Thursday, 19 December 2024

ลุยส่งเสริมมีบุตร ตั้งเป้าให้แม่มีลูก ๒ คน พร้อมถกแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

“สมศักดิ์” ถกร่วม “หมอชลน่าน” แก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ชี้ สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการมีบุตรสำหรับแม่อายุ ๒๐ ปีขี้นไป สปสช. เล็งช่วยฉีดสเปิร์มเข้ามดลูกให้ พร้อมสั่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้กฎหมาย โดยตั้งเป้าให้แม่ ๑ คน มีลูก ๒ คนวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการ เข้าร่วมประชุม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งพบว่า อัตราการคลอดในวัยรุ่นมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงอายุ ๑๐-๑๔ ปี ลดลงจาก ๐.๙ ต่อ ๑,๐๐๐ ประชากร ในปี ๒๕๖๔ เหลือ ๐.๘ ต่อ ๑,๐๐๐ ประชากร ในปี ๒๕๖๕ ส่วนช่วงอายุ ๑๕-๑๙ ปี ก็ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน จาก ๒๔.๔ ต่อ ๑,๐๐๐ ประชากร ในปี ๒๕๖๔ เหลือ ๒๑ ต่อ ๑,๐๐๐ ประชากร ในปี ๒๕๖๕ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ“ที่ประชุมยังได้พิจารณาการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อสนับสนุนวาระแห่งชาติ ประเด็นส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ลดลงอย่างมาก จากปีละมากกว่า ๑ ล้านคน เหลือเพียงไม่ถึง ๕ แสนคน ทำให้อัตราเจริญพันธุ์รวมของประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก ๖.๒๙ ในปี ๒๕๑๓ เหลือเพียง ๑.๐๘ ในปัจจุบัน หากปล่อยให้เด็กเกิดใหม่ลดลงไปเรื่อยๆ คาดการณ์ว่าในอีก ๖๐ ปีข้างหน้า จำนวนประชากรของไทยจะลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง ๓๓ ล้านคน และจะทำให้วัยทำงานลดลงจาก ๔๖ ล้านคน เหลือเพียง ๑๔ ล้านคน ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศในอนาคต” ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังมีมติให้แก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมการมีบุตรสำหรับผู้ที่มีอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป รวมถึงให้ช่วยเหลือวัยรุ่นที่ประสบปัญหาตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม เพราะจากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์แบบไม่พร้อม มากกว่า ๘๐-๙๐% ต้องการที่จะยุติการตั้งครรภ์ จึงมีการเสนอให้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อช่วยส่งเสริมการเกิดที่มีคุณภาพ และช่วยลดปัญหาเด็กเกิดใหม่น้องลงได้ด้วย ดังนั้น จึงให้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้เพิ่มบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมการมีบุตรใน พ.ร.บ. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยว่า การประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ได้หารือปัญหาเด็กเกิดใหม่แบบคุณภาพมีเปอร์เซ็นต์ต่ำ ซึ่งขณะนี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ ๑.๐๘ แต่เราต้องการส่งเสริมให้เป็น ๒.๑ คือ แม่ ๑ คน ต้องการลูก ๒.๑ คน รวมถึงที่ประชุมยังได้หารือการแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า ๑๙ ปีด้วย ซึ่งสถานการณ์ถือว่าดีขึ้น แต่เราก็ยังต้องเดินหน้าต่อ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็มีการช่วยแก้ปัญหาด้วยการแจกถุงยางอนามัยฟรี ยาคุมกำเนิดฟรี ในสถานพยาบาลรัฐและร้านขายยาที่ร่วม ส่วนการส่งเสริมการมีบุตรสำหรับผู้ที่มีอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป สปสช. ก็จะช่วยส่งเสริมด้วยการฉีดสเปิร์มเข้ามดลูกให้ ที่ประชุมจึงมีมติตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อแก้กฎหมายในการแก้ปัญหาทั้งหมด.