“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ไม่กังวล หากสภาฯ จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่มองยังเร็วไป ขอให้รองบฯ ออกก่อน แล้วดูการบริหารงานค่อยว่ากัน ออกตัวเห็นว่าไม่สมควร หากจะพาดพิงไปถึง “ทักษิณ” เพราะเป็นคนนอกวันที่ ๒ มี.ค. ๒๕๖๗ ที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายรัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ เดือน เมษายนว่า สภาฯ มีหน้าที่ออกกฎหมายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลผ่านการตั้งกระทู้ถาม และตามมาตรา ๑๕๒ เป็นการแนะนำไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นอภิปรายประเด็นที่ยังไม่เข้าใจ รวมถึงมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ ดังนั้นสามารถทำได้ตลอดหากอยากจะมีส่วนช่วยในการบริหารประเทศให้เข้าใจได้มากขึ้น หรือหากรัฐบาลอธิบายยังไม่เคลียร์ก็สามารถถามต่อจนเกิดความเข้าใจได้ การอภิปรายตามมาตรา ๑๕๒ ไม่มีปัญหา แต่ตามมาตรา ๑๕๑ ที่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยู่ที่ดุลยพินิจของแต่ละคน ฝ่ายค้านอาจจะมองว่าถึงเวลาต้องอภิปรายฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ไป แต่ถามว่ากังวลหรือไม่ เราไม่กังวล เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำ ทำมากับมือ ทำด้วยเจตนาดี ทำด้วยการอยากจะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และทำให้ตรงกับนโยบายที่ได้เสนอไว้ต่อสภาฯ ยืนยันเราชี้แจงได้ รัฐมนตรีไม่มีปัญหาสามารถตอบทุกโจทย์ได้และสามารถที่จะรับฟังข้อเสนอแนะเอามาใช้ประโยชน์ในการบริหารประเทศ แต่อยากให้ลดประเด็นทางการเมืองให้น้อยลง เพราะประเทศต้องเดินหน้า อย่างไรก็ตามมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องรอให้ได้ทำงานก่อน และรอให้งบประมาณออกมาก่อน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนให้เต็มที่ จากนั้นอีก ๖ เดือนมาดูว่าผลงาน สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่พิจารณาได้ นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า หากฝ่ายค้านยืนยันจะอภิปรายมาตรา ๑๕๑ ก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าอะไรที่ไม่เข้าใจรัฐบาลจะได้ชี้แจง ขออย่างเดียว อย่าใช้เวทีนี้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองหรือพยายามจะดิสเครดิต อันนี้ไม่เห็นด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าแม้กระทั่งฝ่ายค้านบางคนก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้นขอให้รู้ว่าเราใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามหลักการที่ควรจะเป็น คือตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล มีปัญหาเสนอแนะ ถ้าหากมีการทุจริตคอร์รัปชันทำผิดกติกาก็สามารถอภิปรายได้เลย เสนอความเห็นได้เลยว่าควรจะทำอย่างไร เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่สมควรที่จะนำคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรหลีกเลี่ยงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือความอคติส่วนตัว ควรทำการเมืองแบบใหม่ ไม่นำเรื่องแบบนี้มาดิสเครดิตกันทางการเมือง ตนว่าเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณธรรม และฝ่ายค้านที่ทำงานเชิงสร้างสรรค์ อะไรที่รัฐบาลทำดีก็ขอให้ชมไป และควรจะขยายต่อยังไงก็มีข้อเสนอแนะ อะไรที่ทำแล้วไม่ถูกก็ยื่นไป รัฐบาลมีหน้าที่เอาข้อมูลมาชี้แจงแจกแจงว่าเป็นปัญหาอย่างไร ส่วนจะมั่นใจเชื่อใจหรือไม่เชื่อใจ ก็อยู่ที่ดุลพินิจของท่าน
