Thursday, 4 July 2024

ลูกชาย เป็นหมอ พร้อมรับ อดีต สส.ตกยากไปดูแล บอกพ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก

08 Mar 2024
92

ลูกชาย “สม วาสนา” อดีต สส.ตกยาก เป็นนายแพทย์อยู่ที่เชียงราย เปิดคลินิกทาสมอง เตรียมเคลียร์งานไปเยี่ยมพ่อที่บ้านหมอปลา เผยหากพ่ออาการดีขึ้นและต้องการมาอยู่เชียงรายก็พร้อมดูแล ด้านญาติมีเมียหลายคน ทั้งที่เชียงใหม่ ลำปาง เท่าที่รู้มีลูก ๓ คน วันที่ ๗ มีนาคม๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ กัน จอมพลัง ประกาศตามหาญาติของ นายสม วาสนา อดีต สส.อุดรธานี ที่ตกระกำลำบาก ต้องมาอยู่ในความดูแลของหมอปลาที่ จ.เพชรบุรี มานานกว่า ๕ ปี โดยมีอาการหลงลืม ต่อมา มีการสืบทราบว่าหนึ่งในลูกชายของนายสม ทำอาชีพแพทย์ทางสมองอยู่ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยเปิดคลินิกชื่อ “ฮักษาคลีนิค” ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด ๕ สาขา แบ่งเป็น จ.เชียงใหม่ ๔ สาขา จ.จันทบุรี ๑ สาขา และ จ.เชียงราย ๑ สาขา ตั้งอยู่ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยเป็นสาขาเดียวที่เน้นรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางสมอง ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อสอบถามขัอมูลกับ นายแพทย์พบสุข ตันสุหัส ลูกชายของอดีต สส. เผยว่า ในกรณีของพ่อที่ปรากฏเป็นข่าวว่าไปอยู่อาศัยในความดูแลของหมอปลาที่ จ.เพชรบุรี ตนก็เพิ่งทราบข่าว เพราะพ่อแยกไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ตนอายุได้ประมาณ ๕-๖ ขวบ และก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่แม่ก็เคยเล่าให้ฟังว่าพ่อชื่อสกุลอะไร และอาศัยอยู่ที่ไหน แต่ไม่ทราบรายละเอียดเยอะ เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก หลังจากมีข่าวตนได้ไปแจ้งข่าวให้แม่ทราบ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรหากจะรับพ่อมาดูแลที่เชียงราย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางตน และความสมัครใจของพ่อนพ.พบสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของพ่อตอนนี้ยังไม่ได้ชี้ชัดว่ามีอาการของโรคสมองเสื่อม ในระยะไหน อย่างไร เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นจะต้องมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอีกถึงจะชี้ชัดได้ พอชี้ชัดถึงอาการของโรคก็จะมีการพยากรณ์โรคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนั้นถึงจะระบุได้ว่าจะหายขาดได้หรือไม่แต่โดยภาพรวมแล้วน่าจะมีโอกาสที่อาการจะดีขึ้นได้ หากมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง จากการพูดคุยกันล่าสุดผ่านทางวีดิโอคอล พบว่าท่านมีอาการหลงลืม ยาที่จะจัดให้พ่อจะเป็นยาที่เสริมสร้างสื่อประสาทบางอย่างในร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนของสมอง เพื่อกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดความอ่าน ความจำ ให้เป็นปกติมากขึ้น และยังมียาควบคุมอารมณ์และยาควบคุมจิตประสาท ซึ่งยาทั้งหมดได้จัดส่งไปให้แล้ว เหลือเพียงแค่ผู้ดูแลจะจัดให้พ่อทานอย่างสม่ำเสมอ”ส่วนการไปเยี่ยมพ่อ คาดว่าจะมีโอกาสได้ไปเยี่ยมท่านในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด ตอนนี้เร่งเคลียร์งานทางโรงพยาบาลให้เรียบร้อย คาดว่าไม่น่าจะเกิน ๑-๒ สัปดาห์ ก็อยากจะไปเจอคุณพ่อ ถ้าอนาคตอาการของท่านดีขึ้นก็อาจมีการพูดคุยร่วมกันกับทางครอบครัวและคุณพ่ออีกครั้ง ว่าท่านสะดวกจะขยับขยายไปที่อื่น หรืออยากอยู่ที่เดิม หรือว่าอยากจะย้ายมาอยู่ทางเหนือ ก็ยินดีจะรับท่านไว้ในความดูแล” ขณะเดียวกัน ชายวัย ๖๐ ปี ชาวบ้านโสกจาน ซึ่งรู้จัก สม วาสนา เล่าว่าเคยเห็น นายสม วาสนา ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นครู จนกระทั่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร แต่หลังเป็นผู้แทนราษฎรแล้วก็ไม่ค่อยได้เห็นอีกเลย แต่จำได้ว่าเมื่อประมาณ ๔-๕ ปีก่อนนี้ เคยเห็น นายสม วาสนา มาเดินวนไปวนมาอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน คล้ายคนสติไม่ดี แล้วก็หายไป นางสิน (นามสมมติ) วัย ๖๕ ปี เล่าว่าตนเคยอยู่บ้านใกล้กันกับ นายสม วาสนา ตั้งแต่สมัยเป็นครู รู้แต่ว่าไปเป็น สส. ก็ไม่ค่อยได้พบหน้ากัน จนกระทั่งเมื่อวานนี้หลานสาวของ นายสม วาสนา ซึ่งเกิดกับน้องสาวของนายสม ได้พูดให้ได้ยินว่ามีคนมาถามว่าจะไปรับนายสมมาอยู่ด้วยมั้ย ซึ่งหลานสาวบอกว่าใครจะรับมาอยู่ด้วยได้ แกไม่ฟังใครทั้งนั้น อยากไปไหนก็ไป ดูแลไม่ได้หรอก  ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านโสกจาน ซึ่งเป็นบ้านของหลานสาวคนที่นางสินพูดถึง ได้พบกับ นาง ต.และ นาง บ. ซึ่งเป็นพี่น้องกัน และมีศักดิ์เป็นหลานสาวของ นายสม วาสนา คนทั้งสองปฏิเสธการสัมภาษณ์และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ เพียงแต่ได้โทรศัพท์หาน้องสาวอีกคนที่อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยแจ้งอีกฝ่ายว่ามีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ ซึ่งหญิงในโทรศัพท์ชื่อว่า พ. ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าว และอนุญาตให้บันทึกเสียงที่สนทนากันได้ โดยมีรายละเอียดประมาณว่า นายสมมีภรรยาหลายคน ได้คนใหม่เลิกคนเก่า เท่าที่ทราบมีภรรยาที่จังหวัดเชียงใหม่ มีลูกชายด้วยกัน ๑ คน ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็น สส.อยู่ แต่เลิกรากันไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ทราบว่าอยู่ด้วยกันกี่ปี ภรรยาอีกคนอยู่ที่อำเภอเถิน จ.ลำปาง มีลูก ๒ คน เป็นหญิงหนึ่งชายหนึ่ง ปัจจุบันลูกสาวของนายสมเป็นพยาบาล และทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วนายสม เคยเล่าให้พวกตนฟังว่าได้ไปอยู่กับภรรยาคนนี้ที่ลำปาง จนภรรยาเสียชีวิต จึงเร่ร่อนจากจังหวัดลำปาง ช่วงนั้นนายสมกลับมาที่บ้านโสกจาน ประมาณปี ๒๕๖๒ นายสมมีอาการผิดปกติทางจิต ตนจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โดยแพทย์ให้ยามาทานที่บ้าน แต่นายสมไม่ทานยา จู่ๆ นายสมก็ขับรถออกไปจากบ้านของหลานแล้วไปเติมน้ำมันโดยไม่จ่ายเงินที่ปั๊มใกล้บ้าน ภายหลังเจ้าของปั๊มไปแจ้งความ ตำรวจมาตาม ตนจึงไปชำระเงินที่ปั๊มให้ ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอนแก่นติดต่อมาว่านายสมขับรถไปทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เนื่องจากไปเติมน้ำมันแล้วไม่มีเงินจ่าย จึงทิ้งรถไว้แล้วหลบหนีไป ตนจึงให้น้องชายไปขับมาเก็บไว้ที่บ้านพี่สาว จอดทิ้งไว้จนปัจจุบัน ส่วนกรณีที่ไปอยู่กับหมอปลานั้น เพื่อนรุ่นน้องของนายสมมาพาไป โดยบอกว่าจะพาไปรักษาตัวกับหมอปลา แล้วก็หายเงียบไปจนเพิ่งเป็นข่าวในวันนี้