“ปิยรัฐ” นำแถลงผลประชุม กมธ.ความมั่นคงฯ มีข้อเสนอแนะและข้อกังกล ๓ ข้อ กรณีถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ มุ่งสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชนวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงผลการประชุม กมธ. เรื่องการพิจารณาแนวทางการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้สมพระเกียรติ และรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อ กมธ. ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้มอบหมายตัวแทนเข้าร่วมประชุม ส่วนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล ๑ สำหรับการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เป็นไปตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีความเห็นชอบส่งเรื่องดังกล่าวมาให้ กมธ. พิจารณา เมื่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเสนอลำดับเหตุการณ์อันถูกกล่าวอ้างว่ามีกลุ่มคนพยายามก่อกวนขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ชี้ให้เห็นถึงระเบียบขั้นตอนการรับมือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการรับมือต่อเหตุการณ์ตามหลักการปฏิบัติงาน และมิได้มีส่งผลกระทบต่อพระบรมวงศานุวงศ์ หรือขบวนเสด็จแต่อย่างใดทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ชี้แจงถึงบทบาทของตนเองในการสนับสนุนภารกิจการถวายความปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยเน้นย้ำถึงหลักการใช้กำลังพลให้น้อยที่สุดในการถวายความปลอดภัยอย่างสูงสุดและสมพระเกียรติ คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชนอยู่เสมอ ซึ่งทาง กมธ. ได้มีข้อเสนอแนะและความกังวลถึงหน่วยงานในประเด็นดังต่อไปนี้ประเด็นที่ ๑ กมธ. มีความกังวลเรื่องการสื่อสารต่อสังคมถึงลำดับเหตุการณ์ ขั้นตอนการรับมือต่อเหตุการณ์ และกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย หากมีความไม่ชัดเจนจะทำให้กลายเป็นความเข้าใจผิด เกิดข้อถกเถียง ขัดแย้งกับสังคมได้ประเด็นที่ ๒ กมธ. มีข้อกังวลต่อความโปร่งใสในกระบวนการพิจารณาและกล่าวโทษในคดีที่มีความรุนแรง อย่างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ บนพื้นฐานของความยุติธรรม และหลักแห่งการได้สัดส่วนประเด็นที่ ๓ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจในแต่ละพื้นที่ ให้จัดสรรกำลังพลตามแต่สมควรในการสนับสนุนภารกิจการถวายความปลอดภัย โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนร่วมด้วยขณะเดียวกัน กมธ. มีความตั้งใจจะติดตามผลการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสาร สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานรัฐและประชาชนส่วนผลการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเรียกของคณะกรรมาธิการ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. …. ซึ่งเสนอโดย นายปิยรัฐ จงเทพ และคณะ หลังจากที่ได้นำเสนอร่างแก้ไขล่าสุดต่อ กมธ. ซึ่งทาง กมธ. ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน และทำการสอบถามความเห็นกับตัวแทนจากแต่ละพรรคการเมือง พบว่าทุกพรรคเล็งเห็นปัญหาด้านการขาดความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐในกระบวนการสืบเสาะ แสวงหาข้อเท็จจริงของ กมธ. อีกทั้งตัวแทนจากทุกพรรคพร้อมให้การสนับสนุนรับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานของ กมธ.ทุกคณะ ในการสืบเสาะ แสวงหาข้อมูลข้อเท็จจริง และนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ประชุมมีมติรับร่าง พระราชบัญญัติดังกล่าว และจะให้การสนับสนุนในการผลักดันให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป.
