หลานป่วยจิตเวชขาดยา ก่อเหตุเตะยายวัย ๙๑ ปี ดับสยอง เหตุขอเงินซื้อเหล้าไม่ได้ ทำให้เกิดความโมโห ก่อนหลบหนีเดินข้ามอำเภอ ระหว่างทางยังเตะหมาตัวเอง สุดท้ายจนมุม ตำรวจคุมตัวดำเนินคดี ผู้ก่อเหตุลั่นจะไม่ขอโทษยาย เมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๖ มีนาคม๖๗ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า กรณี นายทิภากร พิมพิพา อายุ ๓๗ ปี หลานชาย ได้เตะ นางเที่ยง แสงแก้ว อายุ ๙๑ ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆ บาดเจ็บ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ ๕๙ ม.๘ ต.เมืองเก่าพัฒนา อ.เวียงเก่า จ.ขอนเเก่น ญาตินำนางเที่ยง ส่ง รพ.เวียงเก่า และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนั้น โดยที่ สภ.เวียงเก่า พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสอบสวน นายทิภากร ก่อนที่จะควบคุมตัวเข้าควบคุมที่ห้องขัง โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่าสาเหตุที่ลงมือเพราะอะไร ซึ่งภายหลังตำรวจสอบสวนเสร็จได้เดินออกจากห้องสอบสวนมาโดยยังไม่ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ลงมือว่าเพราะขอเงินไม่ได้ หรือทะเลาะกับยาย นายทิภากร ไม่ยอมตอบอะไร ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป ซึ่งนายทิภากรตอบว่ารู้ตัว ตอนที่ลงมือพอเห็นยายก็เตะทันที เพราะว่ารู้สึกโมโห ส่วนสาเหตุทำไมถึงลงมือ นายทิภากร ไม่ยอมตอบ และมีสีหน้าที่นิ่งเฉย เดินเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาของโรงพักภูเวียง ก่อนที่ช่วงหน้าประตู ผู้สื่อข่าวถามอีกครั้งว่าอยากจะขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ อยากจะขอโทษดวงวิญญาณคุณยายหรือไม่ ซึ่งนายทิภากรตอบสั้นๆ ว่าไม่เป็นไรครับ พ.ต.อ.อติเมธ พลมุข ผกก.สภ.เวียงเก่า กล่าวว่า จากการสอบถามญาติพี่น้อง ทราบว่า ผู้ต้องหาเคยเสพยาเสพติด และกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช รักษาตัวมาตลอด แต่ระยะหลังไม่ยอมกินยา จนมีอาการลืมตัว หลงลืม และเอะอะโวยวาย แต่ไม่ทำร้ายใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะ ในเบื้องต้นไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าลูกหลาน ญาติพี่น้อง ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และสวดอภิธรรมศพนางเที่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายอดิศร พิมพ์พา อายุ ๔๑ ปี พี่ชายของนายทิภากร กล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวไม่สะดวกให้ข่าว เพราะทุกคนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนที่บ้านที่เกิดเหตุนั้น ครอบครัวอยู่กัน ๔ คน คือ พ่อ แม่ นายทิภากร และยาย และที่น้องชายเป็นแบบนี้นั้น เพราะเมื่อก่อนน้องชายเคยเสพยาเสพติดจนกระทั่งป่วยจิตเวช แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง และการที่น้องชายทำร้ายยายจนตายก็ไม่ทราบสาเหตุ เพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และยังไม่คิดเรื่องประกันตัวน้องชาย เพราะต้องจัดงานศพให้ยายก่อน เพราะช่วงเกิดเหตุ พ่อแม่ไปตลาดไปซื้อของมาขาย ที่บ้านจึงเหลือยายกับน้อง เพราะที่บ้านเปิดเป็นร้านขายของชำขณะที่ นางสังวาล ธนภูมิชัย อายุ ๘๘ ปี ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านผู้ตาย กล่าวว่า ไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน จึงเดินออกมาดู และมองไปที่บ้านนางเที่ยง ก็เห็นผู้ก่อเหตุเดินออกจากบ้าน ส่วนเหตุเตะยายตัวเองจนตายนั้น ส่วนตัวคิดว่ามาจากสาเหตุที่ขอเงินยายไปซื้อสุราไม่ได้ ทำให้อารมณ์เสียเตะยาย ส่วน นางปราณี ดีมีวงศ์ อายุ ๖๓ ปี ชาวบ้านอีกคน กล่าวว่า หลานผู้ก่อเหตุป่วยซึมเศร้า และกินยาจิตเวชมานานหลายปีแล้ว อารมณ์ดีก็ช่วยยาย ช่วยแม่ทุกเรื่อง แต่เป็นคนชอบดื่มสุรา เมื่อก่อนมารดาขายของชำและขายสุราด้วย นายทิภากรเอาสุราไปดื่มจนหมด จึงเลิกขาย จึงขอเงินยายไปซื้อสุรามาดื่ม และการที่ทำร้ายยายเที่ยง ยายแท้ๆ จนตายครั้งนี้ เชื่อว่าขอเงินยายไปซื้อสุรา ยายอาจจะไม่ได้ยิน ทำให้อารมณ์เสียทำร้ายยาย จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป แล้วไปเตะหมาของตัวเอง ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นพ่อและแม่ไม่อยู่บ้าน ไปซื้อสินค้าที่ตลาดมาขาย เมื่อกลับถึงบ้านจึงเห็นยายนอนหมดสติอยู่ จึงรีบส่งโรงพยาบาล และยายก็เสียชีวิต.
