Thursday, 19 December 2024

รองผู้ว่า เสนอ ตม.ภูเก็ต เพิกถอนวีซ่าเดวิด สอบปางช้าง ฐานเป็นภัยสังคม

05 Mar 2024
132

“รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต” ส่งหนังสือจี้ “ผกก.ตม.ภูเก็ต” เสนอเพิกถอนวีซ่า “เดวิด” เร่งด่วน ในฐานะเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุข พร้อมตรวจสสอบปางช้าง เพื่อพิจารณาเพิกถอนมูลนิธิเมื่อวันที่ ๕ มี.ค. ๖๗ ณ ห้องประชุมจันพันวา ชั้น ๔ มุขหลัง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองพฤติการณ์ของคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักร (พื้นที่จังหวัดภูเก็ต) ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมาย โดยมี พล.ร.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ รอง ผู้อำนวยการกอ.รมน.จ.ภูเก็ต, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.ภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม        นายศรัทธา กล่าวว่า การประชุมฯ ในครั้งนี้เพื่อหารือกรณีนายเดวิด ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงธารดาว  ขณะนั่งอยู่บริเวณชายหาดยามู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยจากการติดตามความคืบหน้าในเรื่องของการเพิกถอนวีซ่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่ง ตม.จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว หากได้รับผลการพิจารณาคดีอาญาจะส่งเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ต่อไป          ทั้งนี้ วีซ่าของ นายเดวิด จะหมดอายุในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗ ส่วนกรณีทำร้ายร่างกาย, คดี พระราชบัญญัติอาวุธปืน ได้สั่งการให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ตเร่งตรวจสอบ ส่วนกรณีปางช้างได้มอบหมายให้ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตดำเนินการ โดยจะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในวันที่ ๗ มีนาคม นี้           นอกจากนี้ นายศรัทธา ได้ประชุมร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบ นายเดวิด หรือ นายอูร์ส บีท เฟร์ เจ้าของธุรกิจปางช้างใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และยังมีตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง ว่ามีพฤติกรรมนำมูลนิธิอนุรักษ์ช้างไปเกี่ยวข้องกับการแสวงหารายได้กับธุรกิจปางช้างที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของหรือไม่ รวมถึงให้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก หลังมีอดีตพนักงานและเจ้าของช้างที่เคยนำช้างไปให้ปางช้างดังกล่าวเช่า เพื่อให้บริการกับนักท่องเที่ยวออกมาให้ข้อมูลผ่านสื่อว่าถูกเอาเปรียบ และปางช้างไม่ดูแลรักษาช้างเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย แต่กลับไล่ให้ออกและบอกเลิกจ้าง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ปกครองจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว หากพบว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมตามที่มีการให้ข้อมูลมาจริงก็จะต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติม นอกเหนือจากการพิจารณาเพิกถอนมูลนิธิและการดำเนินการเรื่องการเพิกถอนวีซ่า อาจต้องมีการพิจารณาเรื่องที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ ๑๕ มีนาคมนี้ โดยมอบหมายให้เทศบาลตำบลเชิงทะเล ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปางช้างดังกล่าวตั้งอยู่เข้าไปดูแลและตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้มาประชุมหารืออีกครั้งในวันที่ ๘ มีนาคมนี้ ส่วนประเด็นการร้องเรียนของกลุ่มชาวบ้านที่ให้ข้อมูลว่าชาวต่างชาติคนดังกล่าวมีการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และมีพฤติกรรมที่อาจเป็นภัยกับประชาชนในพื้นที่นั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยล่าสุด พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่ามีการตรวจสอบพบทะเบียนปืน หรือใบ ป.๔ ที่นายเดวิดครอบครองจริง ซึ่งจะมีการตรวจสอบกับทางอำเภอถลางอีกครั้ง ขณะที่มีเอกสารด่วนที่สุด ลงวันที่ ๕ มีนาคม๖๗ ลงนามคือ นายศรัทธา ทองคำ รอง ผวจ.ภูเก็ต เรื่อง ขอให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของนายอูร์ส บีท เฟร์ ส่งถึง ผกก.ตม.ภูเก็ต เนื่องจากการกระทำของบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของประชาชน จึงขอให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของบุคคลดังกล่าวโดยเร่งด่วน และรายงานผลให้ ผวจ.ภูเก็ต ทราบต่อไป    

Related posts
กชเบล ศรัณย์รัชต์ โชว์หุ่นสวยสับ ก่อนลุ้นมิสแกรนด์ภูเก็ต 2025
ช้างป่ากว่า 100 ตัวหนีน้ำท่วมฉับพลันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดนิยมทางภาคเหนือของประเทศไทย ตาย 2 ตัวระหว่างอพยพ
ป้องร้องเรียนผ่านฟองดูว์ ผู้ว่าชัชชาติชี้แจงมีข้อดีมากกว่าข้อบกพร่อง
แม่ค้ากับข้าวเลี้ยงแมงดานา นำมาแปรรูปเป็นแจ่วบอง สร้างรายเดือนละ ๓-๔ หมื่น
ร้อง ป.ป.ช.ฟัน ธนา-๒๐๐ พงส. “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ยันผิดมาตรา ๑๕๗ แจงถอนคดีนายกฯ
“วันนอร์” แนะก้าวไกล เสนอร่างแก้รธน. เข้าสภา หากถูกศาลตีตก อาจเสียเวลากว่าทำประชามติ