ขบวนการลำเลียงยาเสพติดใช้ รถ ๖ ล้อบรรทุกผักซุกกระสอบยาบ้า ๑๐ ล้านเม็ด ขนมาจากชายแดนภาคเหนือมุ่งเข้าพื้นที่ชั้นในก่อนปล่อยต่อให้เอเย่นต์ มีรถเก๋งขับนำทางดูลาดเลา ไม่รอดโดนเจ้าหน้าที่สะกดรอยตามตั้งแต่ จ.พะเยา ก่อนจนมุมในปั๊มน้ำมันพื้นที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับรถขนยาอ้างได้ค่าจ้างเที่ยวละ ๒ แสนบาท จะมีผู้ร่วมขบวนการมารับอีกทอด แต่ไหวตัวทันเลยหลบหนีไปก่อน คาดมูลค่ายานรกลอตนี้กว่า ๕๐๐ ล้านบาทผู้สื่อข่าวรายงานการจับยาเสพติดบิ๊กลอตมูลค่ามหาศาลครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ ๑ มี.ค. ที่ สภ.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา ๒๓.๐๐ น. วันที่ ๒๙ ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย เดินทางมาตรวจสอบ หลังเจ้าหน้าที่จับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดลอตใหญ่ มีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประเดิม จิตวัฒนาภิรมย์ ผกก.สภ.บางปะหัน พร้อมชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ภาค ๑ ร่วมสอบสวนผู้ต้องหา ๒ คน ยึดรถกระบะ สีดำ ทะเบียน ฒน ๓๘๐๑ กรุงเทพมหานคร ๑ คัน รถบรรทุก ๖ ล้อ ทะเบียน ๗๐-๑๖๕๔ น่าน ๑ คัน พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน ๑๐ ล้านเม็ดจากการสอบสวนทราบว่า ยาบ้าลอตนี้ลำเลียงมาจากฝั่งเมียนมา ข้ามชายแดนเข้ามาทางรอยต่อจังหวัดภาคเหนือ มีนายธีรนันท์ บุญเรืองนาม อายุ ๔๖ ปี ชาว จ.น่าน ทำหน้าที่ขับรถกระบะนำคอยดูต้นทางและแจ้งข้อมูลให้นายจรัส อุทุมพร อายุ ๔๗ ปี ชาว จ.น่าน คนขับรถบรรทุก ๖ ล้อ ขนยาเสพติดปะปนมากับพืชผัก และสามารถผ่านด่านตรวจค้นมาได้ตลอดเส้นทาง กระทั่งมาจอดแวะพักในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจชุดจับกุมที่ได้สืบสวนขยายผลติดตามมาตั้งแต่ จ.พะเยา จนพบว่ารถยนต์ทั้งสองคันเข้าไปจอดอยู่ภายในลานจอดรถของปั๊มน้ำมัน และพยายามติดต่อผู้ร่วมขบวนการให้มารับของ แต่ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม ยึดยาบ้าได้จำนวน ๑๐ ล้านเม็ด รวมมูลค่ายาเสพติดประมาณ ๕๐๐ ล้านบาทนายธีรนันท์ ผู้ต้องหาที่ขับรถนำทางให้การอ้างว่า ได้ค่าจ้าง ๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนนายจรัส คนขับรถบรรทุกยาเสพติดได้ค้าจ้าง ๒๐๐,๐๐๐ บาทในการขนยาบ้าลอตนี้ ค่าจ้างขนยาบ้าจะได้รับเงินเมื่อยาบ้าถึงเป้าหมายแล้ว เมื่อรถยนต์ทั้ง ๒ คัน มาถึงปั๊มน้ำมันดังกล่าว จะมีขบวนการมารับรถที่บรรทุกยาบ้าไปอีกทอดหนึ่ง แต่คนในขบวนการเกิดไหวตัวทันรู้ว่ามีตำรวจซุ่มรอจับกุมเลยหลบหนีไปก่อน เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง ๒ คนส่งให้ บช.ปส.ขยายผลต่อไปที่ จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ จากกระสอบปุ๋ยบรรจุยาเสพติด หลังเมื่อเช้าวันที่ ๒๙ ก.พ. ตำรวจ สภ.คำตากล้า จ.สกลนคร รับแจ้งมีชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัย วางริมถนนสายบ้านบ่อคำ-บ้านหนองบก หลังวัดป่าแก้ววงศาวาส หมู่ ๑๑ ต.