“สนธิญา” ร้องศาลปกครอง สั่งเบรกแปลง ส.ป.ก.เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรในพื้นที่ทับซ้อนอุทยาน-มรดกโลก ๑๔๒ แห่งทั่วประเทศ ยืนยัน ไม่ได้คัดค้านการแจก ส.ป.ก.๔-๐๑ ไปออกโฉนดครุฑเขียว เพื่อเกษตรกรรมวันที่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่ศาลปกครองเวลา ๑๐.๓๐ น. นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นฟ้องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อศาลปกครองกลาง กรณีสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.๔-๐๑ จำนวน ๑.๖ ล้านไร่ ออกเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรให้เกษตรกรใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงินทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จึงขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวโดยสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงาน ส.ป.ก ไว้จนกว่าจะมีการพิสูจน์พื้นที่ทับซ้อนระหว่างที่ดิน ส.ป.ก.กับเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติจำนวน ๑๔๒ แห่ง และเขตพื้นที่มรดกโลก ๗ แห่งทั่วประเทศจนกว่าจะมีข้อสรุปทางกฎหมายชัดเจนต่อไป ส่วนพื้นที่ที่อยู่นอกพื้นที่ทับซ้อนก็ให้ดำเนินการไปตามนโยบายของรัฐบาลตามปกติต่อไป”ที่มาร้องผมไม่ได้คัดค้านการแจก ส.ป.ก.๔-๐๑ไปออกโฉนดครุฑเขียว เพื่อเกษตรกรรม แต่ต้องการให้กรณีทับซ้อนอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีอยู่ ๑๔๒ แห่งทั่วประเทศ หยุดไว้ก่อน แต่ในส่วนอื่นอีกประมาณ ๑.๖ ล้านไร่ รัฐบาลก็ดำเนินการไป ไม่มีปัญหา จะเป็นผืนป่าเสื่อมโทรม อย่างเช่น ที่ดินของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ประธานคณะก้าวหน้า) ที่มีอยู่ปัจจุบัน ก็เอามาแจกประชาชนได้คนละ ๕๐-๑๐๐ ไร่ ที่ต้องมาเรียกร้องเช่นนี้เพราะผมกลัว เนื่องจากเจอกับตัวเองที่นครศรีธรรมราช และมีผู้ร้องเรียนมาโดยเฉพาะที่ อ.คีรีวง ซึ่งเป็นพื้นที่โอโซนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ก็มีปัญหากันอยู่ หรือ เฉพาะที่นครราชสีมาที่เดียววันนี้ก็ทับซ้อนกันจนไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว จึงเห็นว่า ถ้าต้องการให้สะอาดหมดจดจริงๆ ในเขตอุทยานก็ต้องยุติชั่วคราวแล้วสอบกันให้ชัดเจนก่อน”
"สนธิญา" ร้องศาลปกครอง สั่งเบรก แปลง ส.ป.ก.เป็นโฉนด ทับซ้อนอุทยาน-มรดกโลก
Related posts