Thursday, 19 December 2024

ปชป. จี้ ป.ป.ช. ทบทวบ ตั้งหลักยื่นอุทธรณ์คดีโรดโชว์ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”

“ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” รอคำพิพากษาเต็มของศาลฎีกา ให้ ปปช. ตั้งหลัก คดีโรดโชว์รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” วอนทบทวน ชี้ต้องยื่นอุทธรณ์ต่อ วันที่ ๘ มี.ค. ๒๕๖๗ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กรณีศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มติเอกฉันท์ ๙ ต่อ ๐ ยกฟ้อง นายยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมพวก ในโครงการ Road Show สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand ๒๐๒๐ ด้วยงบประมาณ ๒๔๐ ล้านบาท ว่า ในฐานะที่ตนไปเป็นพยานในคดีนี้ ตอนเป็นกรรมาธิการวิสามัญ พ.ร.บ. ป.ป.ช. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๔ เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ มาตรา ๑๐๓/๗ ซึ่งเป็นมาตราที่ว่าด้วยเรื่องการประกาศราคากลางขึ้นเว็บไซต์ เพื่อเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมประกวดราคา แต่รัฐบาลในสมัยนั้นกลับมีการว่าจ้างเอกชนก่อนประกาศราคากลาง และศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยเต็มที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับมาตราดังกล่าว นายชาญชัย กล่าวอีกว่า มาตรา ๑๐๓/๗ เป็นกฎหมายของ ปปช. ที่สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านความเห็นชอบแล้ว ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะต้องแจ้งกับ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ในสมัยนั้น เพื่อนำไปปฏิบัติกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานของสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องนี้จะด้วยเหตุใดก็ตาม หาก ป.ป.ช. ทำสำนวนไม่ครบถ้วน หรือยังไม่ได้มีการระบุความผิดตามมาตรา ๑๐๓/๗ ก็ให้ถือว่าประเด็นนี้เป็นหลักฐานใหม่ หรือให้ ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์ให้ครบถ้วน อีกทั้งในขณะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมกับยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามรัฐธรรมนูญ และมาตรา ๑๐๓/๘ ด้วย“มาตรา ๑๐๓/๗ เป็นการตรากฎหมายขึ้นเพื่อให้ ป.ป.ช. และทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตาม ในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งต้องมีการเปิดเผยราคากลางก่อน พร้อมนำข้อมูลขึ้นแสดงบนเว็บไซต์เพื่อให้ภาคประชาชน และพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันตรวจสอบว่าเงินภาษีถูกนำไปใช้จ่ายเช่นใด และการกำหนดราคากลางถูกต้องหรือไม่ ผมยืนยันว่า มาตรานี้ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์และเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตรากฎหมายให้ ปปช. ไปดำเนินการ และตัวผมก็ไปเป็นพยานในการฟ้องของ ป.ป.ช. ด้วย จึงอยากให้ ปปช. ทบทวนและตั้งหลักยื่นอุทธรณ์ต่อไป” นายชาญชัย กล่าว พร้อมกับเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ตอนนี้คำพิพากษาเต็มเกี่ยวกับคดีนี้ยังไม่ออกมา แต่เมื่อคำพิพากษาเต็มออกมาแล้ว หากพบว่ามีอะไรที่ผิดปกติ ตนจะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไปดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป