อารมณ์หนังไทย ดราม่าน้ำเน่าเกือบทั้งเรื่อง ผู้ร้ายโคตรโกงสะบั้นหั่นแหลก ฟาดฟันกับพระเอก นางเอก แบบเอาเป็นเอาตาย สะใจคนชอบซาดิสต์ แต่สุดท้ายจูบปาก คืนดี จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งเรื่องจริงอิงละครการเมืองแบบไทยๆที่พะบู๊ ห้ำหั่น ชิงเมือง ปั่นมวลชนสู้กันนองเลือด ตายคาถนน แต่พอจบแบบหักมุม คู่ขัดแย้ง ตัวการทำบ้านเมืองแตกแยก หันมาจูบปากเคลียร์ผลประโยชน์กันลงตัว ก็จบแบบฮั้วๆกันไปตามท้องเรื่องที่คนดูรู้ตอนจบ ตั้งแต่ “นายใหญ่” ได้ไฟเขียวกลับมาฟื้น “พลังจันทร์ส่องหล้า” จึงไม่ตื่นเต้นอะไรมากกับการที่ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลุดบ่วง รอดวิบากกรรมคดีโกงงบจัดอีเวนต์ศาลสั่งตำรวจถอนหมายจับ เบาตัวไปหนึ่งเปลาะอย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งข้ามช็อตเร็วไปถึงเรื่องการกลับบ้านตามรอยพี่ชาย เพราะยังมีอีกด่านสำคัญที่อดีตนายกฯหญิง ติดชนักคดีปล่อยทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และคดีการระบายข้าวแบบจีทูจีขณะที่จำเลยร่วมรับโทษอยู่ในเรือนจำ ทั้งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการพาณิชย์ บิ๊กข้าราชการ นักธุรกิจอย่าง “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร พ่อค้าข้าวรายใหญ่จะออกแบบการรับโทษ ใช้โอกาสอะไรในการทุเลาคดีไม่ต้องเข้าเรือนจำ“ยิ่งลักษณ์” ต้องชั่งน้ำหนัก ก่อนกลับต้องนับนิ้วคำนวณปีกันให้ดี เศรษฐา ทวีสินเอาเป็นว่า ณ เบื้องนี้ “น้องปู” หลุดบ่วงข้อหาทุจริตไปอีก ๑ คดี ต่อเนื่องจากที่พี่ชาย คือนายทักษิณ ชินวัตร ปลดพันธนาการ กลับไปนอนที่คฤหาสน์จันทร์ส่องหล้าแบบไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวอดีตผู้นำพี่น้องตระกูลชินได้พื้นที่กลับมายืนในเกมอำนาจแต่โดยธรรมชาติของ “ดีลการเมือง” มันต้องมีทั้ง “ได้” และ “เสีย”ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ในสภาพที่ยี่ห้อ “ทักษิณ” ไม่ได้เข้มขลัง ขุมพลังในเกมเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย โดนทีมเด็กพรรคก้าวไกลเบียดขึ้นมาทาบรัศมี ไม่ได้ผูกปีตีกินเหมือนเก่าไฟต์บังคับผู้เฒ่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องกอดคอกันสู้เด็กรุ่นใหม่ฝ่ายเสรีนิยม“นายใหญ่” ต้องร่วม “กองกำลังผสม” ดีลอำนาจสูตรพิสดารเมื่อเป็นฝ่าย “ได้” ไปแล้ว ก็ต้องลุ้นว่าจะยอม “เสีย” อะไร เป็นการแลกเปลี่ยนตามปรากฏการณ์ที่เซียนการเมืองฟันธง โยงกันกับข่าวลือบิ๊ก “ด” ผู้แรงฤทธิ์ จ่อไขก๊อกจากสถานะอำนาจพิเศษ โผล่มาในจังหวะเหมาะเจาะพอดิบพอดี ที่ผู้นำพี่น้องตระกูลชินหลุดบ่วงพันธนาการต่อเนื่องกับกระแส “ดีลลังกาวี” ที่กลับมากระหึ่มอีกรอบพร้อมๆกับข้อมูลใหม่ เปิดเพิ่ม “ตัวละคร” ที่ไปโผล่ในวงเจรจา มีทั้ง “นายใหญ่-นายหญิง” หัวขบวนเพื่อไทย ส่วนหัวขั้ว ๓ ป. ทั้ง “ลุงน้องเล็ก-ลุงพี่ใหญ่” และขาดไม่ได้บิ๊ก “ด” เคลมตัวแทนอำนาจพิเศษ ตัวแทนกลุ่มทุนแบ็กอัปอำนาจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณทำคลอดฉุกเฉิน “รัฐบาลผสมสูตรพิสดาร” ผ่านมาครึ่งปีในสภาพการณ์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง กำลังติดหล่ม “นายกฯ ๒-๓ คน” บริหารแบบติดๆขัดๆ ร่อนไปร่อนมา ทำได้ไม่เต็มไม้เต็มมือมีตำแหน่ง ถืออำนาจ แต่สิทธิขาดในการตัดสินใจยังเป็นที่กังขาล้อไปกับภาวะกระเพื่อมในรัฐบาล สถานการณ์อำนาจเบอร์หนึ่งทำเนียบรัฐบาลไม่นิ่ง แบบที่มีการเชิดฉิ่ง หามแห่ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน หัวหน้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ เคลมโควตา “คนดี” ของ “ลุงตู่” เสียบเก้าอี้ใหญ่ตึกไทยคู่ฟ้าก่อนข้อมูลเปลี่ยนตามกระแส บิ๊ก “ด” หลุดวงอำนาจพิเศษและก็เป็นอะไรที่สังเกตได้ ตามอาการคึกคักของ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ที่เพิ่งนำทัพใหญ่ สัญจรไปตรวจงานที่จังหวัดหนองคาย ก่อนข้ามแม่น้ำโขงไปเยือนทำเนียบรัฐบาล สปป.ลาวอย่างเป็นทางการโชว์พลังดีลผู้นำเพื่อนบ้าน แก้สถานการณ์ฝุ่นควันพิษ PM๒.๕ ข้ามแดน“ลุงป้อม” กระตุกพลัง “คอนเนกชัน” แถมโฟกัสทีมงานที่ยังอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งนายอุตตม สาวนายน อดีตขุนคลัง นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รัฐมนตรีว่าการพลังงาน นายวราเทพ รัตนากร อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการคลังฯลฯมือบริหารอาชีพพร้อมใช้งาน ล้วนประสบการณ์สูงทั้งนั้น เทียบ “ปอนด์ต่อปอนด์” เหนือกว่ามวยแถวสองแถวสามของเพื่อไทย ไม่ต้องพูดถึงพรรคพี่น้องอย่างรวมไทยสร้างชาติที่ได้แค่อาศัยแสงของ “ลุงตู่”ตามสูตรตีหน้ามึน ท่องคาถา ไม่รู้ ไม่รู้“เสือเฒ่าบูรพาพยัคฆ์” เดี้ยงยังไง ก็ยัง “ลายพาดกลอน”.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
Related posts