ที่ดินภูเก็ตรับลูก บี้หนักจุดบันไดริมหาด ฝรั่งกร่างเตะหมอ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ นส.๓ก. วิลล่า ๒๓ พบไม่มีการจดทะเบียน เป็นการเช่าแบบรายปี ขณะที่ฝ่ายปกครองย้ำ ภูเก็ตจะต้องไม่มีมาเฟียต่างชาติหรือผู้มีอิทธิพลเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. วันที่ ๖ มีนาคม๖๗ ที่บริเวณบันไดหน้าวิลล่า ๒๓ จุดเกิดเหตุฝรั่งผู้เช่าวิลล่าก่อเหตุเตะแพทย์หญิงได้รับบาดเจ็บ โดยในวันนี้ทางโครงการวิลล่าที่กำกับดูแลวิลล่า ๒๓ ได้มีการนำเครื่องจักรมาปรับพื้นที่อีกครั้ง หลังมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม ส่วนวัสดุที่ได้รื้อถอนได้มีการจัดเก็บออกนอกพื้นที่เรียบร้อยแล้วขณะที่เวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๖ มีนาคม๖๗ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสาสมัครรักษาดินแดนได้รับมอบหมายจากกรมการปกครอง ให้มาติดตามการจัดระเบียบและปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์แพทย์หญิงชาวไทยถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายบริเวณชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กรมการปกครองและในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยเมื่อวันที่ ๕ มีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ร.ต.อ.เขตรัฐ กล่าวว่า การลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุที่มีชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย พญ.ชาวไทย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชาวต่างชาติทำตัวเป็นมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล โดยพบประเด็นหลักในเรื่องการดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนเรื่องการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะนั้น ได้มีการดำเนินการแล้วเช่นกัน แต่เมื่อลงพื้นที่พบว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากเส้นทางลงชายหาด ซึ่งปัจจุบันบริเวณดังกล่าวเป็นวิลล่า หรือโรงแรมหรู ทำให้ไม่สามารถลงไปยังชายหาดพื้นที่สาธารณะได้ จากเดิมเคยลงไปยังชายหาดได้ จึงแจ้งกรมการปกครองส่วนกลาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป”อดีตชาวบ้านเคยลงไปยังชายหาดสาธารณะได้ แต่ปัจจุบันมีการสร้างโรงแรม หรือวิลล่าหรูปิดทางลงไปชายหาด จึงต้องมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็น นส.๓ก.โดยได้นำเรียนอธิบดีกรมการปกครองไปแล้ว และจะมีการติดตามในเรื่องนี้ ส่วนโครงการวิลล่าหรูดังกล่าวนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้มีอำนาจลงนามและยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างเป็นชาวต่างชาติ ทางกรมการปกครองเองจะดำเนินการตรวจสอบว่า การจดบริษัทดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร ซึ่งการจดทะเบียนบริษัทนั้นถูกต้องแน่ เพราะจดได้แล้ว แต่ผู้ที่ถือหุ้นตาม พระราชบัญญัติบุคคลต่างด้าว จะมีอัตราส่วนในการถือหุ้น คนไทยถือเท่าไร คนต่างชาติถือเท่าไร เราไม่ต้องการให้คนไทยเป็นนอมินีให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง และผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวมีความสามารถที่จะถือหุ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่นอมินี” ร.ต.อ.เขตรัฐ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ได้เน้นย้ำด้วยว่า จ.ภูเก็ต จะต้องไม่มีมาเฟียต่างชาติทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกนโยบายการปราบปรามมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล ยิ่งเป็นชาวต่างชาติยิ่งต้องดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาด จึงอยากให้ทางจังหวัด ทางนายอำเภอต่างๆ ของ จ.ภูเก็ต สอดส่องดูแล หากพบการกระทำความผิดให้มีการดำเนินการทันที และแจ้งมาจากกรมการปกครองผ่านศูนย์ดำรงธรรมด้านตัวแทนเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอถลาง กล่าวต่อที่ประชุมว่า หลังเกิดเหตุทางสำนักงานที่ดินอำเภอถลางได้ไปตรวจสอบพิกัดที่ดินบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นพื้นที่นอกหลักฐานที่ดินที่มีการครอบครอง ซึ่งที่ดินบริเวณวิลล่าดังกล่าวเป็นเอกสาร นส.๓ก.ออกมาจาก สิงหาคม๑ ซึ่งได้มีการออกเป็น นส.๓ (ครุฑดำ) เมื่อปี ๒๕๑๗ ออกให้กับผู้แจ้งคือ นายบุญส่ง บุญเสริม หลังจากนั้นเมื่อปี ๒๕๔๘ มีการรังวัดเพื่อตรวจสอบเนื้อที่ของ นส.๓ เปลี่ยนมาเป็น นส.๓ก. ปัจจุบันเป็น นส.๓ก. เลขที่ ๓๔๑๑ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ปัจจุบันเป็นของบริษัท ภูเก็ตเพนนิซุล่า เอสเตท จำกัด สำหรับวิลล่าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ นส.๓ก. ดังกล่าว เป็นการแบ่งเช่าให้บริษัทสร้างวิลล่า สำหรับแปลงวิลล่าที่นายเดวิดเช่านั้น เป็นวิลล่า ๒๓ ไม่มีการจดทะเบียน อาจเป็นการเช่าแบบรายปี ซึ่งเช่าจากบริษัทเจ้าของวิลล่า “ขณะนี้สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการได้มาของเอกสารสิทธิ นส.๓ก.แล้ว ซึ่งวันนี้จะทราบผลการตรวจสอบ”