คำตากล้า ชุดสายตรวจ สืบสวน และพนักงานสอบสวน ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบกระสอบปุ๋ยสีแดงวางทิ้งริมถนน ห่างไปราว ๑๐๐ เมตร พบกระสอบปุ๋ยสีน้ำตาล วางทิ้งริมถนนเช่นกัน ชาวบ้านบอกว่ากลางดึกได้ยินเสียงสุนัขเห่าผิดปกติ แต่ไม่ได้ออกมาดู ช่วงเช้าชาวบ้านขับรถผ่านไปมาพบเห็น รีบแจ้งเจ้าหน้าที่มายึดกระสอบทั้ง ๒ ใบไปตรวจสอบ ในกระสอบสีแดง มียาบ้า ๑๙ ห่อ ประมาณ ๒๙๒,๐๐๐ เม็ด ส่วนกระสอบสีน้ำตาล มียาบ้า ๓๑ ห่อ ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ เม็ด แต่ละห่อมีหมายเลขกำกับและมีชื่อสถานที่เขียนภาษาลาว คาดหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่แล้วนำโยนทิ้งทำลายหลักฐาน เร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ส่วนที่กองบังคับการตํารวจจราจร เมื่อเวลา ๑๒.๓๐ น. พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. พ.ต.อ.ณัทศิต สัณห์ปภพ ผกก.๕ บก.จร. พ.ต.ท.ธราธิป ดิษฐ์ศิริ รอง ผกก.๕ บก.จร.และ พ.ต.ท.ปฏิภาน ยืนทนต์ สว.งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.๕ บก.จร. พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายปรีชา พิมพ์เสงี่ยม อายุ ๓๓ ปี ชาว จ.เพชรบุรี ของกลางยาบ้า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เม็ด รถเก๋ง MG สีแดง ทะเบียน กน ๕๔๒๓ เพชรบุรีสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น.วันที่ ๒๙ ก.พ. เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมของ กก.๕ บก.จร. ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และป้องกันอาชญากรรมอยู่บริเวณถนนพระราม ๒ ฝั่งขาออกเพื่อกวดขันป้องกันปราบปรามคนขับรถขณะเมาสุรา และเป็นการป้องกันอาชญากรรมอื่นๆในทางเดินรถ พบรถเก๋ง สีแดง ทะเบียน กน ๕๔๒๓ เพชรบุรี ขับผ่านมายังจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ กก.๕ บก.จร. เจ้าหน้าที่ตํารวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่สังเกตเห็น ผู้ขับขี่มีท่าทางพิรุธต้องสงสัย เรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น และเชิญให้นายปรีชาลงจากรถ ขณะเตรียมตรวจค้นรถ นายปรีชาได้วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจวิ่งติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ห่างจากจุดตรวจ ๕๐๐ เมตร จากการตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ผลการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เม็ด ถูกใส่อยู่ในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะหลังและกระโปรงท้าย จึงยึดไว้เป็นของกลางสอบสวนนายปรีชารับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาก่อนถูกจับกุม เป็นผู้รับจ้างขนยาเสพติด เช่ารถจาก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ขับไปรับยาบ้ามาจากช่วงต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปส่งต่อให้กับผู้ค้าในพื้นที่ภาคใต้ ได้ค่าจ้างครั้งละ ๖,๐๐๐ บาท ทำมาแล้วหลายครั้ง ตรวจสอบประวัติพบประวัติต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ที่ จ.เพชรบุรี เมื่อปี ๕๔ คุมตัวส่ง สถานีตำรวจนครบาลบางมด เพื่อดำเนินคดีและขยายผลต่ออ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
