวย บุญฤทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑๐ ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายกิจ หลีกภัย นางปริปัญญา เอียดแก้ว หรือนางสดใส แซ่อั้ง นายมณี แป้นน้อย นายวสันต์ เครือเพชร นายโรม ไชยมล และนายปรีชา เศรษฐวรพันธุ์ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย กับนางปริปัญญา เอียดแก้ว หรือนางสดใส แซ่อั้ง นายมณี แป้นน้อย นายวสันต์ เครือเพชร นายโรม ไชยมล นายเสงี่ยม จันทร์สุวรรณ และนายธีรนันท์ สุทธินันท์ และได้ส่งสำนวนการไต่สวน และเอกสารหลักฐานพร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ กับนายกิจ หลีกภัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๙๑ (๑) (๒) และมาตรา ๙๘ แล้วแต่กรณีต่อไป ทั้งนี้ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย อย่างไรก็ตามการไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด สำหรับนายกิจ หลีกภัย ปัจจุบันอายุ ๘๙ ปี เป็นพี่ชายของนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกิจนั้น ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง มายาวนานถึง ๒๕ ปี หรือกว่า ๕ สมัย ต่อมามีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ มาดำรงตำแหน่งต่อจนถึงปัจจุบันนี้ สำหรับท่าเรือนาเกลืออดีตเคยถูกตั้งความคาดหวังไว้ว่าจะเป็นท่าเรือน้ำลึกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง แต่ในปัจจุบันนี้มีเพียงเรือจำนวนไม่กี่ลำและกี่เที่ยวต่อปีที่ได้เข้ามาขนส่งอยู่ที่ท่าเรือแห่งนี้ ส่งผลทำให้มีรายได้เพียงแค่ไม่กี่บาท ทำให้อบจ.ตรัง ต้องแบกรับภาระในการบำรุงรักษา และดูแลจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากความตื้นเขินของท่าเรือที่เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้ามาเทียบท่าได้ ทำเลและที่ตั้งใน ต.นาเกลือ อ.กันตัง อยู่ห่างไกลและไม่เหมาะสม ประกอบกับว่าผู้บริหารที่เข้ามาดูแลท่าเรือแห่งนี้ไม่มีความชำนาญเท่าที่ควร.