“วราวุธ ศิลปอาชา” ระบุ เรื่องปรับ คณะรัฐมนตรีไม่เคยอยู่ในหัว แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่กลัว พร้อมย้ำคติมียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ จะดูแลกระทรวง พม.ให้คุ้มภาษีประชาชน เผย ยังไม่ได้คิวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ”วันที่ ๒๙ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่กระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี พม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการปรับ ครม. ว่า ตนพูดอยู่เสมอว่าตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นมียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าในวันนี้เราดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอะไร เช่น ตนขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น ก็ทำงานทุกนาทีทุกวัน เหมือนพรุ่งนี้จะไม่ได้อยู่ที่กระทรวงนี้ ดังนั้นจะปรับ ครม. หรือจะอย่างไร เชื่อว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทางพรรคแกนนำก็ต้องมาพูดคุยกันเสียก่อน แต่ถ้าหากมัวกังวลว่าจะปรับ ครม. เมื่อไหร่ ก็คงไม่มีรัฐมนตรีคนไหนมีใจที่จะทำงาน ดังนั้นตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา คำว่าปรับ ครม. ไม่เคยอยู่ในหัว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่กลัว แต่เรานั่งคิดเพียงว่าเราจะใช้เวลาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นั้นให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชนที่มาจ่ายเงินเดือนให้ทุกวันนี้อย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณให้กับพรรคร่วมรัฐบาลหรือยัง นายวราวุธ กล่าวว่ายังไม่มีเมื่อถามถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุหลังพ.ร.บ.งบฯ ๖๗ ผ่าน จะมีการปรับ ครม. หรือไม่เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นผู้ประเมิน หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตรงนี้คิดว่าเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนาจะยังแข็งแรงอยู่หรือไม่ กล่าวว่า จะแข็งแรงอยู่หรือไม่ ทุกอย่างไม่มีอะไรจีรัง หากจะต้องมีการปรับก็ต้องมีการปรับ แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนาการทำงานของเรายึดเอาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นายกรัฐมนตรีและพรรคแกนนำรัฐบาลนั้นคงคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติที่จะปรับ ครม. ให้เข้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นของสังคมในขณะนี้ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ สว. ขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา ๑๕๓ ในวันที่ ๒๕ มีนาคมนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคนต้องเตรียมคำตอบที่ทาง สว. แต่ละคนมีข้อกังขา นั่นหมายความรวมถึงกระทรวง พม. ที่ตนดูแลอยู่ด้วย เชื่อตลอด ๖-๗ เดือน ที่ทำงานมาสามารถที่จะตอบคำถามของวุฒิสมาชิกหากมีข้อสงสัย ในการทำงานของกระทรวง พม. ทั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ สว. ถามคำถามที่หลายฝ่ายมีข้อกังขาอยู่ และเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลได้มีโอกาสชี้แจงว่าได้แก้ปัญหา ได้ทำอะไรไปบ้าง ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง แต่ก็เป็นโอกาสที่ให้รัฐบาลมีพื้นที่สามารถชี้แจงได้ ซึ่งในส่วนกระทรวง พม. ยินดีรับฟังคำติชมหรือข้อแก้ไขในการทำงาน เมื่อถามว่า ในฐานะหลานได้คิวขอเข้าพบคุณอาทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “ตั้งแต่วันที่นายกฯ ทักษิณกลับมาเมืองไทย ผมเคยพูดเสมอว่าพ่อบรรหารกับนายกฯ ทักษิณนั้นเป็นคนสนิทกันมาหลายสิบปี วันนี้ท่านได้กลับมาเมืองไทยและได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว ก็เป็นไปตามวิสัยปกติที่ลูกหลานคนหนึ่งควรจะเข้าไปคารวะญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้มองว่าเป็นมิติทางการเมือง ผมเองได้มีโอกาสพบปะกับท่านมาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่หากมีโอกาสจะเข้าไปสวัสดีและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีคิว”เมื่อถามว่าหลังจากที่นายทักษิณได้รับการพักโทษแล้ว ได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ก็ตั้งแต่วันที่ได้พบที่สนามบินวันนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อกันแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าหากได้พบพูดคุยขอคำแนะนำในเรื่องใด นายวราวุธ ยิ้มและกล่าวว่า “อยากถามว่าดูแลสุขภาพอย่างไร เมื่อสูงอายุไปแล้วดูแลร่างกายอย่างไรให้มีสุขภาพดี”
