นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบประกันสังคม “กรณีเจ็บป่วย” ได้รับความคุ้มครองด้วยการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทุกโรค โดยผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน กว่า ๒๖๗ แห่ง และผู้ประกันตนยังสามารถเข้ารับบริการได้ในโรงพยาบาลทุกขนาดตั้งแต่ปฐมภูมิถึงตติยภูมิที่อยู่ภายใต้การลงนามความร่วมมือ โดยสำนักงานประกันสังคม ได้พัฒนาสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น การลดความเสี่ยงโรค NCDs หรือโรคเรื้อรัง ผ่านโครงการดูแลสุขภาพเชิงรุกฯ โดยตั้งแต่ ๑ เมษายน๖๗ นี้ ได้เพิ่มรายการตรวจสุขภาพให้มากขึ้น สอดคล้องกับอายุและความจำเป็นในการตรวจ โดยผู้ประกันตนที่อายุตั้งแต่ ๓๕ ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจน้ำตาล ไขมันในเลือด ตรวจการทำงานของไต ตรวจปัสสาวะ รวมถึงการตรวจ X-ray ตามเกณฑ์ที่กำหนด “ทุกปี” ซึ่งเป็นการตรวจเสริมจากการตรวจสุขภาพพื้นฐานส่วนทันตกรรม สามารถเข้าถึงการรักษาสุขภาพฟันในสถานพยาบาลหรือคลินิกทั้งรัฐ เอกชน ได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ โดยไม่ต้องนัดล่วงหน้า และปี ๖๗ นี้ สปส.ยังเพิ่มโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ขณะที่กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถเข้ารับการรักษาฟรี ๗๒ ชั่วโมง ทั้งในสถานพยาบาลรัฐและเอกชน โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย นอกจากนี้ยังได้มอบสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลอื่น เช่น ๑.การปลูกถ่ายไขกระดูก สำหรับการรักษามะเร็งโรคเลือด ๘ ชนิด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึงรายละ ๑.๓ ล้านบาท “ฟรี” ๒.การรักษาด้วยการผ่าตัดหรือหัตถการใน ๕ กลุ่มโรค คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคนิ่วในไตหรือถุงน้ำดี โรคมะเร็งเต้านม และก้อนเนื้อที่มดลูก ๓.เพิ่มการเข้าถึงการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ โดยจ่ายค่าอุปกรณ์เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า และค่าตรวจการนอนหลับ (Sleep test)อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
