ผู้การภูเก็ต เรียก ผกก.ทุกสถานีในจังหวัดประชุม พร้อมสั่งเข้มให้จัดทำข้อมูลชาวต่างชาติที่มากระทำความผิด รวมถึงเข้ามาทำงาน พร้อมยืนยันมาเฟียต่างชาติในพื้นที่ยังไม่มีในภูเก็ต ส่วนการเพิกถอนวีซ่า เป็นอำนาจ ผบก.ตม.๖เมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น. วันที่ ๔ มี.ค. ๖๗ ที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพใน จ.ภูเก็ต และมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบกลุ่มแก๊งชาวต่างชาติที่ไปข่มขู่ชาวต่างชาติด้วยกัน รวมไปถึงคนไทยก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ คดีเกี่ยวกับชาวต่างชาติใน จ.ภูเก็ตล่าสุด เป็นคดีปล้นทรัพย์ชาวรัสเซีย ๕ คน และมีการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว โดยมีเรื่องราวกันมา ในส่วนมาเฟียต่างชาติในพื้นที่ยังไม่พบ มีแต่ชาวต่างชาติแย่งอาชีพคนไทยผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีมีนายตำรวจถูกโยงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสนิทสนมกับชาวต่างชาติคนดังกล่าวนั้น ขณะนี้ได้สั่งให้ สภ.ถลางตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ จากการสอบถามเบื้องต้นยังไม่พบ โดยเราให้ความเป็นธรรมทั้ง ๒ ฝ่าย ซึ่งในส่วนของสายตรวจ หรือพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการในคดีนี้ เรามีการดำเนินการตั้งแต่วันแรกที่คุณหมอเข้าแจ้งความแล้ว ส่วนภาพที่มีนายตำรวจไปนั่งดื่มกินกับนายเดวิดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนพาไปนั่งร่วมโต๊ะและมีการถ่ายภาพดังกล่าว”วันนี้ได้มีการประชุมหัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.ภ.๘ ในเรื่องของการกำชับเกี่ยวกับชาวต่างชาติเข้ามากระทำความผิดในจังหวัดภูเก็ต รวมไปถึงเข้ามาทำงานในพื้นที่ โดยสั่งกำชับให้มีการทำข้อมูลชาวต่างชาติ เมื่อมีการกระทำความผิดจะสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ถลาง ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายไปแล้ว โดยผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ในส่วนทางคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำพยานเพิ่มเติมอีก ๒ ปาก” ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตกล่าวนอกจากนี้ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ยังกล่าวถึงกรณีที่การเพิกถอนวีซ่านายเดวิดนั้น ว่า ขั้นตอนการเสนอเพิกถอนวีซ่านักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่มาประกอบอาชีพใน จ.ภูเก็ต กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่มีคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองพฤติกรรมชาวต่างชาติที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต เพื่อเสนอเพิกถอนวีซ่าของประเทศไทย โดยขั้นตอนคณะกรรมการชุดดังกล่าวที่มี ผู้ว่าฯภูเก็ตเป็นประธาน และมี ตม.ภูเก็ตเป็นเลขานุการ โดยคณะกรรมการจะทำความเห็นต่อที่ประชุม จากนั้นเลขานุการ คือ ตม.ภูเก็ต จะนำเสนอต่อ ผบก.ตม.๖ เพื่อพิจารณาการเพิกถอนวีซ่าต่อไป จากนั้นถ้ามีการเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติคนดังกล่าวแล้ว บก.ตม.๖ จะส่งเรื่องกลับมายัง ตม.ภูเก็ต เพื่อนำเรื่องการพิจารณาดังกล่าวไปแจ้งต่อชาวต่างชาติคนดังกล่าวต่อไป
