Thursday, 19 December 2024

รัฐบาล เตรียมขยายเฟส ๒ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ เพิ่มอีก ๘ จังหวัด

“คารม” เผย รัฐบาล ปลื้มประชาชนตอบรับโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ครอบคลุมการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์ฟรี เตรียมขยายเฟส ๒ เพิ่มอีก ๘ จังหวัด ก่อนขยายไปทั่วประเทศภายใน ๑ ปี วันที่ ๒ มี.ค. ๒๕๖๗ นายคารม พลพรกลาง เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำ และสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย รวมถึงเป็นการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพ ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข ผ่านโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ โดยในเบื้องต้นได้ทำนำร่องใน ๔ เขตสุขภาพที่มีความพร้อมก่อน คือ จังหวัดแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ ๘ ม.ค. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมานั้น สร้างความพอใจต่อการใช้บริการของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประชาชน ๔ จังหวัดนี้เท่านั้นที่สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ แต่หมายถึงประชาชนคนไทยสิทธิ์บัตรทองทุกคน ที่เข้าไปใน ๔ จังหวัดดังข้างต้น ต้องการรักษาพยาบาลสามารถใช้บริการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้เช่นกัน โดยประชาชนสามารถไปรักษาที่โรงพยาบาล ร้านขายยา คลินิก แล็บ ได้ทุกสังกัดไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ร่วมถึงคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับบริการที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถมารับบริการที่คลินิกทันตกรรมได้นั้น จะเป็นไปตามที่ สปสช. กำหนด คือ บริการตรวจฟัน รวมทั้งงานหัตถการซึ่งจะมี ๕ บริการ คือ ๑. อุดฟัน ๒.ถอนฟัน ๓. ขูดหินปูน ๔. เคลือบหลุมร่องฟัน และ ๕. เคลือบฟลูออไรด์ โดยเบื้องต้น สปสช.กำหนดใช้สิทธิรับบริการได้ไม่เกิน ๓ ครั้งต่อปีงบประมาณ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องรับบริการเพิ่ม ก็สามารถไปรับบริการต่อในโรงพยาบาลรัฐ หรือรับบริการต่อที่คลินิกโดยชำระเงินเอง“โครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ในเฟส ๒ จะมีการขยายเพิ่มอีก ๘ จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ในเดือน มี.ค. – เม.ย. หลังจากนั้นจะดูความพร้อม หากไม่มีปัญหาจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศและขยายทั่วประเทศภายใน ๑ ปี คือภายในสิ้นปี ๒๕๖๗” นายคารม กล่าว