Thursday, 19 December 2024

นายกฯ บิน "ออสเตรเลีย" แลกเปลี่ยนการศึกษา-เกษตร – หารือ แข่ง “ฟอร์มูล่าวัน”

นายกฯ เผย บิน “ออสเตรเลีย” แลกเปลี่ยนการศึกษา-การเกษตร เตรียมหารือทวิภาคี นายกฯกัมพูชา-มาเลเซีย นำสินค้าไทยโปรโมต บินฝรั่งเศสพบ “เอ็มมานูเอล มาครง” ก่อนคุย บ.โฟล์คสวาเกน หารือ จัดแข่ง“ฟอร์มูล่าวัน” ในไทยเมื่อเวลา ๐๗.๕๗ น.วันที่ ๔ มี.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ที่นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลียว่า สำหรับการหารือทวิภาคีกับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกฯกัมพูชา เป็นเรื่องที่คุยค้างกันอยู่ ทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวกประชาชนไปมาหาสู่กัน การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ รวมถึงพื้นที่ทับซ้อนที่พูดคุยกันไว้ส่วนกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย จะพูดคุยการแก้ไขปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเปิดพรมแดนเพื่อการค้าขายที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น ขณะที่ออสเตรเลียถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย การเยือนครั้งนี้จะพูดคุยแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การเกษตร จากนั้น วัน ๖ มีนาคมตนจะเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ช่วงเช้าร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ช่วงบ่ายหารือกับผู้บริหารบริษัทโฟล์คสวาเกน ในการตั้งโรงงานที่ไทย ต่อมาจะบินไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อพบหารือนักธุรกิจกับกลุ่มผู้บริหารบริษัทแอร์บัส และผู้บริหารด้านแฟชั่น รวมถึงพูดคุยการนำการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแข่งขันที่ประเทศไทย จากนั้น วันที่ ๑๑  มีนาคมจะมีการหารือทวิภาคีกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และวันที่ ๑๒ มีนาคมดูงานนิทรรศการที่เมืองต่างๆ มาโชว์ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและโปรเจกต์ โดยปี ๖๘ เราจะไปนำเสนอเรื่องสนามบิน และหลายอย่างที่ไทยกำลังทำอยู่ เพื่อให้นักลงทุนและชาวโลกทราบว่าไทยกำลังดำเนินด้านใดไปบ้าง นายกฯ กล่าวว่า จากนั้น วันที่ ๑๓ มีนาคมจะเดินทางกลับไปที่เยอรมนีอีกรอบเพื่อหารือทวิภาคีกับนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนีและเดินทางกลับไทยเวลา ๑๓.๐๐ น.ของวันที่ ๑๔ มีนาคมและเวลา ๑๖.๐๐ น.จะมีการประชุมกับ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ตนจะนำสินค้าไทยไปโปรโมตด้วย แต่ขอเก็บไว้ก่อน จะทยอยเปิดเผยทีละวัน และจะพูดคุยวีซ่าเชงเก้น หรือใบอนุญาตเข้าประเทศเพื่อการไปเยือนในระยะสั้นหรือชั่วคราว เป็นเวลาไม่เกิน ๙๐ วันด้วย ทั้งนี้การหารือเอฟทีเอระหว่างประเทศไทยและอียูจะเกิดเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน เพราะนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ยืนยันมาแล้ว และวันเดียวกันนี้ นายปานปรีย์ ก็เดินทางไปหารือเรื่องเอฟทีเอที่ออสเตรเลียต่อ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้สำคัญต่อการค้าขาย