Friday, 8 November 2024

“เศรษฐา” ย้ำ สร้างโอกาส-ความเจริญ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เดินหน้าแก้ปัญหาจริงจัง

“เศรษฐา” ย้ำ ลงพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งสร้างโอกาสและความเจริญ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ให้เกิดสันติภาพและความสงบสุข เผย เป็น ๓ วันที่มีคุณค่าวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้สัมภาษณ์ ณ ท่าอากาศยานเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรื่องสนามบินเบตง จะมีเที่ยวบินเชิงพาณิชย์มาบินต่ออีกหรือไม่ ว่า ต้องเป็นไปตามดีมานด์และซัพพลาย หรือมีความต้องการ ซึ่งการลงพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ เพื่อให้ที่นี่มีความเจริญและสร้างโอกาส หากภูมิภาคนี้เจริญขึ้น มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น มีศูนย์กลางการค้ามากขึ้น ก็จะทำให้สนามบินเบตงเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนสายการบินเชิงพาณิชย์จะมีการบินอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็คิดว่าเร็วๆ นี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนว่าเราสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและมีการพัฒนาเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะไปบังคับให้สายการบินมาบินก็เห็นใจ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจึงเดินทางต่อไปตรวจราชการยังจังหวัดนราธิวาส ต่อมาเวลา ๑๑.๐๐ น. นายเศรษฐา เดินทางมายัง พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (พุทธอุทยานเขากง) ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล และนมัสการ พระธรรมวัชร จริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๘ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะด้วยในโอกาสนี้ พระอธิการบุญเสริม พฺรหฺมญาโณ กล่าวอวยพรให้ นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกับนำเสนอปัญหาต่อนายกรัฐมนตรี ว่า จังหวัดนราธิวาส ยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนของชาวบ้านในพื้นที่ป่าที่เข้าไปทำมาหากิน รวมถึงปัญหาด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง และเรื่องปัญหาเขตชายแดนในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดนราธิวาสมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย แต่ยังมีปัญหาเรื่องความไม่สงบในพื้นที่ ทางด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน ตนได้พูดคุยหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และรองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนเรื่องพื้นที่ทำกินของประชาชน ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้มากและเร็วที่สุด รวมถึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องฝากให้ทางผู้บัญชาการทหารบกเข้ามาดำเนินการในเรื่องของกรมแผนที่ทหาร ต้องจัดทำแผนที่ให้เป็นอัตราส่วนเดียวกัน เพื่อไม่ให้มีการถกเถียงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนอีก ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าประมาณ ๓ สัปดาห์ จะดำเนินการเสร็จสิ้น แต่ปัญหาอยู่ที่เขาใหญ่ คือทำได้แค่ที่เขาใหญ่ที่เดียว พร้อมย้ำว่าปัญหาจะต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เรื่องของงบประมาณที่ขอเพิ่มมา ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มาเห็นศักยภาพในพื้นภาคใต้ และมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องของความสงบด้วย ถ้าหากเศรษฐกิจในพื้นที่ดีคนในพื้นที่ก็ไม่อยากจะทะเลาะกัน จะต้องก้าวต่อไปข้างหน้าจะต้องไม่จมปลักกับเรื่องเดิมๆ ในอดีต และถ้าพี่น้องประชาชนมีเงินอยู่ในกระเป๋า เรื่องของปัญหาการทะเลาะก็จะหมดสิ้น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง การยกเลิกแบบฟอร์มต่างๆ จะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นต้องเร่งทำให้ทุกด่าน โดยเฉพาะด่านตรวจชายแดนภาคใต้ ทั้งในจังหวัดสงขลา และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาดูแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองและสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับความสนใจ  ทั้งนี้ นราธิวาส เป็นจังหวัดที่ได้เปรียบเพราะมีสนามบิน มีสายการบิน บินเข้า-ออกวันละ ๒ เที่ยว เช่น สายการบินนกแอร์ และสายการบินแอร์เอเชีย หวังว่าเรื่องของสนามบินที่ปัตตานี และที่เบตง ก็จะถูกแก้ไขเหมือนกัน โดยรัฐบาลจะพยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง หากเศรษฐกิจดีเชื่อว่าจะมีสายการบินที่ต้องการบินเข้ามาในจังหวัดเพิ่มขึ้น เช่นที่เบตง และปัตตานี ยังมีสนามบินของกองทัพ เรื่องนี้พูดคุยกันแล้วว่าจะศึกษาในเรื่องของการใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ถ้าหากสามารถใช้ร่วมกันได้จะเป็นการช่วยประหยัดเงินงบประมาณและทรัพยากรของประเทศ ซึ่งมีการเรียนทางฝ่ายความมั่นคงให้นำเข้าสู่ในกระบวนการดำเนินการศึกษาต่อไป เพราะเรื่องของความมั่นคงและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจต้องดำเนินการควบคู่กันไปเรื่องของปัญหายาเสพติด นายเศรษฐา เผยว่า เป็นปัญหาใหญ่ทั้งภาคใต้และในโซนภาคอีสาน ได้ดำเนินการศึกษาและดูตัวเลขทางกรมราชทัณฑ์ของพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำนวนมาก มีการดำเนินการดูแลศึกษาเรื่องของผู้เสพให้กลายเป็นผู้ป่วยให้สามารถกลับคืนเข้าสู่ครอบครัว และมีอาชีพที่สมเกียรติสมศักดิ์ศรี“ปัญหาเรื่องของยาเสพติด หากเศรษฐกิจดีขึ้น ตัวเลขของผู้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะลดน้อยลง ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบมีตัวเลขที่สูงนั้น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และฝ่ายความมั่นคง ได้จัดทำพื้นที่ตลาดนัดแก้ไขหนี้นอกระบบ หากทำงานแล้วนำเงินมาจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก ก็ไม่พอกินพอใช้ ประชาชนก็จะหันไปประกอบอาชีพที่ทุจริต และพึ่งยาเสพติด เพื่อให้จิตใจสบายขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ฝั่งรากลึกต่อสังคมไทย รัฐบาลจะพยายามตั้งใจที่จะดำเนินการให้ดียิ่งขึ้น” จากนั้นเวลา ๑๑.๓๐ น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โดยนายกรัฐมนตรีได้แวะทักทายชาวบ้านที่สวมใส่ชุดไทยชุดพื้นบ้านรำให้การต้อนรับ และเยี่ยมชมกิจกรรม “นวัต … วัฒนธรรม” ภายใต้แนวคิด Culture, Creative and Innovation โดยอำเภอสุไหงปาดี นำการแสดงพื้นบ้าน กลองบานอ กรือโต๊ะ ซึ่งจะเป็นการละเล่นตีกลองเพื่อต้อนรับบุคคลในโอกาสสำคัญ การรำซิละ ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน รวมถึงชมผลิตภัณฑ์ของชุมชน อาทิ กระเป๋ากระฉูด กาแฟ ริต้ายี่งอ โดยใช้น้ำผึ้งชาญณรงค์ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมหารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณการต้อนรับที่ประทับใจ ซึ่งดูได้จากแววตาของประชาชนทุกคนที่มาให้การต้อนรับ มองเห็นโอกาสที่รัฐบาลนำมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานที่รัฐบาลจะพยายามทำ ไม่ว่าเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรม รวมถึงของดีๆ และอาหารภาคใต้ ที่ยังไม่ได้การมีการเผยแพร่และนำเสนอให้คนจังหวัดอื่นรู้ รวมถึงต่างประเทศยังรับรู้ไม่ทั่วถึง นายกรัฐมนตรี ระบุต่อไปว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีปัญหาเรื่องความไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตมาอย่างยาวนาน รัฐบาลชุดนี้จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องของด่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่มีปัญหาอยู่ มีการสั่งการให้เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาทันที รวมถึงเรื่องถนนทางหลวง ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว มีการหารือกันตลอด โดยจะเริ่มทำภายในสิ้นปีนี้ ในส่วนเรื่องของสนามบินขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย ถ้าเกิด ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้มีของดีๆ มีสิ่งดีๆ ตนเชื่อว่าจะเกิดดีมานด์ มีความต้องการที่จะมาลงทุนสนามบินเพิ่มมากขึ้น และยังได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงถึงการใช้สนามบินร่วมกันแล้วในช่วงท้าย นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า “หลายๆ เรื่องผมเชื่อว่ารัฐบาลเข้าใจถึงปัญหาการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐบาลนำคณะมาครบทุกกระทรวง รวมถึงฝ่ายความมั่นคง และ สส.ในพื้นที่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และได้พูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ด้วยแล้ว ถือว่าการลงพื้นที่ ๓ วันนี้ เป็น ๓ วันที่มีคุณค่า ซึ่งรัฐบาลจะมาเยี่ยมเยียนอีกในปีหน้า เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณลงมาในพื้นที่ หน้าที่ของรัฐบาลจะพยายามทำและแก้ไขปัญหาต่อไปเพื่อให้เกิดสันติภาพและความสงบสุขในระยะเวลาใกล้นี้”